เด็กอุ้มแมว


เด็กอุ้มแมว


"อาร์ต" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบ้านร้าง

เด็กอุ้มแมวคนนั้น ผมเห็นแกเป็นครั้งที่สามแล้วในเดือนนี้ มันไม่แปลกหรอกถ้าแกผ่านหน้าบ้านผมตอนกลางวัน หรืออย่างน้อยก็ราวๆ หัวค่ำ แต่นี่แกเล่นเดินอุ้มแมวดำตัวเขื่องเดินหน้าตาเฉย เลี้ยวเข้าไปในบ้านร้างตอนตีสอง...ทำเอาผมตาค้างเลยครับ

แกอายุราว 5-6 ขวบเท่านั้นเอง ตัวกะเปี๊ยกเดียว เป็นคุณเห็นอย่างผมบ้างคุณจะไม่ขนหัวลุกเรอะ?


เด็กอะไรมาจากไหนไม่รู้ ตอนกลางดึกกลางดื่นขนาดนั้น!

ผมเป็นนักศึกษาปีสองและชอบนอนดึกๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ บางทีก็ทำงาน...ผมหมายถึงทำการบ้านน่ะครับ และบางทีก็เล่นเน็ต ที่อยู่ดึกๆ ก็เพราะมันเงียบสงัดดี คนอื่นๆ เขานอนหลับกันทั้งบ้านทั้งซอย มันเหมือนโลกนี้มีผมคนเดียวเลย

ผมชอบนักเชียวบรรยากาศแบบนี้ และผมก็ชอบที่จะคว้าขวดน้ำหรือเครื่องดื่มเย็นๆ ออกมายืนที่ระเบียงห้องผม มองลงมามีแต่ความมืด แสงไฟถนนและทุกสิ่งที่นั่นสงบ บนท้องฟ้ามีดวงดาว ดวงจันทร์ หรือบางคืนก็มีเมฆหนาสะท้อนไฟเมืองเป็นสีแดง...ถ้าเห็นแบบนี้ละก็อีกไม่นานฝนก็ตก สบายไปอีกแบบ

สรุปว่าผมรักบรรยากาศกลางคืนมากเชียวครับ

คุณคงสงสัยว่าผมไม่กลัวผีหรือไง?


ผมไม่กลัวหรอกครับ แต่บอกตรงๆ ว่าหลังจากที่คุณตาข้างบ้านเสียชีวิตเมื่อเดือนก่อน ผมก็เริ่มเสียวไส้อยู่เหมือนกัน!

คุณตาผจญอายุแปดสิบกว่าๆ ใจดี ตัวอ้วนเตี้ย ผมขาว ท่านอยู่บ้านติดๆ กับบ้านผม รั้วเดียวกันเลยละครับ ภรรยาท่านชื่อคุณ ยายมาลัย ทั้งคู่มีลูกสาวคนเดียว ซึ่งแต่งงานแยกไปอยู่กับสามี ตั้งนมนานกาเลแล้ว จึงเหลือกันอยู่แค่สองคนตายายกับเด็กรับใช้อีกคนหนึ่ง...บ้านช่องก็ออกใหญ่โตกว้างขวาง น่าจะอยู่กันเยอะๆ

พอคุณตาเสียชีวิต ลูกสาวก็มารับคุณยายไปอยู่ด้วยพร้อมกับคนรับใช้ บ้านหลังนี้ก็เลยไม่มีคนอยู่ ตอนกลางคืนน่ะ มืด เงียบ วังเวงน่าดูเลย


ผมมักจะชำเลืองมองบ่อยๆ เสียวไส้ว่าคุณตาผจญจะโผล่มา ยิ้มให้ แต่ก็ไม่มีอะไร มีแต่ความหดหู่เศร้าหมอง...เห็นบ้านร้างผู้คนแบบนี้แล้วอยากร้องไห้ครับ

แต่แล้วคืนหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังดื่มด่ำกันยามดึก ผมก็ เห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งเดินเข้ามาในสายตา...แกเดิน เรื่อยๆ ตามสบาย หน้าตรงๆ เรียบเฉยไร้อารมณ์ หัวทุย ผมเกรียนแบบนักเรียน ใส่เสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำๆ สวมรอง เท้าแตะ...


