ในฝัน!
"กำภู" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงแรม
"คิดดีหน้าใส คิดร้ายหน้าเสีย" ผมเคยได้ยินได้ฟังถ้อยคำนี้มาจากไหนก็ลืมเสียแล้ว แต่ผมไปเจอะเจอเรื่องแปลกประหลาดที่หัวหินเมื่อต้นปีนี้ ทำให้อยากจะเพิ่มเติมข้อความให้สมบูรณ์แบบไปเลยว่า "คิดร้ายไม่ได้หน้าเสียอย่างเดียว แต่พลอยทำให้ประสาทเสีย ขวัญหาย หวิดสติแตกอีกต่างหาก!"
โรงแรมชายหาดที่เปิดหน้าต่างออกไปเห็นฟ้าสีคราม ทะเลสีเขียวเข้ม ขอบฟ้ากับขอบน้ำบรรจบกัน...เขาว่าตอนเช้าๆ พระอาทิตย์ดวงกลมโตกำลังโผล่พ้นขอบน้ำขึ้นมาช้าๆ ทอแสงแรกอรุโณทัยสุดสวยงาม...ผมไม่มีโชคดียังงั้นเพราะเป็นคนนอนดึกตื่นสาย เป็นอันว่าหมดสิทธิ์ชมวิวที่ว่าไปโดยปริยาย
หัวหินหน้าหนาวไม่ค่อยมีคนนิยมเที่ยว ส่วนมากมักจะขึ้นเขาเข้าป่า หรือไม่ก็ไปทางแถบฝั่งทะเลอันดามัน เพราะฤดูนี้คลื่นลมในอ่าวไทยค่อนข้างแรงด้วย แต่ผมกลับชอบที่ไม่ต้องมาเบียดเสียดนักท่องเที่ยวในฤดูร้อน ที่แห่กันมาแย่งถนน แย่งกิน แย่งที่นอน แย่งกันเที่ยวคลั่กๆ เหมือนอยู่ในกรุงเทพฯ ยังไงยังงั้น
เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อเสียเวลา ผมขอรับสารภาพตรงๆ เลยครับว่าที่มาหัวหินในฤดูหนาวเพียงโดดเดี่ยวเดียวดาย ทั้งที่เหงาสุดใจก็เพราะเหตุผลง่ายๆ คือผมอกหักครับ!
อ๋าย...ยิ้ม! ใครไม่เคยอกหักก็แล้วไป แต่ถ้าใครเคยมีประสบการณ์มาก่อนจะรู้ว่ามันทั้งเหงา เศร้า ว้าเหว่ สุดเซ็งจนไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น....ที่ผมซมซานมาหัวหินก็เพราะความรักเคยก่อตัวขึ้นที่นั่นน่ะซีคุณ
เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ...ทั้งความรักดูดดื่มวาบหวาม กับการเจ็บปวดจากอกหักไม่มีชิ้นดี เพราะนั้นไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะเล่า นอกจากเรื่องขนหัวลุก!
โรงแรมชั้นดี ห้องหับสะอาดสะอ้าน เตียงกว้างขวางเหลือใจสำหรับผู้ชายคนเดียวที่นอนก่ายหน้าผาก มีเหล้าเป็นเพื่อน ปิดทีวี วิทยุ จมดิ่งอยู่ในความเงียบ...ความสับสนอลหม่าน ซึมเศร้าจนบางครั้งไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปทำไม?
ห่องหับเยือกเย็นอยู่ในความสลัว บางทีก็คิดเรื่อยเปื่อยว่ามีผู้คน...โดยเฉพาะหนุ่มสาวมาหลับนอนกันที่นี่กี่ร้อยกี่พันคู่มาแล้ว? พวกเขาทำอะไรกันมั่งนะบนเตียงนี่น่ะ?
ผัวเมียหรือหนุ่มสาวอาจจะหยอกเย้า หัวร่อต่อกระซิก กอดจูบกันแนบแน่นเหมือนจะกลืนหายเป็นร่างเดียวกัน สรรพสิ่งปลิดปลิวไปจากสมอง นอกจากความรักใคร่เร่าร้อนเหมือนไฟไหม้ฟ้า...ไม่ว่าบนเตียงหรือโซฟา แม้แต่ในห้องน้ำอันชุ่มฉ่ำและเย็นชื่นเย้ายวนอารมณ์
คืนนั้นเอง ผมเมาจนเคลิ้มไปราวห้าทุ่มเศษ...
ร่างกายหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยก้อนหิน สรรพสิ่งเงียบเชียบมืดดำแต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะซิกซี้มาจากที่นั่นที่นี่ ผมคงฝันไปน่ะ ถึงได้มองเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินโอบกอดกันเข้าประตูมาในชุดอาบน้ำ ส่วนหนุ่มสาวอีกคู่ก็เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ โดยมีผ้าเช็ดตัวพันกายอย่างหละหลวมเต็มที...อีกคู่หนึ่งในชุดนอนกำลังกอดจูบกันเร่าร้อนอยู่บนโซฟา โดยไม่แยแสใครเลย
ผมดับไฟมืดทั้งห้องแท้ๆ ถ้าไม่ใช่ความฝันจะมองเห็นภาพเหล่านั้นชัดเจนได้ไง?
