ขอติดรถ ไปด้วยคน.


ขอติดรถ ไปด้วยคน.

เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนๆพี่เราเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องที่เกิดที่เขาใหญ่

ตอนนั้นพวกพี่เขาเรียนกันที่ราชสิทธ์ เป็นกลุ่ม ออโต้ แต่ว่าจำรุ่นไม่ได้อ่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า พวกพี่ๆเขาพากันไปเที่ยวเขาใหญ่ ไปทั้งชั้นเรียน ฉะนั้นก็จะมีทั้งรถยนต์ ทั้งมอเตอร์ไซด์ วิ่งตามกันไป คนนำทางชื่อพี่เป๋อ เขาเป็นคนโคราช พี่ของเราเป็นคนขับ ก็จะวิ่งนำหน้าขบวน เป็นรถกะบะ แต่งออฟโรส ก็พากันไป ตอนขึ้นเขาใหญ่ก็ ประมาณสัก 4-5 โมงเย็นแล้ว กว่าจะถึงที่พักก็อีกนานโข จึงพากันจอดรถชมวิวไป กินเหล้าเฮฮากันไป พวกพี่พี่เขาพากันไปจอด ตรงจุดชมวิว(วิ่งเส้นปักธงชัย)บรรยากาศสวยมาก คนกินข้าวก็กินไปคนกินเหล้าก็กินกันไป มีประคองสติได้ก็ แค่ 2-3 คน นอกนั้นเรียกกันสั้นๆ ว่า เมา "ปลิ"

พอพักชมวิวกันได้สักพักก็ 6 โมงเย็นจะทุ่มแล้ว ก็ออกรถไปต่อ

รถก็เริ่มไต่ระดับไปเรื่อยๆ แล้วเริ่มเป็นทางเปลี่ยวและน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ซ้ายมองไปเป็นเหว ขวามองไปเป็นป่า ทางก็ชัน อยู่ดีดี พี่บอย(หนึ่งในสมาชิกเมาปลิ) ก็ตะโกนให้จอดรถ พี่เรา(คนขับ) ก็จอดนะ และเห็นพี่บอยเหมือนเชิญไครขึ้นรถ แต่ไม่มีไครเห็น ถามพี่เป๋อ(คนนำทาง) ก็ไม่เห็น ก็ลงมติว่า ไอ้พี่บอยเมาแล้วเพ้อแน่ๆ เลยๆตามเลย ออกรถนั่งกันไปเรื่อยๆ ขี้เมาก็ร้องเพลงโหวกเหวกตลอดทาง ขับมาสักพัก พี่เราก็งสังเกตุว่าทำไม่วงเหล้ามันเงียบผิดปกติ และแต่ละคนนั่งก้มหน้า มีอาการคือคอตก หน้าซีด พี่เราเลยจอดรถ พวกมอเตอร์ไซด์ที่ตามหลังมาก็จอด ถามเรื่องราวได้ว่า ไอ้พี่บอยและพวกเพื่อนๆที่นั่งในกระบะ เห็นผู้หญิงคนนึง ใส่เสื่อขาว และผ้าถุงแดงโบกรถ ก็เลยเรียกให้พี่เราจอดรถ พอนั่งมาได้สักพัก ก็เริ่มเหม็นอะไรเน่าๆตลอดทาง ก็โทษว่าไอ้พี่เต่า ตด (คือคนนี้เขาชอบตด) แต่พี่เต่าก็ปฏิเสธว่าปล่าว

สักพักผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มหน้าเละ และยืดตัวยาวสูงกว่าต้นไม้อีก

