แมวผี
"นีรนุช"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อพบผีแมว
ดิฉันเป็นคนที่ไม่ชอบแมวเลย เพราะเห็นว่าเป็นสัตว์ที่เย่อหยิ่งจองหอง นึกจะรักเราก็เข้ามาประจบเคล้าเคลีย แต่เดี๋ยวๆ ก็เปลี่ยนใจ ไม่สน ไม่มอง ไม่มาหา บางตัวน่ะเจ้าของรักมาก เอาใจมาก มันก็จะทำเป็นหรูเริ่ดเชิดหยิ่ง น่าหมั่นไส้
ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงรักหมามากกว่า มันช่างประจบ น่ารักน่าเอ็นดูกว่าแมวเยอะเลย
ที่บ้านดิฉันซึ่งมีสนามกว้างขวางนั้น เลี้ยงหมาไว้ตั้งห้าตัวแน่ะค่ะ ไม่ใช่หมาฝรั่งแพงๆ นะคะ แต่เป็นหมาไทยธรรมดาที่ค่อนข้างดุ โดยเฉพาะเจ้าเฉาก๊วย-หมาดำที่คนเอามาให้บอกว่าพ่อแม่มันเป็นหมาเฝ้าสวน
เฉาก๊วยปราดเปรียวและดุมาก แต่มันรักดิฉันเป็นที่สุด ดูๆ ไปแล้วมันก็สัญชาตญาณของนักล่าอยู่ในสายเลือด เพราะมันชอบไล่ล่าสัตว์ที่หลุดเข้ามาเช่นหนูตัวโตๆ นกพิราบและแมวข้างบ้าน ดิฉันสงสารพวกมันจริงๆเพราะไม่มีตัวไหนรอดจากคมเขี้ยวของเจ้าเฉาก๊วยไปได้ คนงานของดิฉันต้องเก็บซากหนูซากนกไปทิ้งไม่ให้เหม็นเน่าคาสนาม
นานๆ ทีก็จะมีซากแมวที่ถูกขย้ำจนน่วมนอนกองเป็นผ้าขี้ริ้ว เห็นแล้วเวทนา แม้จะไม่ชอบแมว แต่ดิฉันก็ไม่อยากให้มันโดนหมาฟัดแบบนี้
ทุกๆ เช้า ดิฉันจะยกตะกร้าผ้าลงมาที่โคนต้นมะม่วงหลังบ้านที่ทำเป็นลานไว้ ตรงนี้จะมีเครื่องซักผ้าและราวตากผ้า อากาศร่มรื่น ลมพัดเย็นสบาย ดิฉันชอบเอาผ้ามาเข้าเครื่องเพื่อซักและตากเอง ไม่ได้ให้คนใช้ทำหรอกค่ะ
เช้าวันหนึ่ง ขณะดูแลควบคุมเครื่องซักผ้าอยู่ ดิฉันก็ได้ยินเสียงเหมียวๆ พอเหลียวไปมองก็เห็นแมวสีขาวนวลกำลังยุรยาตรมาหา
มันเป็นแมวที่สวยสะอาดสะอ้านมาก พอเข้าใกล้มันก็กระโดดแผล็วขึ้นมาบนโต๊ะที่วางตะกร้าผ้าและผงซักฟอก มันนั่งตัวตรง ขาหน้าเหยียดตรงแหนว ก้นและหางวางอยู่ในท่าสบายๆ มันชำเลืองมองดิฉันแล้วไปมองรอบๆ สวนด้วยท่าทางสบายอารมณ์
มันสวยจริงๆ นะคะ ขนเป็นสีขาวนวลทั้งตัว มีหูเป็นสีน้ำตาลทองอ่อนๆ ดวงตาสีม่วงอมฟ้า อือม์...ดิฉันรักมันแล้วซิ...พอนึกรักเอ็นดูและชื่นชมมันเท่านั้นแหละ มันก็หันมาสบตากับดิฉันอย่างมีสง่า ทำท่าว่ารับรู้ไมตรีจิตของกันและกันได้
ดิฉันเรียกมันว่า "เจ้านวล" และตั้งแต่นั้นนวลก็มาอยู่เป็นเพื่อนเวลาดิฉันซักผ้าทุกเช้า เราสนิทสนมและรักกันมาก ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าตัวเองจะรักแมวได้ขนาดนี้ บางวันมันเล่นกับดิฉันด้วยการม้วนตัวกลิ้งกับโต๊ะ ยกขาหน้าและหันท้องให้ดิฉันเกาเบาๆ
เวลาผ่านไปเป็นปีละมังคะ ที่ดิฉันมีเจ้านวลอยู่เคียงข้างยามซักผ้าตลอดมา แปลกนะคะที่พอซักผ้าเสร็จมันก็นวยนาดหายไปไหนไม่รู้?