ฝันก็ฝัน! คนเราล้วนแต่เคยฝันกันทั้งนั้น ไม่มีใครไม่เคยฝัน ผมเองน่ะฝันทุกคืนก็ว่าได้...ระยะหลังๆ ฝันเห็นอดีตคนรักกำลังกอดจูบ คลุกเคล้าอยู่กับเพื่อนชายคนใหม่ของเธอในสภาพล่อนจ้อนทั้งคู่
มันก็แค่ความฝันเท่านั้นแหละ!
แต่แหม! คู่หลังสุดนี่ดันผ่ามานอนกอดรัดฟัดกันเหมือนมวยคู่อาฆาตบนเตียงข้างๆ ตัวผมนี่เอง
คนที่เราเห็นในความฝันน่ะจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวใครรู้เห็น ผมเจอมาจนชินแล้ว บางคู่ก็เป็นเพื่อน เป็นญาติ...แต่คู่นี้รูปร่างหน้าตาดีแฮะ ฝ่ายชายผิวคล้ำกำยำ ฝ่ายหญิงอวบขาว อะร้าอร่ามไปทั้งเนื้อทั้งตัว
จู่ๆ เขาก็หันขวับมามอง! เอ๊ะ...ทำไมนัยน์ตาแดงก่ำ เลือดแดงฉานไหลรินจากเบ้าตาทั้งสองคู่ จ้องผมเขม็งเหมือนจะเห็นผมเข้าไปสู่ในความฝันของเขา...หรือของผมกันแน่? ก่อนจะพุ่งพรวดเข้าใส่ผมจนสะดุ้งโหยง ร้องเฮ้ย! สุดเสียง เด้งตัวผางขึ้นมาเปิดไฟสว่างพรึ่บทั้งห้อง...หนุ่มสาวทุกคู่ล้วนหายวับไปจนหมดสิ้น
ผมอาจจะเมามากหรือไม่ก็โดนผีหลอกจังๆ ก็วิญญาณที่สิงสู่อยู่ในห้องนี้ไงล่ะที่ปรากฏให้เห็นน่ะ...ผมเลิกคิดหลับนอน แต่ดวดเหล้าต่อทั้งที่ใจเต้นโครมคราม ก่อนจะเช็กเอาต์บึ่งกลับกรุงเทพฯ วันรุ่งขึ้น...อกหักก็ยังไม่สยองขวัญหมือนโดนผีหลอกนะครับ! บรื๋ออออ...
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
"คิดดีหน้าใส คิดร้ายหน้าเสีย" ผมเคยได้ยินได้ฟังถ้อยคำนี้มาจากไหนก็ลืมเสียแล้ว แต่ผมไปเจอะเจอเรื่องแปลกประหลาดที่หัวหินเมื่อต้นปีนี้ ทำให้อยากจะเพิ่มเติมข้อความให้สมบูรณ์แบบไปเลยว่า "คิดร้ายไม่ได้หน้าเสียอย่างเดียว แต่พลอยทำให้ประสาทเสีย ขวัญหาย หวิดสติแตกอีกต่างหาก!"
โรงแรมชายหาดที่เปิดหน้าต่างออกไปเห็นฟ้าสีคราม ทะเลสีเขียวเข้ม ขอบฟ้ากับขอบน้ำบรรจบกัน...เขาว่าตอนเช้าๆ พระอาทิตย์ดวงกลมโตกำลังโผล่พ้นขอบน้ำขึ้นมาช้าๆ ทอแสงแรกอรุโณทัยสุดสวยงาม...ผมไม่มีโชคดียังงั้นเพราะเป็นคนนอนดึกตื่นสาย เป็นอันว่าหมดสิทธิ์ชมวิวที่ว่าไปโดยปริยาย
หัวหินหน้าหนาวไม่ค่อยมีคนนิยมเที่ยว ส่วนมากมักจะขึ้นเขาเข้าป่า หรือไม่ก็ไปทางแถบฝั่งทะเลอันดามัน เพราะฤดูนี้คลื่นลมในอ่าวไทยค่อนข้างแรงด้วย แต่ผมกลับชอบที่ไม่ต้องมาเบียดเสียดนักท่องเที่ยวในฤดูร้อน ที่แห่กันมาแย่งถนน แย่งกิน แย่งที่นอน แย่งกันเที่ยวคลั่กๆ เหมือนอยู่ในกรุงเทพฯ ยังไงยังงั้น
เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อเสียเวลา ผมขอรับสารภาพตรงๆ เลยครับว่าที่มาหัวหินในฤดูหนาวเพียงโดดเดี่ยวเดียวดาย ทั้งที่เหงาสุดใจก็เพราะเหตุผลง่ายๆ คือผมอกหักครับ!
