ปีศาจบนสะพาน


ปีศาจบนสะพาน

"ปราง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากพุทธมณฑลสาย 2

ก่อนจะถึงยุคฟองสบู่แตกเมื่อสิบปีก่อน ที่ดินมีราคาเหมือนทองคำ ทำให้คนเป็นเศรษฐีมานับไม่ถ้วนแล้วค่ะ ขนาดจ่ายมัดจำตอนสาย พอตกบ่ายก็ขายมัดจำได้กำไรเป็นหมื่นเป็นแสนแล้ว ไม่รวยตอนนี้แล้วจะไปรวยตอนไหนคะ?

บังเอิญดิฉันเป็นพนักงานบริษัท มีแต่เงินเดือนเท่านั้นแหละค่ะที่เป็นของตาย

เพื่อนๆ เขารวยกันโครมๆ แต่ก็ไม่ได้อิจฉาเขานะ เพราะเพื่อนก็คือเพื่อนวันยังค่ำ...พวกเรามนุษย์เงินเดือน ยอมรับว่าใจไม่ถึง ไม่กล้าเสี่ยงเหมือนเพื่อนๆ กลายเป็นเศรษฐินีย่อยๆ ก็ไม่ได้อิจฉาริษยาหรอกค่ะ พวกที่เปลี่ยนฐานะรวดเร็วราวกับพลิกฝ่ามือก็เสมอต้นเสมอปลายกับเพื่อนๆ ดีทุกคน

นอกจากจะไม่รวยเหมือนเพื่อนแล้ว ดิฉันยังถูกผีหลอกอีกด้วย!

สาเหตุมาจาก "ขวัญ" เพื่อนคนหนึ่งร่ำรวยจากการเป็นนายหน้าขายที่ดิน ขนาดออกจากงานประจำเลย ขวัญเคยเช่าห้องอยู่แถวหลังศาลาเฉลิมกรุง พอมีเงินมากเข้าก็ไปซื้อที่แถวถนนเพชรเกษม เกือบถึงบางแคโน่น...ปลูกบ้านในฝันแสนสวย ตื่นเต้นจนมาชวนเพื่อนไปดูตั้งแต่เริ่มปลูกสร้างจนสำเร็จเรียบร้อย

พวกเราที่ซี้ๆ กัน มีดิฉัน, แอ้, หมวย, แพรว...ไปงานทำบุญบ้านเลี้ยงพระ ท่านทั้งให้ศีลให้พรและพรมน้ำมนต์ ก็ดีเหมือนกันค่ะ...อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เราสบายใจว่าเป็นสิริมงคล

ต่อมา ขวัญก็ชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวบ้านอีก เธอจ้างเขามาจัดสวน...แต่อดถามเราไม่ได้ว่าดีมั้ย? สวยมั้ย? ควรมีน้ำพุหน้าบ้านหรือเปล่า? อ้อ! น้ำพุในสระบัวน่ะ!

แอ้บอกว่าบ่อน้ำหน้าบ้านก็ดีนะ เพราะหันหน้าไปทางตะวันออก ตามฮวงจุ้ยเขาว่ามีบ่อน้ำรับแดดอยู่ทำให้เจ้าของบ้านไม่ต้องเร่าร้อนด้วยปัญหาจิปาถะ แต่แพรวกลับบอกว่าเรื่องบ่อน้ำชั้นไม่รู้ ชั้นรู้แต่ว่าน้ำพุในบ้านไม่ดี ...ทำให้ชีวิตเจ้าของต้องขึ้นๆ ลงๆ เหมือนน้ำพุ

เจ้าขวัญบ้าจี้เลยให้ช่างขุดแต่บ่อบัว หาปลาสวยๆ มาใส่ ตามขอบบ่อก็หาพวกกกกับปรง รวมทั้งเฟิร์นสวยๆ หลายชนิดมารายล้อมดูเย็นตาสบายใจจริงๆ ค่ะ

แหม...ที่เล่ามาซะละเอียดก็เพราะพวกเราอยู่ห้องเช่าแคบๆ ไม่มีวาสนาได้อยู่บ้านใหม่ๆ มีสนามสวยๆ จะออกแบบยังไงก็ได้ตามใจชอบ...ความจริงบ้านใหม่ของขวัญน่ะไม่มีผีสางอะไรหรอก...ดิฉันมาโดนผีหลอกกลางทางน่ะค่ะ!

