นรกทั้งเป็น
"คนเคยเที่ยว" เล่าเรื่องน่าขนหัวลุกจากงานฉลองปีใหม่
เทศกาลปีใหม่มีคนตายเป็นเบือตามเคย คือปาเข้าไปเกือบ 400 ศพ บาดเจ็บอีกราว 4,000 คน แถมมีอุบัติเหตุสยองที่ผับซานติก้า ใจกลางกรุงเทพฯ เพลิงนรกเผาผลาญชีวิตมนุษย์ไป 66 คน บาดเจ็บอีกนับร้อย
ใครไม่เคยเห็นคนที่ได้รับบาดเจ็บเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ กับโดนไฟลวกร่างกายตั้งแต่ 50-60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป คงนึกไม่ออกหรอกว่าพวกเขาได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสแค่ไหน?
ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจเพียงใด?!
เจ้าหน้าที่ผู้เข้าไปช่วยเหลือคนบาดเจ็บ ขนคนตายออกมาศพแล้วศพเล่า บอกว่าส่วนมากเสื้อผ้าถูกเผาผลาญเกือบหมดสิ้น ไฟนรกกัดกินเนื้อหนังแดงๆ จนน่าสยดสยอง ภาพของเพื่อนมนุษย์ที่ขาดใจไปแล้ว กับที่ยังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสนั้นน่าสมเพชเวทนายิ่งนัก
ใครใจแข็งไม่น้ำตาไหลก็ต้องเบือนหน้าหนี ลำคอตีบตื้นจนแทบจะหายใจไม่ออกไปตามๆ กัน!
ได้แต่นึกหวังว่าเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะมาถึง คงจะไม่เกิดอุบัติเหตุสยองมากมายจนน่าสลดหดหู่เหมือนปีใหม่ หรือสงกรานต์ที่ผ่านๆ มา ถ้าคนขับขี่ยวดยานจะไม่ตกอยู่ในความประมาท โดยเฉพาะไม่ดื่มเหล้าดื่มเบียร์อย่างเด็ดขาด
สงวนรักษาทั้งชีวิตตนและผู้อื่นให้อยู่รอดปลอดภัย ไม่กลายเป็นผีเฝ้าถนนหรือบาดเจ็บสาหัสจนถึงพิกลพิการเช่นที่เคยเกิดขึ้นเป็นประจำ
ว่าแต่วิญญาณผู้ตายจะไปผุดไปเกิด ไปสู่สุคติ แหละหรือว่ายังสิงสู่วนเวียนอยู่ในแดนตายของตนอีกนานเท่านาน..ตามความเชื่อถือดั้งเดิมว่าจะต้องรอคอยให้มีคนตาย ณ ที่นั่น เพื่อเป็น "ตัวตายตัวแทน" สืบไป
มีญาติมิตรผู้ตายหลายคนได้ไปกระทำพิธี "ส่งวิญญาณ" ผู้ตาย ทั้งคริสต์, พุทธและมุสลิม ด้วยความประสงค์ให้วิญญาณของคนที่รักได้ไปสู่ภพภูมิอันดีงามเป็นนิรันดร
ที่ซานติก้า ผับนั้น ว่ากันว่าเดิมเป็นกุโบร์ หรือป่าช้าของมุสลิมมาเนิ่นนานนับร้อยปีแล้ว ต่อมาเมื่อความเจริญขยายออกไปทางถนนสุขุมวิท ที่ดินกลายเป็นทองคำขึ้นมา ตึกรามจึงผุดขึ้นแทนที่ กุโบร์กลายเป็นป่าช้าเก่า แต่วิญญาณที่เคยสงบสุขต้องถูกรบกวนด้วยเสียงรถยนต์เสียงดนตรีสมัยใหม่อึกทึกครึกโครมไม่จักจบสิ้น
เมื่อเจ้าของจะเลิกกิจการจึงจัดงานฉลองยิ่งใหญ่เป็นการอำลา!
"กู๊ดบาย ซานติก้า"
นักร้องที่ปรากฏในโปสเตอร์ก็มีน้ำตาสีดำไหลออกมา
แม้แต่ปกซีดีที่ทำแจกในงานก็เป็นภาพสีดำ..ซึ่งหลายๆ คนเชื่อว่าไม่เป็นสิริมงคล เป็นลางร้าย..เมื่อเกิดอุบัติเหตุสยอง พระเพลิงเผาผลาญจนเหลือแต่ซาก ป้ายชื่อผับก็ถูกไฟนรกโหมกระหน่ำวอดวาย เหลือแต่อักษรสองตัวหลังที่ปรากฏโดดเด่นน่าสยดสยองยิ่งนัก
"KA" หรือออกเสียงว่า "ฆ่า" นั่นเอง!
