คนชอบลองดี ทดลองตาย
คนรุ่นใหม่กับสิ่งลี้ลับมักจะมีประโยค ๆ หนึ่งที่มักใช้กันบ่อยครั้งนั่นก็คือ
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ วัยรุ่นปัจจุบัน
นี้มีบางคนเชื่อในเรื่องภูตผีปีศาจ แต่บางคนไม่เชื่อ
ด้วยความไม่เชื่อนี่แหล่ะบางคนถึงกับขอลองดีกับสิ่ง
ที่เราเรียกกันว่าผี !!! เรื่องไปมาก เราหวังให้เรื่องที่เราได้รับมาเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่นๆ
และหวังว่าคงจะไม่มีใครทำให้เป็นเรื่องจริง...
ทดลองตายเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ผมและเพื่อน ๆ
ต้องจดจำกันไปชั่วชีวิตเลยก็ว่าได้ครับ เพราะ เพื่อนที่พวกผมรักต้องมาจากพวกผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
และสาเหตุก็มาจากการชอบลองดี. ....แอ๋มเป็นผู้หญิง ที่มั่นใจในตัวเอง ตัวสูงหัวสมัยใหม่ ไม่เชื่อใน
เรื่องผีสักเท่าไหรอยู่มาวันหนึ่ง แอ๋มไปเจอหนังสือเก่าเล่มหนึ่งที่สวนจตุจักร หนังสือเล่มนั้นเป็นเรื่องราว
ของการพิสูจน์ ในสิ่งที่ลี้ลับ
ผมรู้สึกว่าแอ๋มติดใจกับหนังสือเล่มนั้นมาก คอยชักชวนให้พวกผมลองทำอย่างหนังสือที่ได้เขียนไว้ และ
นั่นก็คือวิธีการที่จะได้เข้าไปสัมผัสกับ เรื่องของวิญญาณ และมีอยู่วิธีหนึ่งที่แอ๋มดูท่าทางจะชอบ และ
อยากลองมากๆ นั่นก็คือการทดลองตาย พวกผมไม่เห็นด้วยกับแอ๋มเลย ก็ความตายนี่ครับ ใครมันจะบ้า
อยากไปลองกันล่ะนอกจาก แอ๋ม ผมพยายามขอให้แอ๋มเปลี่ยนความคิดนี้ซะ เพราะ มันดูจะเป็นการเสี่ยงเอามาก ๆแต่แอ๋มไม่เชื่อครับ แถมยังให้พวกผมไปหาอุปกรณ์มาอีกต่างหาก อุปกรณ์ที่ว่าก็มีขี้เถ้า
จากเชิงตะกอนให้ห่อผ้าดำไว้, สายสิญจน์,ดอกไม้ธูปเทียน และโลงศพที่ใช้แล้ว!แต่พวกเราไม่ได้เตรียม
ของให้เธอนะ เพราะ เราไม่เห็นด้วยเลยกับการที่จะมาลอง ของ แบบนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งแอ๋มได้นัดพวก
ผมไปที่วัดร้างแห่งหนึ่ง และเธอได้เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไว้เสร็จเรียบร้อย เธอรอให้พวกผมไปร่วมพิธีกับเธอเท่านั้นแอ๋มบอกผมว่าทุกคนที่เข้าร่วมพิธีต้องใส่เสื้อผ้าสีดำ และต้องเอาผงขี้เถ้าจากเชิงตะกอน
ละลายกับน้ำในวัดมาป้ายที่ตา เพื่อที่จะได้เห็นวิญญาณ ที่ออกจากร่างแล้วของแอ๋มเมื่อถึงเวลาแอ๋มเริ่ม
จุดธูป และก็นำไปปักรอบ ๆโลงศพ จากนั้นก็เอาน้ำขี้เถ้ามาป้ายที่ตา แล้วเธอก็ลงไปนอนในโลงศพ จาก
นั้นแอ๋มให้ผมมัดเธอด้วยสายสิญจน์พร้อมดอกไม้ธูปเทียน เหมือนมัดตราสังข์ศพเป๊ะๆผมขอให้แอ๋มเลิก