ขวัญโทร.มาหาตอนบ่ายวันศุกร์ ชวนไปเที่ยวบ้านตามฟอร์ม บอกว่าสั่งอาหารจากร้านดังๆ มาคอยต้อนรับเพียบ...ตอนแรกก็จะไปกันหลายคน แต่พอเอาจริงเข้าก็ติดนั่นติดนี่ร้อยแปด จนเหลือแต่ดิฉันกับหมวยแค่สองคน

หมวยมีรถคันเล็กๆ คู่ใจ ที่ดีมากคือบ้านเราอยู่ซอยอินทรพิทักษ์ วงเวียนใหญ่ใกล้กันซะด้วย...บังเอิญว่าดวงจะถูกผีหลอกทั้งคู่ก็แล้วกัน

ปรากฏว่าสามีเจ้าขวัญไปราชการต่างจังหวัด 2 คืน บ้านสวยๆ นั่นก็อยู่กับแม่ครัวและสาวใช้ เลยใช้วิธีชวนเพื่อนมาอยู่ด้วยซะงั้น...หัวแหลมนักนะ รู้จักเอาของกินมาล่อซะด้วย!

เราถูกเพื่อนเจ้าเล่ห์เหนี่ยวรั้งเอาไว้จนเกือบสี่ทุ่ม...ไม่ไหวแล้ว ต่อให้พรุ่งนี้หยุดงานก็เถอะ อยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอนเต็มที ขวัญตื๊อไม่ไหวก็สารภาพเสียงอ่อยๆ ว่า...ก่อนถึงบ้านไม่ไกลมีทางแยกด้านขวา ที่นั่นเขาว่าผีดุนัก!

หมวยร้องเฮ้ย! ดิฉันอ้าปากค้าง ขวัญก็เล่าต่อหน้าตาเฉยว่า...แถวปากทางมีร้านขายไม้ เข้าไปหน่อยก็ถึงสะพานข้ามคลองบางจาก เราเรียกพุทธมณฑลสาย 2 มีหมู่บ้านจัดสรรขึ้นมาไม่กี่ปีนี่เอง...ลือกันว่าตอนดึกๆ มีคนเห็นผีหัวขาดเดินดุ่มๆ ขึ้นสะพาน บางทีก็ลงมาใกล้ๆ ถนนใหญ่ เอาแน่ไม่ได้

เจ้าหมวยกับดิฉันสังกัดบริษัทตาแหกพอๆ กัน ด่าทอเพื่อน 2-3 คำแล้วรีบอำลาทันที...เรานั่งกันมาเงียบเชียบ ได้ยินแต่เสียงเครื่องยนต์กระหึ่ม ตามองไปที่แสงไฟสาดจ้ารถราดูบางตาเต็มที คนเดินถนนน่ะไม่มีเลย

ทันใดนั้นเอง เจ้าหมวยก็หลุดปากครางเบาๆ อ้าปากค้าง ดิฉันมองเห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่เดินดุ่มๆ เลี้ยวเข้าถนนซอยทางซ้ายมือ เลยถามเจ้าหมวยผู้ชะลอรถดื้อๆ ว่าแกร้องทำไมวะ? เพื่อนบอกว่าข้างหน้านั่นมันพุทธมณฑลสาย 2 ไม่ใช่รึ? เจ้าขวัญมันเพิ่งเล่าว่า...

สุ้มเสียงขาดหายไป ขณะที่รถแล่นผ่านปากซอยช้าๆ โรงไม้ดำทะมึนโดดเด่นถัดไป แต่ชายผู้นั้นกำลังเดินขึ้นสะพานช้าๆ

ตอนแรกก็ดูกลมกลืนกับความมืดสลัว...จนกระทั่งร่างนั้นค่อยๆ ย่างขึ้นบนสะพานเหมือนกับยืดตัวขึ้นไปทุกทีจนหยุดนิ่ง...ยืนโดดเด่นบนสะพานที่มีแสงไฟอยู่เบื้องหลัง

คุณพระช่วย! เสียงหมวยหวีดร้องแสบแก้วหู ดิฉันก็ม่านตาลายพร่า หัวใจคล้ายจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่ยืนตระหง่านอยู่นั้นคือผีหัวขาด! เสียงหมวยยังวี้ดๆ ไม่หยุดปาก โชคดีที่ปากร้องแต่มือเท้าสั่นเทาจัดการเร่งรถพุ่งปราดออกไปเหมือนลมพัด

ภาพสยดสยองนั้นลับหายไปแล้ว แต่มันยังติดตาดิฉันมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์