พวกพี่ที่เมากันก็หายเมาปลิดทิ้ง นั่งก้มหน้าตัวสั่นไม่กล้าหันขึ้นไปมอง แต่พี่เรากับพี่เป๋อ ไม่ปักใจเชื่อคิดว่าขี้เมาคงตาฝาด ไม่ก็เมากันจนเห็นภาพหลอน พอดีพี่ติ๊ก แฟนสิงห์มอไซด์ ที่นั่งซ้อนท้ายมอไซด์แฟน ตามหลังรถกะบะมา เขาก็บอกว่า.พี่ติ๊ก แฟนพี่เก่ง เขาบอกว่าเขาเห็นผู้หญิงคนนี้ โบกรถมาตลอดทาง คือหมายความว่า ไม่ว่าผ่านโค้งใหน เขาก็เห็นผู้หญิงคนนี้ โบกรถ แรกๆคิดว่าตัวเองอาฝาด เอาเข้าจริงพอสังเกตุดีๆ คือใส่เสื้อขาว ผ้าถุงแดง หน้าตาหน้ากลัวเหมือนอาฆาตไคร โบกรถมาตลอด ซึ่งจะเป็นไปได้อย่างไรว่าคนๆเดียวกัน จะมาดักโบกรถได้ทุกโค้ง มีหนทางเดียวคือต้องขับรถแซงกลุ่มพวกพี่เรา แล้วลงไปโบก แต่พี่ติ๊กเขาไม่กล้าบอกแฟนกลัวว่าจะกลัวกัน และก็เห็นไอ้พี่บอยนี่แหละ เป็นคนบอกให้รถหยุด และเรียกผู้หญิงคนนั้นขึ้น พวกพี่ก็ขนหัวลุก และที่สำคัญไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นหายไปไหนแล้ว

พวกพี่เขาก็เริ่มเดินทางต่อ เพราะยิ่งมืดบนเขาก็ยิ่งหน้ากลัว

ตอนนั้นก็ซักประมาณ ทุ่มครึ่ง พวกขี้เมาก็วงแตกกันไป กลายเป็นนั่งเหม่อ บางคนหลับ บางคนโทรหาแฟน กันไปตามเรื่องราว แต่ที่สำคัญบางคนเอาพระขึ้นมาไหว้ ปะหลกๆ ระหว่างนั้นทางมันมืดมากๆ พี่เราก็วิ่งเร็วไม่ได้เพราะมันเป็นทางลงเขาก็เลยต้องประคอง มอไซด์บางคันก็แซงกันไปก่อนหน้านี้(คือกลัวและถามทางพี่เป๋อนำหน้าไปก่อน) ระหว่างที่พี่เราขับไป รถก็เงียบทั้งคัน พี่เราเริ่มสังเกตุว่าทำไมรถที่สวนมาเปิดไฟกระพริบให้ตลอดทุกคันเหมือนกับว่ามีอะไร แต่พี่เขาก็มองๆ แล้วไม่มีอะไร ก็ขับไปต่อ จู่ๆมีเสียงเคาะกระจก เบาๆ พี่เรา และตกใจสะกิดพี่เป๋อ (กำลังเคริ้มหลับ) ให้ตื่น เพราะเสียงมันดังมาจากด้านคนนั่งข้าง พี่เป๋อก็เลยเปิดกระจกยื่นหน้าออกไป เห็นพวกขี้เมานอนหลับกันสนิท กำลังหดหัวกลับ พี่เราเห็นพี่เป๋อสะดุ้งจนตัวโยน แล้วรีบผลุบหน้าเข้ามาทันที พี่เราก็เลยถามว่ามีอะไรเหรอ พี่เป๋อแกไม่ตอบ แล้วโทรศัพท์ไปบอกพวกมอไซด์ ให้แวะร้านอาหาร(พอลงเขาแล้วจะมีร้านอาหารจำพวกข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำ) บอกว่าร้านนี้เป็นร้านญาติให้เข้าไปพักก่อน

พวกพี่ๆก็ตกลงกันว่าแวะ พอถึงร้านอาหาร บรรดาพวกพี่ๆมอไซด์ก็นั่งรอ

แล้วสั่งข้าวกินกัน พวกเด็กเสริฟ ก็จัดจานมา พอเอาจานมาแจก พวกพี่เขาก็เห็นว่าจานมันเกิน มา 1 ใบ เด็กเสริฟก็ทำหน้าแปลก บอกว่า ไม่เกินเพราะเขานับผู้หญิง บนรถด้วยค่ะ แต่ว่ารถกะบะไม่มีผู้หญิงนะ ถ้าจะมีก็คงเป็น....เท่านั้นแหละ ทุกคนก็ตาสว่างขึ้นมาและก็อยู่รอที่ร้านจนถึงเช้าถึงออกเดินทางต่อ......(หลอนกันไปเป็นแถว)


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์