วันต่อๆ มามีวัยรุ่นไปถ่ายคลิปวิดีโอ ก็ปรากฏภาพเลือนรางคล้ายมนุษย์สองร่างระหว่างช่องหน้าต่างด้านหน้า ผู้ที่มีกิจธุระต้องขับรถผ่านไปมาก็มักจะเห็นเงาดำๆ วิ่งสับสนอลหม่านอยู่ในซากตึกนั้นจนไม่กล้าหันไปมองอีกต่อไป
ผู้ที่อยู่บ้านใกล้ๆ กันคือในซอย 7 ส่วนซานติก้า ผับอยู่ซอย 9-11 ก็เล่าว่าตอนดึกๆ จะได้ยินเสียงโหยหวนของชายและหญิงดังแว่วมาเข้าหูเป็นประจำ
ไม่ใช่เสียงพูดคุย และไม่ใช่เสียงทะเลาะเบาะแว้งใดๆ ทั้งสิ้น หากเป็นเสียงร้องที่สับสนอลหม่าน..เสียงร้องขอความช่วยเหลือ ระคนกับหวาดกลัวสุดชีวิต เจ็บปวดรวดร้าวจนเกินกว่าร่างกายมนุษย์ทั่วไปจะทนทานได้หวาดไหว
ทั้งน่าสยดสยองและน่าหวาดกลัวสุดประมาณ!
น่าขนหัวลุก เท่าๆ กับน่าสงสาร น่าสมเพชเวทนาในชะตากรรมของมนุษย์ที่ต้องมาพบกับวาระสุดท้ายอย่างทนทุกข์ทรมารพร้อมๆ กัน ในสถานที่อันเชื่อว่าจะดลบันดาลความสนุกสนานรื่นรมย์มาให้ ในวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่
ไม่มีใครเสียวสังหรณ์เลยว่า..ก้าวนั้น..คือการก้าวไปสู่หลุมเพลิงของนรกอเวจีที่รอคอยอย่างเยือกเย็นและเหี้ยมเกรียมสุดขีด!
หวังว่าวิญญาณทุกดวงที่ต้องหลุดลอยออกจากร่าง คงจะไปสู่สุคติในสัมปรายภพ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ เหมือนผู้คนอีกนับร้อยที่กำลังรักษาบาดแผลร้ายแรงให้ทุเลาเบาบางลง..ขอจงหายวันหายคืนโดยเร็วเถิด เจ้าประคุณเอ๋ย..
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เทศกาลปีใหม่มีคนตายเป็นเบือตามเคย คือปาเข้าไปเกือบ 400 ศพ บาดเจ็บอีกราว 4,000 คน แถมมีอุบัติเหตุสยองที่ผับซานติก้า ใจกลางกรุงเทพฯ เพลิงนรกเผาผลาญชีวิตมนุษย์ไป 66 คน บาดเจ็บอีกนับร้อย
ใครไม่เคยเห็นคนที่ได้รับบาดเจ็บเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ กับโดนไฟลวกร่างกายตั้งแต่ 50-60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป คงนึกไม่ออกหรอกว่าพวกเขาได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสแค่ไหน?
ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจเพียงใด?!
เจ้าหน้าที่ผู้เข้าไปช่วยเหลือคนบาดเจ็บ ขนคนตายออกมาศพแล้วศพเล่า บอกว่าส่วนมากเสื้อผ้าถูกเผาผลาญเกือบหมดสิ้น ไฟนรกกัดกินเนื้อหนังแดงๆ จนน่าสยดสยอง ภาพของเพื่อนมนุษย์ที่ขาดใจไปแล้ว กับที่ยังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสนั้นน่าสมเพชเวทนายิ่งนัก
ใครใจแข็งไม่น้ำตาไหลก็ต้องเบือนหน้าหนี ลำคอตีบตื้นจนแทบจะหายใจไม่ออกไปตามๆ กัน!
