ผีสองร่าง


ผีสองร่าง

"ป๋าอ๋อย" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากกาญจนบุรี

น้องรุ้งเป็นหลานรักของดิฉันเองค่ะ เธออายุแค่เก้าขวบเท่านั้นเองก็มาโดนผีหลอกอย่างน่าสงสาร พอเธอเล่าให้ฟังดิฉันก็โกรธซะไม่มี...ลองฟังเรื่องน่าขนหัวลุกของเธอดูซิคะ

วันนั้นพ่อแม่ของรุ้งพาลูกๆ ไปเที่ยวเมืองกาญจนบุรี ตามคำชวนของเพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงแรมอยู่ที่นั่น...โรงแรมนั้นสวยมาก น่าอยู่น่าสบาย พ่อแม่และน้องอาร์ตอายุสี่ขวบนอนด้วยกันที่ห้องหนึ่ง ส่วนน้องรุ้งนอนกับเปิ้ล พี่เลี้ยงของเธอในห้องที่อยู่ติดกัน และเปิดประตูถึงกันได้ ดูสภาพแล้วไม่น่ากลัวอะไรเลย ไม่มีใครนึกถึงเรื่องผีสางนางไม้เลยด้วยซ้ำ

ทีแรกพ่อกับแม่จะนอนตามลำพัง โดยให้ลูกๆ มานอนกับเปิ้ล แต่น้องอาร์ตงอแงจะนอนกอดแม่ก็เลยต้องตามใจ

น้องรุ้งเล่าว่าเตียงนอนในห้องของพ่อแม่นั้นเป็นเตียงคู่ แยกกันแต่ละเตียงขนาดควีนไซซ์ ส่วนในห้องของเธอเป็นเตียงเดียวกว้างขวาง นอนได้สามคนสบายๆ เปิ้ลเป็นคนพูดเปรยๆ ว่า...แหม! เตียงขนาดนี้นอนสามคนยังดิ้นไม่ตกเตียงเลย น่าจะนอนสามคนนะ

เปิ้ลพูดทำนองนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าน่าจะนอนกันสามคน!

เธอหมายถึงน้องรุ้ง น้องอาร์ต และตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สองคืนแรกผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนเที่ยวสนุกและนอนดึก จึงหลับสนิทอย่างมีความสุข...คืนที่สามซึ่งเป็นคืนสุดท้าย ทั้งหมดกลับเข้าโรงแรมไม่ดึกนัก เพราะรุ่งขึ้นก็ต้องเก็บสัมภาระเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้ว...

ขณะที่อาร์ตกับรุ้งเล่นกันง่วนอยู่นั้น แม่กับเปิ้ลก็ช่วยกันเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า เปิ้ลพูดชวนให้อาร์ตมานอนด้วยกัน แต่อาร์ตไม่ยอมตามเคย ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงอาร์ตก็เริ่มงอแงเพราะง่วงนอน แม่ก็เลยพาเข้าห้องไปโดยเปิดประตูที่เชื่อมระหว่างกันทิ้งไว้

รุ้งจัดแจงอาบน้ำและปีนขึ้นเตียง นอนซุกผ้าห่มและหลับตาพริ้ม ปล่อยให้พี่เปิ้ลเข้าอาบน้ำต่อจากเธอ...แต่ยัยพี่เปิ้ลคนนี้อาบน้ำช้าเหลือใจ เพราะขัดสีฉวีวรรณและทาครีม ละเลงอยู่นั่นแล้ว กว่าจะเสร็จก็เป็นชั่วโมงล่ะค่ะ

ดังนั้น น้องรุ้งของเราจึงผล็อยหลับสนิทไปก่อนที่เปิ้ลจะออกจากห้องน้ำ...ในห้องของน้องรุ้งจะเปิดไฟที่โต๊ะเขียนหนังสือปลายเตียงไว้ตลอดคืน เพื่อความอุ่นใจไงคะ เพราะถึงจะไม่กลัวผีสักเท่าไหร่แต่มันก็แปลกที่แปลกทางละ...นี่โรงแรมนะ ไม่ใช่บ้านช่องตัวเองนี่นา!

