เจ้าของเขาหวง
"ตฤณ" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากหม้อดินเผาสมัยดึกดำบรรพ์
เรื่องราวอาถรรพณ์ของวัตถุโบราณต่างๆ เป็นที่บอกกล่าวเล่าขานกันถึงความน่าสยดสยองแทบจะทั่วโลก เมื่อมีคนโลภหรือคึกคะนอง รวมทั้งพวกมือไวใจเร็ว ชอบฉกฉวยลักขโมยไปจากแหล่งเดิมของมัน
เช่นวัตถุโบราณจากอียิปต์ หรือแม้แต่เศษอิฐเศษหินในเมืองเก่าของเรา เช่น ที่สุโขทัยและอยุธยา เป็นต้น
ที่ตกเป็นข่าวบ่อยๆ มาหลายสิบปีก็คือ คนที่หยิบฉวยเอากลับไปบ้านจะพบกับเหตุการณ์สยดสยอง ทำให้เกิดเรื่องร้ายกาจต่างๆ ความพินาศตั้งแต่สถานเบาไปจนถึงแก่ชีวิตที่อุบัติกับตัวเองและครอบครัว หลายๆ รายถึงกับกลายเป็นคนวิกลจริต บ้าคลั่งไปเลยก็มี
"ของเก่า" ที่โดนหยิบฉวยไปนั้นถูกส่งกลับคืนมายังสถานทูตของประเทศนั้นๆ จนถึงส่งกลับแหล่งที่ลักขโมยมา บางรายก็มีจดหมายบอกกล่าวด้วยว่า เจอะเจอกับอิทธิฤทธิ์ของวัตถุโบราณจนแทบจะสติแตกไปตามๆ กัน
ผมเองเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาแล้วครับ!
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในการขุดพบวัตถุโบราณที่บ้านเชียง จนเป็นข่าวน่าตื่นเต้นสำหรับวงการโบราณคดีของเมืองไทย
เมื่อปี 2513 ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมศิลปากรไปตรวจการขุดค้นแหล่งโบราณดังกล่าวที่บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี มีกลุ่มผู้ติดตามจากจังหวัดไปด้วยหลายคนทั้งหญิงและชาย จากนั้นได้เดินทางไปที่ตำบลบ้านแวง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ในตอนเย็น
ขณะที่จะเดินทางกลับอุดรฯ ก็ได้มีหญิงชราในตำบลนั้นนำหม้อดินเผาโบราณขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่เป็นหม้อเก่าแก่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มาให้คุณป้าพาณี พร้อมกับบอกว่า...หม้อนี้เป็นของฉันเอง ขอมอบให้คุณนายเป็นที่ระลึก!
เมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณป้าพาณีก็ได้ตั้งหม้อดินเผาไว้บนโต๊ะในห้องรับแขก ใจจริงคงไม่ได้คิดอะไรมากกว่าเป็นหม้อโบราณคร่ำคร่า ดูแปลกตาดีเท่านั้น
คืนนั้นเองก็มีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น!
คนในบ้านที่เป็นลูกหลาน รวมทั้งป้าพาณีเองก็ฝันเห็นเด็กผู้ชายไว้ผมจุก อายุราว 5-6 ขวบ ไม่นุ่งผ้าผ่อน วิ่งเล่นไปมาอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกนั้น...แม้จะดูแปลกที่ฝันตรงกันและเล่าสู่กันฟัง แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรมาก
ไม่ได้หวั่นกลัว หรือแม้แต่หวาดระแวงหม้อดินเผาสมัยดึกดำบรรพ์นั้นแต่อย่างใด
จนกระทั่งคืนต่อมา...ป้าพาณีก็ฝันเห็นเด็กชายคนเดิมวิ่งเล่นครืนๆ และมาโผล่ที่หน้าประตู หน้าตาดูซุกซน ทำเอียงคอกลอกตาไปมาด้วยอาการล้อเลียน ก่อนจะวิ่งออกไป-วิ่งเข้ามาเช่นนี้อีกราว 2-3 ครั้ง
เมื่อป้าพาณีตกใจตื่นขึ้นมากลางดึก ท่ามกลางความเงียบเชียบ เยือกเย็น มีแสงจันทร์ส่องแสงจางๆ เข้ามาทางหน้าต่าง...เสียงวิ่งเล่นครึกโครมก็พลันดังขึ้นเหมือนตกอยู่ในความฝันเช่นเดิม ผสมกับเสียงหัวเราะคิกคักจนทำให้ขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
ด้วยอารามอยากรู้อยากเห็น ทำให้ป้าพาณีลุกจากที่นอนไปเปิดประตู และเปิดไฟห้องรับแขกดูให้รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณพระช่วย! ท่ามกลางแสงสว่างเยือกเย็นนั้น ปรากฏร่างของเด็กชายตัวล่อนจ้อน ไว้ผมจุกรุ่ยร่ายตรงกับความฝัน กำลังยืนเท้าเอวอยู่บนโต๊ะรับแขก แล้วค่อยๆ หันมามองอย่างเชื่องช้า...