เวลาอื่นนอกจากนี้คือตลอดวันเราจะไม่ได้เจอกัน และดิฉันไม่เคยให้อาหารมันกินเลยด้วย มันคงมาจากบ้านอื่น...บ้านไหนก็ไม่รู้ซิ ดิฉันบอกให้มันระวังเฉาก๊วย แต่ก็แปลกอีกนั่นแหละ ที่เฉาก๊วยไม่สนใจจะทำร้ายหรือไล่นวลเลย...มันได้แต่มองอยู่ห่างๆ อย่างไม่ใส่ใจกันสักเท่าไหร่นัก
อยู่มาวันหนึ่งนวลก็หายไป ดิฉันรู้สึกเหงา คอยชะแง้แลหา...มันไม่มาจริงๆ
เจ้านวล แมวแสนสวยหายไปนานมาก ดิฉันคิดถึงมันเหลือเกิน จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งใกล้ค่ำเต็มทีแล้วล่ะค่ะ ดิฉันเดินมาเปิดไฟที่หลังบ้าน พอหันตัวจะกลับก็เจอเจ้านวล
มันโผล่มาจากไหนไม่ทราบ แต่เดินตรงรี่มาหาดิฉัน หางของมันยกตั้งตรง ปลายหางสะบัดเล็กน้อย และส่งเสียงคราง...เมอรรร...ดิฉันเคยอ่านพบว่านี่คือท่าทางแสดงอาการดีอกดีใจตามประสาแมว ดิฉันก็ดีใจมากเช่นกัน...แต่อะไรกันนั่น?!
ขณะที่มันเดินแกมวิ่งมาหา จวนจะถึงตัวดิฉันอยู่แล้ว มันก็ค่อยๆ จางหายไปในอากาศ...ดิฉันตกตะลึงจังงัง แน่ใจว่าเห็นนวลจริงๆ ตาไม่ได้ฝาดแน่
"แมวผี!" แม่ครัวของดิฉันเอ่ยออกมาเมื่อดิฉันเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แกไม่รู้จักเจ้านวลหรอกค่ะ แต่ก็บอกว่าเมื่อหลายวันก่อนได้ยินพวกเด็กเกเรหน้าปากซอยรุมทำร้ายแมวสีขาวตัวหนึ่งจนมันตายคามือ ชาวบ้านด่าทอกันใหญ่...ฆ่าแมวตายบาปเท่ากับฆ่าเณรเชียวนะ โบราณท่านว่า
ดิฉันค่อนข้างแน่ใจว่าแมวเคราะห์ร้ายนั่นคือนวลของดิฉัน คืนนั้นดิฉันร้องไห้สงสารมันจับใจ และรุ่งขึ้นก็ทำบุญให้มันด้วย มันมาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ความผูกพันระหว่างเราเป็นสิ่งที่สวยงามเหลือเกิน น่ามหัศจรรย์จริงๆ
ดูเถอะค่ะ แทนที่มันจะตายเพราะคมเขี้ยวของเฉาก๊วย มันกลับตายด้วยมือเด็กเกเร เสียใจเหลือเกินที่ดิฉันปกป้องคุ้มครองมันไม่ได้ แต่อธิษฐานว่าชาติหน้าฉันใดขอให้เราได้เจอกันอีก ดิฉันจะรักและดูแลมันให้ดีที่สุด!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
ดิฉันเป็นคนที่ไม่ชอบแมวเลย เพราะเห็นว่าเป็นสัตว์ที่เย่อหยิ่งจองหอง นึกจะรักเราก็เข้ามาประจบเคล้าเคลีย แต่เดี๋ยวๆ ก็เปลี่ยนใจ ไม่สน ไม่มอง ไม่มาหา บางตัวน่ะเจ้าของรักมาก เอาใจมาก มันก็จะทำเป็นหรูเริ่ดเชิดหยิ่ง น่าหมั่นไส้
ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงรักหมามากกว่า มันช่างประจบ น่ารักน่าเอ็นดูกว่าแมวเยอะเลย
ที่บ้านดิฉันซึ่งมีสนามกว้างขวางนั้น เลี้ยงหมาไว้ตั้งห้าตัวแน่ะค่ะ ไม่ใช่หมาฝรั่งแพงๆ นะคะ แต่เป็นหมาไทยธรรมดาที่ค่อนข้างดุ โดยเฉพาะเจ้าเฉาก๊วย-หมาดำที่คนเอามาให้บอกว่าพ่อแม่มันเป็นหมาเฝ้าสวน
เฉาก๊วยปราดเปรียวและดุมาก แต่มันรักดิฉันเป็นที่สุด ดูๆ ไปแล้วมันก็สัญชาตญาณของนักล่าอยู่ในสายเลือด เพราะมันชอบไล่ล่าสัตว์ที่หลุดเข้ามาเช่นหนูตัวโตๆ นกพิราบและแมวข้างบ้าน ดิฉันสงสารพวกมันจริงๆเพราะไม่มีตัวไหนรอดจากคมเขี้ยวของเจ้าเฉาก๊วยไปได้ คนงานของดิฉันต้องเก็บซากหนูซากนกไปทิ้งไม่ให้เหม็นเน่าคาสนาม
นานๆ ทีก็จะมีซากแมวที่ถูกขย้ำจนน่วมนอนกองเป็นผ้าขี้ริ้ว เห็นแล้วเวทนา แม้จะไม่ชอบแมว แต่ดิฉันก็ไม่อยากให้มันโดนหมาฟัดแบบนี้
ทุกๆ เช้า ดิฉันจะยกตะกร้าผ้าลงมาที่โคนต้นมะม่วงหลังบ้านที่ทำเป็นลานไว้ ตรงนี้จะมีเครื่องซักผ้าและราวตากผ้า อากาศร่มรื่น ลมพัดเย็นสบาย ดิฉันชอบเอาผ้ามาเข้าเครื่องเพื่อซักและตากเอง ไม่ได้ให้คนใช้ทำหรอกค่ะ
เช้าวันหนึ่ง ขณะดูแลควบคุมเครื่องซักผ้าอยู่ ดิฉันก็ได้ยินเสียงเหมียวๆ พอเหลียวไปมองก็เห็นแมวสีขาวนวลกำลังยุรยาตรมาหา
มันเป็นแมวที่สวยสะอาดสะอ้านมาก พอเข้าใกล้มันก็กระโดดแผล็วขึ้นมาบนโต๊ะที่วางตะกร้าผ้าและผงซักฟอก มันนั่งตัวตรง ขาหน้าเหยียดตรงแหนว ก้นและหางวางอยู่ในท่าสบายๆ มันชำเลืองมองดิฉันแล้วไปมองรอบๆ สวนด้วยท่าทางสบายอารมณ์
มันสวยจริงๆ นะคะ ขนเป็นสีขาวนวลทั้งตัว มีหูเป็นสีน้ำตาลทองอ่อนๆ ดวงตาสีม่วงอมฟ้า อือม์...ดิฉันรักมันแล้วซิ...พอนึกรักเอ็นดูและชื่นชมมันเท่านั้นแหละ มันก็หันมาสบตากับดิฉันอย่างมีสง่า ทำท่าว่ารับรู้ไมตรีจิตของกันและกันได้
ดิฉันเรียกมันว่า "เจ้านวล" และตั้งแต่นั้นนวลก็มาอยู่เป็นเพื่อนเวลาดิฉันซักผ้าทุกเช้า เราสนิทสนมและรักกันมาก ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าตัวเองจะรักแมวได้ขนาดนี้ บางวันมันเล่นกับดิฉันด้วยการม้วนตัวกลิ้งกับโต๊ะ ยกขาหน้าและหันท้องให้ดิฉันเกาเบาๆ
เวลาผ่านไปเป็นปีละมังคะ ที่ดิฉันมีเจ้านวลอยู่เคียงข้างยามซักผ้าตลอดมา แปลกนะคะที่พอซักผ้าเสร็จมันก็นวยนาดหายไปไหนไม่รู้?