ได้แต่นึกหวังว่าเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะมาถึง คงจะไม่เกิดอุบัติเหตุสยองมากมายจนน่าสลดหดหู่เหมือนปีใหม่ หรือสงกรานต์ที่ผ่านๆ มา ถ้าคนขับขี่ยวดยานจะไม่ตกอยู่ในความประมาท โดยเฉพาะไม่ดื่มเหล้าดื่มเบียร์อย่างเด็ดขาด
สงวนรักษาทั้งชีวิตตนและผู้อื่นให้อยู่รอดปลอดภัย ไม่กลายเป็นผีเฝ้าถนนหรือบาดเจ็บสาหัสจนถึงพิกลพิการเช่นที่เคยเกิดขึ้นเป็นประจำ
ว่าแต่วิญญาณผู้ตายจะไปผุดไปเกิด ไปสู่สุคติ แหละหรือว่ายังสิงสู่วนเวียนอยู่ในแดนตายของตนอีกนานเท่านาน..ตามความเชื่อถือดั้งเดิมว่าจะต้องรอคอยให้มีคนตาย ณ ที่นั่น เพื่อเป็น "ตัวตายตัวแทน" สืบไป
มีญาติมิตรผู้ตายหลายคนได้ไปกระทำพิธี "ส่งวิญญาณ" ผู้ตาย ทั้งคริสต์, พุทธและมุสลิม ด้วยความประสงค์ให้วิญญาณของคนที่รักได้ไปสู่ภพภูมิอันดีงามเป็นนิรันดร
ที่ซานติก้า ผับนั้น ว่ากันว่าเดิมเป็นกุโบร์ หรือป่าช้าของมุสลิมมาเนิ่นนานนับร้อยปีแล้ว ต่อมาเมื่อความเจริญขยายออกไปทางถนนสุขุมวิท ที่ดินกลายเป็นทองคำขึ้นมา ตึกรามจึงผุดขึ้นแทนที่ กุโบร์กลายเป็นป่าช้าเก่า แต่วิญญาณที่เคยสงบสุขต้องถูกรบกวนด้วยเสียงรถยนต์เสียงดนตรีสมัยใหม่อึกทึกครึกโครมไม่จักจบสิ้น
เมื่อเจ้าของจะเลิกกิจการจึงจัดงานฉลองยิ่งใหญ่เป็นการอำลา!
"กู๊ดบาย ซานติก้า"
นักร้องที่ปรากฏในโปสเตอร์ก็มีน้ำตาสีดำไหลออกมา
แม้แต่ปกซีดีที่ทำแจกในงานก็เป็นภาพสีดำ..ซึ่งหลายๆ คนเชื่อว่าไม่เป็นสิริมงคล เป็นลางร้าย..เมื่อเกิดอุบัติเหตุสยอง พระเพลิงเผาผลาญจนเหลือแต่ซาก ป้ายชื่อผับก็ถูกไฟนรกโหมกระหน่ำวอดวาย เหลือแต่อักษรสองตัวหลังที่ปรากฏโดดเด่นน่าสยดสยองยิ่งนัก
"KA" หรือออกเสียงว่า "ฆ่า" นั่นเอง!
วันต่อๆ มามีวัยรุ่นไปถ่ายคลิปวิดีโอ ก็ปรากฏภาพเลือนรางคล้ายมนุษย์สองร่างระหว่างช่องหน้าต่างด้านหน้า ผู้ที่มีกิจธุระต้องขับรถผ่านไปมาก็มักจะเห็นเงาดำๆ วิ่งสับสนอลหม่านอยู่ในซากตึกนั้นจนไม่กล้าหันไปมองอีกต่อไป
ผู้ที่อยู่บ้านใกล้ๆ กันคือในซอย 7 ส่วนซานติก้า ผับอยู่ซอย 9-11 ก็เล่าว่าตอนดึกๆ จะได้ยินเสียงโหยหวนของชายและหญิงดังแว่วมาเข้าหูเป็นประจำ
ไม่ใช่เสียงพูดคุย และไม่ใช่เสียงทะเลาะเบาะแว้งใดๆ ทั้งสิ้น หากเป็นเสียงร้องที่สับสนอลหม่าน..เสียงร้องขอความช่วยเหลือ ระคนกับหวาดกลัวสุดชีวิต เจ็บปวดรวดร้าวจนเกินกว่าร่างกายมนุษย์ทั่วไปจะทนทานได้หวาดไหว
ทั้งน่าสยดสยองและน่าหวาดกลัวสุดประมาณ!
น่าขนหัวลุก เท่าๆ กับน่าสงสาร น่าสมเพชเวทนาในชะตากรรมของมนุษย์ที่ต้องมาพบกับวาระสุดท้ายอย่างทนทุกข์ทรมารพร้อมๆ กัน ในสถานที่อันเชื่อว่าจะดลบันดาลความสนุกสนานรื่นรมย์มาให้ ในวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่
ไม่มีใครเสียวสังหรณ์เลยว่า..ก้าวนั้น..คือการก้าวไปสู่หลุมเพลิงของนรกอเวจีที่รอคอยอย่างเยือกเย็นและเหี้ยมเกรียมสุดขีด!
หวังว่าวิญญาณทุกดวงที่ต้องหลุดลอยออกจากร่าง คงจะไปสู่สุคติในสัมปรายภพ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ เหมือนผู้คนอีกนับร้อยที่กำลังรักษาบาดแผลร้ายแรงให้ทุเลาเบาบางลง..ขอจงหายวันหายคืนโดยเร็วเถิด เจ้าประคุณเอ๋ย..
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!