อย่าลองพิสูจน์อะไรบ้าๆ แบบนี้เลย แต่เธอไม่เชื่อผม แล้วเธอเริ่มท่องคาถาเบาๆแอ๋มบอกว่ามันเป็นคาถา
ถอดวิญญาณ ขณะนั้นเองก็เกิดลมพัดมาวูบหนึ่ง มันทำให้ผมหนาวเย็นไปถึงกระดูกและผมรู้สึกถึงความ
น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูกแล้ว ตามมาด้วยเสียงหมาหอนที่ทำเอาผมสะดุ้งพร้อมๆ กับขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
แต่สิ่งที่ทำให้ผมเกือบจะช็อค !ผมเห็นวิญญาณของแอ๋มกำลังล่องลอยออกจากร่างของเธอและข้าง ๆ มี
ผู้ชายน่ากลัวสองคนแต่งตัวแบบยมฑูต ที่ผมเคยเห็นในทีวีกำลังพาเธอไป ส่วนรอบๆ ตัวผมเต็มไปด้วย
วิญญาณที่คอยแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกผมอยู่ พร้อมๆ กับเสียงร้องที่โหยหวนชวนสยองของพวกมันพวกมัน
กำลังเดินเข้ามาหาผม ผมเอามือขยี้ตา ให้ตายเถอะ!ผมไม่ได้ตาฝาด ผมกับเพื่อนๆ สวมวิญญาณสี่ขา
โกยแน่บออกมาจากวัดร้างทันที โดยไม่หันไปมองข้างหลังอีกเลย จนกระทั่งรุ่งเช้าแสงจากพระอาทิตย์
โผล่มานั่นล่ะ พวกผมถึงกลับไปที่วัดร้างแห่งนั้นแต่ผมมาช้าไปแล้ว ที่นั่นมีแต่ร่างไร้วิญญาณของแอ๋
มพร้อมกับร่องรอยของการทำพิธีทดลองความตาย ที่ทำให้แอ๋มพบกับจุดจบของเธอ ด้วยการลองดีที่เธอชอบนั่นเอง
ขอบคุณเรื่องเล่าจากพลังจิตดอทคอม
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ วัยรุ่นปัจจุบัน
นี้มีบางคนเชื่อในเรื่องภูตผีปีศาจ แต่บางคนไม่เชื่อ
ด้วยความไม่เชื่อนี่แหล่ะบางคนถึงกับขอลองดีกับสิ่ง
ที่เราเรียกกันว่าผี !!! เรื่องไปมาก เราหวังให้เรื่องที่เราได้รับมาเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่นๆ
และหวังว่าคงจะไม่มีใครทำให้เป็นเรื่องจริง...
ทดลองตายเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ผมและเพื่อน ๆ
ต้องจดจำกันไปชั่วชีวิตเลยก็ว่าได้ครับ เพราะ เพื่อนที่พวกผมรักต้องมาจากพวกผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
และสาเหตุก็มาจากการชอบลองดี. ....แอ๋มเป็นผู้หญิง ที่มั่นใจในตัวเอง ตัวสูงหัวสมัยใหม่ ไม่เชื่อใน
เรื่องผีสักเท่าไหรอยู่มาวันหนึ่ง แอ๋มไปเจอหนังสือเก่าเล่มหนึ่งที่สวนจตุจักร หนังสือเล่มนั้นเป็นเรื่องราว
ของการพิสูจน์ ในสิ่งที่ลี้ลับ
ผมรู้สึกว่าแอ๋มติดใจกับหนังสือเล่มนั้นมาก คอยชักชวนให้พวกผมลองทำอย่างหนังสือที่ได้เขียนไว้ และ
นั่นก็คือวิธีการที่จะได้เข้าไปสัมผัสกับ เรื่องของวิญญาณ และมีอยู่วิธีหนึ่งที่แอ๋มดูท่าทางจะชอบ และ
อยากลองมากๆ นั่นก็คือการทดลองตาย พวกผมไม่เห็นด้วยกับแอ๋มเลย ก็ความตายนี่ครับ ใครมันจะบ้า
