ตู้อาถรรพณ์


ตู้อาถรรพณ์

"หมิว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากหอพักเพื่อน

ฉันไปค้างกับเพื่อนที่หอพักของเธอเพื่อเตรียมตัวสอบ เมื่อภาคปลายที่เพิ่งผ่านมา เราดูหนังสือและทำรายงาน กลุ่มด้วยกัน

หอพักที่ว่านี้อยู่ย่านรามคำแหงค่ะ เป็นหอใหม่ ราคาแพงแต่สะอาดสะอ้าน ความปลอดภัยก็ดูใช้ได้ เขาใช้ระบบคีย์การ์ดตลอด มันทำให้ฉันนึกถึงคดีฆาตกรรมคดีหนึ่งที่มีผู้ร้ายใส่เสื้อเบอร์ 10 คอยเตร่อยู่แถวหน้าประตูหอ พอมีคนมาเสียบกุญแจเปิดประตูมันก็ตามเข้าไปหน้าตาเฉย...และไปฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งตายคามือ!

ฉันถามปอน เพื่อนที่เช่าหอว่าอยู่คนเดียวไม่กลัวอะไร เหรอ มันถามกลับว่าจะให้กลัวอะไรล่ะ? ถึงยังไงก็ต้องอยู่ เพราะบ้านอยู่ต่างจังหวัดโน่น

ถ้าเป็นฉันล่ะก็นะ กลัวทั้งผีทั้งขโมยเลยล่ะ ยิ่งได้เห็นข่าวฆ่ากันตายแบบนี้ฉันยิ่งเสียขวัญ อย่างแรกเราอยู่คนเดียว เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าปลอดภัยดีแล้ว อย่างที่สอง ห้องที่เราอยู่นี่เคยมีคนตายมาก่อนรึเปล่าเราก็ไม่รู้

หอพักที่ข้างบ้านฉันเคยมีเจ้าพนักงานธนาคารถูกฆ่าหมกศพไว้บนเตียง แล้วขึ้นอืดส่งกลิ่นคลุ้ง คนอื่นถึงได้รู้ว่ามีฆาตกรรมและพบศพ ส่วนห้องนั้นปิดทิ้งไว้ไม่กี่เดือนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเช่าต่อ และเธอก็อยู่มาจนบัดนี้โดยไม่รู้เลยว่าห้องที่เธออยู่ เตียงที่เธอนอนเคยมีศพสยองนอนอยู่ตั้งสามวันสามคืน!

ห้องของปอนนี่ก็เถอะ ฉันไม่เคยไว้ใจเลย จำได้แต่ว่ามาวันแรกๆ ฉันได้กลิ่นอับๆ ยังไงพิกล บรรยากาศก็อึดอัด นี่ถ้าไม่ต้องมาทำรายงานฉันจะไม่มาเลยละ...อยู่บ้านดีกว่า

คุณเคยไหม เวลาไปที่ไหนสักแห่งแล้วที่นั้นมันมีอะไรเฮี้ยนๆ คุณจะรู้สึกถึงมันได้ ฉันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ...รู้สึกตลอดเวลาว่าในห้องไม่ได้มีแต่ฉันกับปอนสองคนเท่านั้น แต่ยังมีใครอยู่ด้วย...

ผู้หญิง!? ใช่...ผู้หญิงสาว อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเรานี่แหละ!

"ปอน...แกอยู่แกไม่เคยเห็นอะไรเรอะ?" ฉันอดรนทนไม่ไหว เพราะขนลุกซู่ๆ อยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีเหตุผล

"แกจะทักขึ้นมาทำไม?" ปอนย้อนถามอย่างกึ่งขันกึ่งรำคาญ "ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก ว่าแต่ถ้าคิดว่านอนที่นี่ไม่ได้ก็กลับบ้านไปเลยนะ"

แน่ะ...นังปอนมันไล่ฉัน แต่ฉันไม่กลับหรอก...คืนนั้นเรานอนกันตีหนึ่ง ปอนหลับก่อน ส่วนฉันอาบน้ำแล้วเดินกลับมาขึ้นเตียง

มองไปรอบๆ ห้องที่ไม่กว้างขวางนัก มันดูวังเวงยังไงบอกไม่ถูก ด้านในสุดเป็นประตูกระจกที่เปิดออกไปยังระเบียงแคบๆ ฉันนึกสยองว่าเดี๋ยวมองไปๆ จะเห็นใครมายืนทะมึนอยู่ตรงนั้น ฉันเลยเดินไปรูดม่านปิด

โอ! แย่จัง...ยิ่งแย่ใหญ่เลยค่ะ พอปิดม่านมันหดหู่เหมือนกำลังอยู่ในงานศพ นังปอนก็นอนหลับไม่รู้เรื่อง ฉันมองมันแล้วก็อิจฉา นึกสงสัยว่ามันอยู่ในห้องนี้ได้ไงคนเดียวมาตั้งนานสองนาน? เอ...รึว่าฉันคิดบ้าไปเอง! เฮ้อ...จะมาป่วนให้เพื่อนกลัวผีซะแล้วสิเรา...ไม่เอาน่า! มันอยู่ของมันดีๆ จะให้มันร้อนที่ไปได้

คิดปลงแล้วก็ปีนขึ้นเตียง ซุกหมอน ดึงผ้าแพรเพลาะขึ้นมาถึงใต้คาง ไม่ได้ดับไฟหัวเตียงหรอก เปิดไว้อย่างนั้นแหละ

ฉันนอนไม่หลับ ตามองไปที่ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ตรงปลายเตียง ที่จริงมันอยู่ห่างจากปลายเท้าของฉันนิดเดียวเอง ฉันหดเท้าขึ้นมาอย่างเสียวไส้ขณะจ้องมองที่ตู้ใบนั้น...

เอ...จะว่าไปแล้วมันเหมือนอะไรนะ...อะไรที่น่ากลัว? อึ๋ย...โลงศพ!!

จริงๆ นะคะคุณ ความหนาความกว้างของมันช่างใกล้เคียงกับโลงจริงๆ ด้วย

พอคิดถึงตรงนี้ประตูก็เปิดแอ้ดดด...ออกมาซะงั้น ฉันหดเท้าเข้ามาอีก นอนตัวงอ อยากหลับตา แต่รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในตู้...อยู่หลังประตูที่เปิดแง้มออกได้เอง

ฉันเห็นผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดดำ!

คุณพระช่วย! ฉันไม่ได้ตาฝาดนะ ฉันเห็นจริงๆ เธอยืนหน้าคว่ำ ตาคว่ำ ทำท่าจะออกมาหาฉัน...แล้วภาพสยองก็หายไปเหมือนประสาทหลอน...ฉันเขย่าตัวปอนให้ตื่น มันงัวเงียลุกขึ้นถามว่าอะไร? ฉันพูดไม่ออก ได้แต่ชี้ไปที่ตู้

"ฮือ...มันเปิดได้เองอย่างนี้ทุกคืนแหละ" ปอนบอกเสียงง่วงๆ พลางขดตัวหลับต่อ "ถ้ากลัวก็ไปปิดสิ แต่มันจะเปิดเองอีกนะ"

มันไม่กลัวแต่ฉันกลัวแทนตาย! ไม่เอาแล้ว พรุ่งนี้กลับบ้านดีกว่า ไม่อยู่แล้ว ปอนอยู่คนเดียวได้ก็ช่างมันเถอะ...มันเก่ง!!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์