ป้าพาณียืนตกตะลึง ยกมือทาบอก หัวใจเต้นกระหน่ำ รู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นๆ ถังใหญ่สาดโครมลงมาบนหัว เบิกตามองภาพเบื้องหน้าด้วยความหวาดกลัวสุดขีดใจแทบขาด
เด็กประหลาดผู้นั้นมีใบหน้าขาวซีด ดวงตาขนาดใหญ่แดงก่ำ แสยะยิ้มเห็นฟันขาววับน่าสยอง และแล้วก็กระโดดแผล็วลงไปในหม้อดินโบราณต่อหน้าต่อตา...ขณะที่เสียงหัวเราะคิกๆ ยังดังแว่วออกมากระทบหู
เสียงร้องกรี๊ดๆ ทำให้คนตื่นทั้งบ้าน...วิ่งออกมาพบร่างป้าพาณีนอนสิ้นสติไปแล้ว
รุ่งขึ้น ป้าพาณีผู้จับไข้ตัวร้อนจัดก็สั่งให้ลูกหลานนำหม้อดินเผาใบนั้นไปส่งคืนเจ้าของทันที...แม้ว่าจะไม่ได้ลักขโมยก็จริง แต่วัตถุโบราณก็สมควรจะอยู่กับที่เดิม ไม่ใช่มาอยู่ในบ้านช่องผู้คนทั่วไป
คนใจบาปหยาบช้าจงเลิกลักขโมยของโบราณ รวมทั้งพระพุทธรูปตามวัดต่างๆ เพื่อผลประโยชน์เล็กน้อย ระวังบาปกรรมจะตามทันเพราะ...เจ้าของเขาหวงนะครับ!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เรื่องราวอาถรรพณ์ของวัตถุโบราณต่างๆ เป็นที่บอกกล่าวเล่าขานกันถึงความน่าสยดสยองแทบจะทั่วโลก เมื่อมีคนโลภหรือคึกคะนอง รวมทั้งพวกมือไวใจเร็ว ชอบฉกฉวยลักขโมยไปจากแหล่งเดิมของมัน
เช่นวัตถุโบราณจากอียิปต์ หรือแม้แต่เศษอิฐเศษหินในเมืองเก่าของเรา เช่น ที่สุโขทัยและอยุธยา เป็นต้น
ที่ตกเป็นข่าวบ่อยๆ มาหลายสิบปีก็คือ คนที่หยิบฉวยเอากลับไปบ้านจะพบกับเหตุการณ์สยดสยอง ทำให้เกิดเรื่องร้ายกาจต่างๆ ความพินาศตั้งแต่สถานเบาไปจนถึงแก่ชีวิตที่อุบัติกับตัวเองและครอบครัว หลายๆ รายถึงกับกลายเป็นคนวิกลจริต บ้าคลั่งไปเลยก็มี
"ของเก่า" ที่โดนหยิบฉวยไปนั้นถูกส่งกลับคืนมายังสถานทูตของประเทศนั้นๆ จนถึงส่งกลับแหล่งที่ลักขโมยมา บางรายก็มีจดหมายบอกกล่าวด้วยว่า เจอะเจอกับอิทธิฤทธิ์ของวัตถุโบราณจนแทบจะสติแตกไปตามๆ กัน
ผมเองเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาแล้วครับ!
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในการขุดพบวัตถุโบราณที่บ้านเชียง จนเป็นข่าวน่าตื่นเต้นสำหรับวงการโบราณคดีของเมืองไทย
เมื่อปี 2513 ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมศิลปากรไปตรวจการขุดค้นแหล่งโบราณดังกล่าวที่บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี มีกลุ่มผู้ติดตามจากจังหวัดไปด้วยหลายคนทั้งหญิงและชาย จากนั้นได้เดินทางไปที่ตำบลบ้านแวง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ในตอนเย็น
ขณะที่จะเดินทางกลับอุดรฯ ก็ได้มีหญิงชราในตำบลนั้นนำหม้อดินเผาโบราณขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่เป็นหม้อเก่าแก่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มาให้คุณป้าพาณี พร้อมกับบอกว่า...หม้อนี้เป็นของฉันเอง ขอมอบให้คุณนายเป็นที่ระลึก!
เมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณป้าพาณีก็ได้ตั้งหม้อดินเผาไว้บนโต๊ะในห้องรับแขก ใจจริงคงไม่ได้คิดอะไรมากกว่าเป็นหม้อโบราณคร่ำคร่า ดูแปลกตาดีเท่านั้น
คืนนั้นเองก็มีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น!
คนในบ้านที่เป็นลูกหลาน รวมทั้งป้าพาณีเองก็ฝันเห็นเด็กผู้ชายไว้ผมจุก อายุราว 5-6 ขวบ ไม่นุ่งผ้าผ่อน วิ่งเล่นไปมาอย่างสนุกสนานในห้องรับแขกนั้น...แม้จะดูแปลกที่ฝันตรงกันและเล่าสู่กันฟัง แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรมาก
ไม่ได้หวั่นกลัว หรือแม้แต่หวาดระแวงหม้อดินเผาสมัยดึกดำบรรพ์นั้นแต่อย่างใด
จนกระทั่งคืนต่อมา...ป้าพาณีก็ฝันเห็นเด็กชายคนเดิมวิ่งเล่นครืนๆ และมาโผล่ที่หน้าประตู หน้าตาดูซุกซน ทำเอียงคอกลอกตาไปมาด้วยอาการล้อเลียน ก่อนจะวิ่งออกไป-วิ่งเข้ามาเช่นนี้อีกราว 2-3 ครั้ง
เมื่อป้าพาณีตกใจตื่นขึ้นมากลางดึก ท่ามกลางความเงียบเชียบ เยือกเย็น มีแสงจันทร์ส่องแสงจางๆ เข้ามาทางหน้าต่าง...เสียงวิ่งเล่นครึกโครมก็พลันดังขึ้นเหมือนตกอยู่ในความฝันเช่นเดิม ผสมกับเสียงหัวเราะคิกคักจนทำให้ขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
ด้วยอารามอยากรู้อยากเห็น ทำให้ป้าพาณีลุกจากที่นอนไปเปิดประตู และเปิดไฟห้องรับแขกดูให้รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณพระช่วย! ท่ามกลางแสงสว่างเยือกเย็นนั้น ปรากฏร่างของเด็กชายตัวล่อนจ้อน ไว้ผมจุกรุ่ยร่ายตรงกับความฝัน กำลังยืนเท้าเอวอยู่บนโต๊ะรับแขก แล้วค่อยๆ หันมามองอย่างเชื่องช้า...
ป้าพาณียืนตกตะลึง ยกมือทาบอก หัวใจเต้นกระหน่ำ รู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นๆ ถังใหญ่สาดโครมลงมาบนหัว เบิกตามองภาพเบื้องหน้าด้วยความหวาดกลัวสุดขีดใจแทบขาด
เด็กประหลาดผู้นั้นมีใบหน้าขาวซีด ดวงตาขนาดใหญ่แดงก่ำ แสยะยิ้มเห็นฟันขาววับน่าสยอง และแล้วก็กระโดดแผล็วลงไปในหม้อดินโบราณต่อหน้าต่อตา...ขณะที่เสียงหัวเราะคิกๆ ยังดังแว่วออกมากระทบหู
เสียงร้องกรี๊ดๆ ทำให้คนตื่นทั้งบ้าน...วิ่งออกมาพบร่างป้าพาณีนอนสิ้นสติไปแล้ว
รุ่งขึ้น ป้าพาณีผู้จับไข้ตัวร้อนจัดก็สั่งให้ลูกหลานนำหม้อดินเผาใบนั้นไปส่งคืนเจ้าของทันที...แม้ว่าจะไม่ได้ลักขโมยก็จริง แต่วัตถุโบราณก็สมควรจะอยู่กับที่เดิม ไม่ใช่มาอยู่ในบ้านช่องผู้คนทั่วไป
คนใจบาปหยาบช้าจงเลิกลักขโมยของโบราณ รวมทั้งพระพุทธรูปตามวัดต่างๆ เพื่อผลประโยชน์เล็กน้อย ระวังบาปกรรมจะตามทันเพราะ...เจ้าของเขาหวงนะครับ!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!