อยากไปลองกันล่ะนอกจาก แอ๋ม ผมพยายามขอให้แอ๋มเปลี่ยนความคิดนี้ซะ เพราะ มันดูจะเป็นการเสี่ยงเอามาก ๆแต่แอ๋มไม่เชื่อครับ แถมยังให้พวกผมไปหาอุปกรณ์มาอีกต่างหาก อุปกรณ์ที่ว่าก็มีขี้เถ้า
จากเชิงตะกอนให้ห่อผ้าดำไว้, สายสิญจน์,ดอกไม้ธูปเทียน และโลงศพที่ใช้แล้ว!แต่พวกเราไม่ได้เตรียม
ของให้เธอนะ เพราะ เราไม่เห็นด้วยเลยกับการที่จะมาลอง ของ แบบนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งแอ๋มได้นัดพวก
ผมไปที่วัดร้างแห่งหนึ่ง และเธอได้เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไว้เสร็จเรียบร้อย เธอรอให้พวกผมไปร่วมพิธีกับเธอเท่านั้นแอ๋มบอกผมว่าทุกคนที่เข้าร่วมพิธีต้องใส่เสื้อผ้าสีดำ และต้องเอาผงขี้เถ้าจากเชิงตะกอน
ละลายกับน้ำในวัดมาป้ายที่ตา เพื่อที่จะได้เห็นวิญญาณ ที่ออกจากร่างแล้วของแอ๋มเมื่อถึงเวลาแอ๋มเริ่ม
จุดธูป และก็นำไปปักรอบ ๆโลงศพ จากนั้นก็เอาน้ำขี้เถ้ามาป้ายที่ตา แล้วเธอก็ลงไปนอนในโลงศพ จาก
นั้นแอ๋มให้ผมมัดเธอด้วยสายสิญจน์พร้อมดอกไม้ธูปเทียน เหมือนมัดตราสังข์ศพเป๊ะๆผมขอให้แอ๋มเลิก
อย่าลองพิสูจน์อะไรบ้าๆ แบบนี้เลย แต่เธอไม่เชื่อผม แล้วเธอเริ่มท่องคาถาเบาๆแอ๋มบอกว่ามันเป็นคาถา
ถอดวิญญาณ ขณะนั้นเองก็เกิดลมพัดมาวูบหนึ่ง มันทำให้ผมหนาวเย็นไปถึงกระดูกและผมรู้สึกถึงความ
น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูกแล้ว ตามมาด้วยเสียงหมาหอนที่ทำเอาผมสะดุ้งพร้อมๆ กับขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
แต่สิ่งที่ทำให้ผมเกือบจะช็อค !ผมเห็นวิญญาณของแอ๋มกำลังล่องลอยออกจากร่างของเธอและข้าง ๆ มี
ผู้ชายน่ากลัวสองคนแต่งตัวแบบยมฑูต ที่ผมเคยเห็นในทีวีกำลังพาเธอไป ส่วนรอบๆ ตัวผมเต็มไปด้วย
วิญญาณที่คอยแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกผมอยู่ พร้อมๆ กับเสียงร้องที่โหยหวนชวนสยองของพวกมันพวกมัน
กำลังเดินเข้ามาหาผม ผมเอามือขยี้ตา ให้ตายเถอะ!ผมไม่ได้ตาฝาด ผมกับเพื่อนๆ สวมวิญญาณสี่ขา
โกยแน่บออกมาจากวัดร้างทันที โดยไม่หันไปมองข้างหลังอีกเลย จนกระทั่งรุ่งเช้าแสงจากพระอาทิตย์
โผล่มานั่นล่ะ พวกผมถึงกลับไปที่วัดร้างแห่งนั้นแต่ผมมาช้าไปแล้ว ที่นั่นมีแต่ร่างไร้วิญญาณของแอ๋
มพร้อมกับร่องรอยของการทำพิธีทดลองความตาย ที่ทำให้แอ๋มพบกับจุดจบของเธอ ด้วยการลองดีที่เธอชอบนั่นเอง
ขอบคุณเรื่องเล่าจากพลังจิตดอทคอม
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!