อ๋าย...ยิ้ม! ใครไม่เคยอกหักก็แล้วไป แต่ถ้าใครเคยมีประสบการณ์มาก่อนจะรู้ว่ามันทั้งเหงา เศร้า ว้าเหว่ สุดเซ็งจนไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น....ที่ผมซมซานมาหัวหินก็เพราะความรักเคยก่อตัวขึ้นที่นั่นน่ะซีคุณ
เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ...ทั้งความรักดูดดื่มวาบหวาม กับการเจ็บปวดจากอกหักไม่มีชิ้นดี เพราะนั้นไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะเล่า นอกจากเรื่องขนหัวลุก!
โรงแรมชั้นดี ห้องหับสะอาดสะอ้าน เตียงกว้างขวางเหลือใจสำหรับผู้ชายคนเดียวที่นอนก่ายหน้าผาก มีเหล้าเป็นเพื่อน ปิดทีวี วิทยุ จมดิ่งอยู่ในความเงียบ...ความสับสนอลหม่าน ซึมเศร้าจนบางครั้งไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปทำไม?
ห่องหับเยือกเย็นอยู่ในความสลัว บางทีก็คิดเรื่อยเปื่อยว่ามีผู้คน...โดยเฉพาะหนุ่มสาวมาหลับนอนกันที่นี่กี่ร้อยกี่พันคู่มาแล้ว? พวกเขาทำอะไรกันมั่งนะบนเตียงนี่น่ะ?
ผัวเมียหรือหนุ่มสาวอาจจะหยอกเย้า หัวร่อต่อกระซิก กอดจูบกันแนบแน่นเหมือนจะกลืนหายเป็นร่างเดียวกัน สรรพสิ่งปลิดปลิวไปจากสมอง นอกจากความรักใคร่เร่าร้อนเหมือนไฟไหม้ฟ้า...ไม่ว่าบนเตียงหรือโซฟา แม้แต่ในห้องน้ำอันชุ่มฉ่ำและเย็นชื่นเย้ายวนอารมณ์
คืนนั้นเอง ผมเมาจนเคลิ้มไปราวห้าทุ่มเศษ...
ร่างกายหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยก้อนหิน สรรพสิ่งเงียบเชียบมืดดำแต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะซิกซี้มาจากที่นั่นที่นี่ ผมคงฝันไปน่ะ ถึงได้มองเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินโอบกอดกันเข้าประตูมาในชุดอาบน้ำ ส่วนหนุ่มสาวอีกคู่ก็เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ โดยมีผ้าเช็ดตัวพันกายอย่างหละหลวมเต็มที...อีกคู่หนึ่งในชุดนอนกำลังกอดจูบกันเร่าร้อนอยู่บนโซฟา โดยไม่แยแสใครเลย
ผมดับไฟมืดทั้งห้องแท้ๆ ถ้าไม่ใช่ความฝันจะมองเห็นภาพเหล่านั้นชัดเจนได้ไง?
ฝันก็ฝัน! คนเราล้วนแต่เคยฝันกันทั้งนั้น ไม่มีใครไม่เคยฝัน ผมเองน่ะฝันทุกคืนก็ว่าได้...ระยะหลังๆ ฝันเห็นอดีตคนรักกำลังกอดจูบ คลุกเคล้าอยู่กับเพื่อนชายคนใหม่ของเธอในสภาพล่อนจ้อนทั้งคู่
มันก็แค่ความฝันเท่านั้นแหละ!
แต่แหม! คู่หลังสุดนี่ดันผ่ามานอนกอดรัดฟัดกันเหมือนมวยคู่อาฆาตบนเตียงข้างๆ ตัวผมนี่เอง
คนที่เราเห็นในความฝันน่ะจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวใครรู้เห็น ผมเจอมาจนชินแล้ว บางคู่ก็เป็นเพื่อน เป็นญาติ...แต่คู่นี้รูปร่างหน้าตาดีแฮะ ฝ่ายชายผิวคล้ำกำยำ ฝ่ายหญิงอวบขาว อะร้าอร่ามไปทั้งเนื้อทั้งตัว
จู่ๆ เขาก็หันขวับมามอง! เอ๊ะ...ทำไมนัยน์ตาแดงก่ำ เลือดแดงฉานไหลรินจากเบ้าตาทั้งสองคู่ จ้องผมเขม็งเหมือนจะเห็นผมเข้าไปสู่ในความฝันของเขา...หรือของผมกันแน่? ก่อนจะพุ่งพรวดเข้าใส่ผมจนสะดุ้งโหยง ร้องเฮ้ย! สุดเสียง เด้งตัวผางขึ้นมาเปิดไฟสว่างพรึ่บทั้งห้อง...หนุ่มสาวทุกคู่ล้วนหายวับไปจนหมดสิ้น
ผมอาจจะเมามากหรือไม่ก็โดนผีหลอกจังๆ ก็วิญญาณที่สิงสู่อยู่ในห้องนี้ไงล่ะที่ปรากฏให้เห็นน่ะ...ผมเลิกคิดหลับนอน แต่ดวดเหล้าต่อทั้งที่ใจเต้นโครมคราม ก่อนจะเช็กเอาต์บึ่งกลับกรุงเทพฯ วันรุ่งขึ้น...อกหักก็ยังไม่สยองขวัญหมือนโดนผีหลอกนะครับ! บรื๋ออออ...
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!