แกอุ้มแมวดำตัวใหญ่ไว้ในอ้อมแขน ผ่านแสงไฟถนนสว่างจ้า แล้วเลี้ยวเข้าไปในบ้านคุณตาผจญ!

ผมขนลุกซู่เลยครับ เพราะมันเป็นเรื่องผิดปกติมากๆ ที่จะมีเด็กตัวเล็กๆ เดินท่อมๆ ตอนตีสองแล้วหายเข้าไปในบ้านที่ไม่มีคนอยู่...มันเหมือนแกละลายเข้าไปในบ้านจริงๆ เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีวี่แววสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวในบ้านเลย ทุกอย่างยังคงมืด เงียบ และวังเวง...


แม่ฟังที่ผมเล่าแล้วก็พลอยขนลุกไปด้วย...เราลงความเห็นว่าแกไม่น่าจะเป็นคน!

ในที่สุด เมื่อผมเห็นแกเป็นครั้งที่สาม ด้วยอากัปกิริยาเหมือนเดิมทุกประการเช่นนี้ ผมก็อดใจไม่อยู่ ต้องถามคนแถวๆ นี้ว่ามันคืออะไรแน่? ผลก็คือผมทำให้คนทั้งซอยขนลุกและร่ำลือว่า...บ้านคุณตาผจญผีดุ! เป็นผีเด็กอุ้มแมวดำ!!

บ่ายวันหนึ่ง ขณะผมอยู่บ้านเพราะเตรียมสอบ ผมก็เห็นคุณยายมาลัยมากับลูกสาว แหม...ผมดีใจครับ เลยทำเป็นเดินออกไปหน้าบ้าน พอสบโอกาสก็ทักทายคุณยายกับคุณน้าที่เป็นลูกสาวท่าน...เราคุยกันครู่หนึ่งผมก็ได้ความรู้ว่า บ้านนี้กำลังจะประกาศขาย คุณยายน้ำตาคลอเชียว เพราะท่านรักที่นี่มาก


ผมได้จังหวะก็ถามเอาตรงๆ ว่า ผมเห็นเด็กอุ้มแมวดำเดินเข้ามาในบ้านตอนดึกๆ

คราวนี้คุณยายน้ำตาไหลพรากเลยครับ...

ปรากฏว่าคุณยายเองก็ไม่รู้ที่มาที่ไปของเด็กคนนั้น แต่ท่านเชื่อว่าคงเป็นหนึ่งในผีบ้านผีเรือน ที่เศร้าโศกเสียใจเช่นเดียวกับท่านที่บ้านไม่เหมือนเดิม...เจ้าของทิ้งไปแล้วยังจะขายอีก มีหวังถูกรื้อทิ้งแน่ๆ

ผมได้ยินก็ใจหายวาบ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกสงสารผีขึ้นมาอย่างเต็มตื้น...

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังๆ นี้ผมนอนหัวค่ำขึ้นเยอะเลย และไม่คิดจะออกไปดื่มด่ำบรรยากาศที่ระเบียงอีก แต่ปิดประตูลงกลอน รูดม่านให้สนิท ไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งนั้น


ไม่ชะโงกหน้าออกไป...ไม่แม้แต่กระทั่งแง้มม่านดู!


ผมกลัวซิครับ...กลัวจะเห็นเด็กอุ้มแมวอีก เกิดแกเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะร่ากับผมเข้า จะทำไงล่ะ? เอาเป็นว่า ตอนนี้ผมสวดมนต์แผ่ส่วนกุศลไปให้ก็แล้วกัน! บรื๋ออออ...


ขอบคุณแหล่งที่มาจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์