เวลาอื่นนอกจากนี้คือตลอดวันเราจะไม่ได้เจอกัน และดิฉันไม่เคยให้อาหารมันกินเลยด้วย มันคงมาจากบ้านอื่น...บ้านไหนก็ไม่รู้ซิ ดิฉันบอกให้มันระวังเฉาก๊วย แต่ก็แปลกอีกนั่นแหละ ที่เฉาก๊วยไม่สนใจจะทำร้ายหรือไล่นวลเลย...มันได้แต่มองอยู่ห่างๆ อย่างไม่ใส่ใจกันสักเท่าไหร่นัก
อยู่มาวันหนึ่งนวลก็หายไป ดิฉันรู้สึกเหงา คอยชะแง้แลหา...มันไม่มาจริงๆ
เจ้านวล แมวแสนสวยหายไปนานมาก ดิฉันคิดถึงมันเหลือเกิน จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งใกล้ค่ำเต็มทีแล้วล่ะค่ะ ดิฉันเดินมาเปิดไฟที่หลังบ้าน พอหันตัวจะกลับก็เจอเจ้านวล
มันโผล่มาจากไหนไม่ทราบ แต่เดินตรงรี่มาหาดิฉัน หางของมันยกตั้งตรง ปลายหางสะบัดเล็กน้อย และส่งเสียงคราง...เมอรรร...ดิฉันเคยอ่านพบว่านี่คือท่าทางแสดงอาการดีอกดีใจตามประสาแมว ดิฉันก็ดีใจมากเช่นกัน...แต่อะไรกันนั่น?!
ขณะที่มันเดินแกมวิ่งมาหา จวนจะถึงตัวดิฉันอยู่แล้ว มันก็ค่อยๆ จางหายไปในอากาศ...ดิฉันตกตะลึงจังงัง แน่ใจว่าเห็นนวลจริงๆ ตาไม่ได้ฝาดแน่
"แมวผี!" แม่ครัวของดิฉันเอ่ยออกมาเมื่อดิฉันเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แกไม่รู้จักเจ้านวลหรอกค่ะ แต่ก็บอกว่าเมื่อหลายวันก่อนได้ยินพวกเด็กเกเรหน้าปากซอยรุมทำร้ายแมวสีขาวตัวหนึ่งจนมันตายคามือ ชาวบ้านด่าทอกันใหญ่...ฆ่าแมวตายบาปเท่ากับฆ่าเณรเชียวนะ โบราณท่านว่า
ดิฉันค่อนข้างแน่ใจว่าแมวเคราะห์ร้ายนั่นคือนวลของดิฉัน คืนนั้นดิฉันร้องไห้สงสารมันจับใจ และรุ่งขึ้นก็ทำบุญให้มันด้วย มันมาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ความผูกพันระหว่างเราเป็นสิ่งที่สวยงามเหลือเกิน น่ามหัศจรรย์จริงๆ
ดูเถอะค่ะ แทนที่มันจะตายเพราะคมเขี้ยวของเฉาก๊วย มันกลับตายด้วยมือเด็กเกเร เสียใจเหลือเกินที่ดิฉันปกป้องคุ้มครองมันไม่ได้ แต่อธิษฐานว่าชาติหน้าฉันใดขอให้เราได้เจอกันอีก ดิฉันจะรักและดูแลมันให้ดีที่สุด!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!