แสงไฟจากโป๊ะเป็นสีส้มเรืองๆ ไม่สว่างจ้าบาดตาหรอก มันทำให้ห้องมีแสงสลัวแต่ก็มองทุกอย่างได้ชัดเจน...

ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไร น้องรุ้งก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาซะงั้น! เธอคะเนว่ามันคงดึกมากแล้วละ ทุกอย่างดูสงัดและสงบ แอร์เย็นเยือกจนต้องชักผ้าห่มคลุมถึงคาง ขณะพลิกตัวจากนอนหงายเป็นตะแคงมาทางขวา พี่เปิ้ลนอนตะแคงมาทางนี้เลยหันหน้าเข้าหากัน มือทั้งสองซุกไว้ที่ซอกคอ หายใจลึกๆ กรนเบาๆ

น้องรุ้งจ้องมองหน้าที่หลับสนิทแล้วนึกขำ เธอไม่อยากหายใจรดกัน ก็เลยพลิกตัวกลับมาอีกด้านหนึ่ง...คุณพระช่วย! เธอเห็นพี่เปิ้ลนอนอยู่อีกแล้ว!!

พี่เปิ้ลทางซ้ายนอนตะแคงหันมาเหมือนภาพสะท้อนในกระจกไม่มีผิด คือนอนท่าเดียวกัน ซุกมือไว้ที่ซอกคอ กรนเบาๆ ดูมีเลือดมีเนื้อสมบูรณ์เหมือนคนที่นอนทางด้านขวานั่นทุกประการ

นี่เป็นเรื่องน่าตื่นตระหนกอย่างยิ่ง น้องรุ้งตกใจและงงงันจนบอกไม่ถูก...เธอหันขวับไปทางขวา ที่พี่เปิ้ลอีกคนก็ยังนอนอยู่เหมือนเดิม...เป็นอันว่าน้องรุ้งนอนตรงกลางระหว่างพี่เลี้ยงที่แยกออกเป็นสองร่างอย่างน่าอัศจรรย์ แถมน่าขนหัวลุกอีกต่างหาก

ใครคนหนึ่งต้องไม่ใช่มนุษย์มนาอย่างเราแน่ๆ

แต่คนไหนล่ะ? คนไหนเป็นคน คนไหนเป็น...ผี!?

น้องรุ้งนอนหงายตัวแข็งทื่อ น้ำตาไหล เธอไม่รู้จะเอื้อมมือไปขอความช่วยเหลือจากร่างไหน?" ในที่สุดก็แข็งใจลุกขึ้น กระเถิบตัวเองลงทางปลายเตียงแล้วเดินไปหาแม่

ทุกคนหลับสนิทอย่างประหลาด น้องรุ้งพยายามปลุกแม่ แต่แม่นอนกอดอาร์ตไว้และไม่มีทีท่าจะตื่นเลย เธอจึงซุกตัวเบียดหลังแม่ ดึงผ้าห่มคลุมโปง...แต่ไม่หลับจนฟ้าสาง...

แม่ขำใหญ่ว่าน้องรุ้งมานอนเบียดแม่ ส่วนน้องรุ้งก็ไม่รู้จะบอกเล่าอย่างไรกับเหตุการณ์ประหลาดที่เธอเห็นพี่เปิ้ลแสดงอภินิหารกลายเป็นสองตน?

จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านที่กรุงเทพฯ เธอจึงเล่าออกมา ยืนยันว่าไม่ได้ฝันแน่ๆ ดิฉันฟังอยู่ด้วยก็เชื่อสนิท เด็กไม่โกหกหรอกค่ะ ดิฉันน่ะโมโหจริงๆ ผีอะไรน่ะมาหลอกเด็กที่แสนจะบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแบบนี้ นอกจากจะไม่ยอมทำบุญให้แล้ว ดิฉันยังต่อว่าต่อขานฝากลมฝากแล้งไปด้วย ทั้งกลัวทั้งโกรธจริงๆ ค่ะ!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์