ผีมีจริง?


ผีมีจริง?

"กษมา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเด็กชงกาแฟ

เรื่องผีเป็นเรื่องที่พิสูจน์กันยากมาก เพราะเวลาผีหลอกก็จะมีแต่คนที่ถูกหลอกเท่านั้นที่จะรับรู้ได้จากประสาทสัมผัสของตัวเอง เช่น เห็นภาพ ได้กลิ่น หรือมีมือเย็นๆ มาจับที่ต้นคอ...แต่แล้วมันก็ไม่เหลือหลักฐานอะไรไว้เลยสักนิด

เมื่อเป็นเช่นนี้ เวลาใครมาเล่าเรื่องที่เขาโดนผีหลอกให้เราฟัง ถึงแม้อยากเชื่อ แต่ใจหนึ่งก็ต้องคิดว่าเขามีอาการประสาทหลอน จึงเพ้อเจ้อไปเอง

ฉันชอบฟังเรื่องผี จนกระทั่งวันหนึ่งก็โดนผีหลอกเอง...ไม่เชื่อก็ไม่รู้จะว่ายังไง!

ฉันทำงานในบริษัทการเงินย่านสีลม บรรยากาศหรูหราน่าสบายมาก มีเด็กเสิร์ฟกาแฟชื่อหน่อย อายุ 24 สวยน่ารัก ตัวเล็กๆ ชงกาแฟอร่อย...เรื่องนี้ก็แปลกเหมือนกัน ถ้าเป็นคนอื่นชงแม้จะสูตรเดียวกันก็ไม่อร่อยเหมือนหน่อยชง แบบนี้ละมังที่เขาเรียกว่าฝีมือ หรือ "รสมือ"

ในแผนกของเราติดใจรสมือของหน่อยกันทั้งนั้น... ฉะนั้น วันหนึ่งเมื่อเดือนก่อน ตอนที่หน่อยขอลาหยุดกลับบ้านอาทิตย์หนึ่ง พวกเราจึงโอดโอยกันเป็นแถว นอกจากจะอดกินกาแฟอร่อยแล้ว ยังขาดหน่อยที่คอยวิ่งขึ้นวิ่งลงซื้อของให้พวกเรา

กับฉันซึ่งสนิทสนมกันเป็นพิเศษ หน่อยบอกว่ากลับบ้านคราวนี้ ไม่แน่ใจว่าจะได้กลับมาอีกหรือเปล่าเพราะแม่ไม่สบาย ไม่มีใครดูแลน้องๆ...น้องคนที่สองห่างจากเธอถึง 7 ปี คนที่ 3 ที่ 4 ก็ยิ่งห่างออกไปใหญ่ คนเล็กน่ะเพิ่งจะเข้าโรงเรียนมัธยม...และคนนี้ละค่ะ เป็นสาเหตุให้หน่อยต้องไปจัดการเอาน้องเข้าโรงเรียน เธอทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองแทนแม่เธอไงคะ

หลังจากหน่อยกลับบ้านไปได้แค่ 2 วัน ฉันไปถึงที่ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า...โอ้โฮ! เช้ามากเลยนะนั่น แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันทำเป็นประจำ คือ ตื่น 6 โมงเช้า อาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวออกจากบ้านเลย...ฉันชอบบรรยากาศยามเช้ามากๆ มันสงบดีจริงๆ

ปกติหน่อยจะมาถึงที่ทำงานประมาณ 7 โมงครึ่ง ฉันกับหน่อยสนิทสนมกันมากก็เพราะเหตุนี้แหละ เรามักมาถึงเป็นคนแรกๆ ที่ทำงานยังโล่งว่าง ไม่มีใคร กว่าจะมากันก็โน่นแน่ะ 9 โมง 10 โมง แต่ละคนอ้างว่ารถติดบ้าง ไปส่งลูกบ้าง ที่ทำงานจะคึกคักเต็มรูปแบบตอน 10 โมงเช้า

วันนั้นฉันหนีบหนังสือพิมพ์ไปอ่านด้วย ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน ทุกๆ วันหน่อยมาถึงแล้วก็จะชงกาแฟมาให้ฉัน...ขณะอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์เพลินๆ พลันรู้สึกเหมือนใครมายืนหน้าโต๊ะ พอเงยหน้าขึ้น...

"อ้าวหน่อย!" เด็กสาวมายืนยิ้มอยู่ตรงหน้า "ไหนว่ากลับบ้านไง ไม่ได้กลับรึ?"

เธอยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดโดยไม่ตอบคำถาม ตอนนี้ฉันเพิ่งสังเกตว่าเธอใส่เสื้อยืดและ.....ดูแน่ะ! เธอนุ่งกางเกงขาสั้นลายการ์ตูน แปลกจัง...เธอแต่งตัวอย่างนี้มาทำงานได้ไง?

"เป็นไงมาไงเนี่ย มีอะไรรึเปล่า?" ฉันนึกเป็นห่วงอยู่ครามครัน

ในวินาทีนั้นแหละ แสงแดดสดใสก็หม่นวูบลงขมุกขมัว เหมือนใบหน้าของหน่อยที่รอยยิ้มเลือนจาง กลายเป็นความหม่นเศร้า ปากเธอเขียว ขอบตาคล้ำ ผิวหน้าและเนื้อตัวกลายเป็นสีม่วงมืดๆ และก็น้ำ...น้ำมาจากไหนก็ไม่รู้ มันหยดลงมาจากผมเผ้าของเธอ!

เมื่อฉันกะพริบตาอีกที เธอก็อยู่ในสภาพเปียกโชกไปหมด ฉันเพ่งมองอย่างงุนงง เอ...เรียกว่าช็อกดีกว่ามังคะ? มันเหมือนฉากหนังใช้เทคนิคสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ในหนังผีเกาหลียังไงยังงั้น...

จมูกเธอมีฟองขาวๆ ปนเลือดเป็นสาย และมันก็ไหลออกจากมุมปากทั้งสองข้างของเธอด้วย...นี่มันคนตายไปแล้วชัดๆ แล้วภาพเธอก็จางหายเหมือนควันละลายไปในอากาศ

ฉันนั่งตัวแข็ง คิดว่าเราฝันไปรึเปล่า? ตะกี้เราเห็นอะไร?

ไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร พวกเพื่อนร่วมงานโผล่เข้ามาทีละคนสองคน ที่ทำงานเริ่มมีชีวิตชีวา บางคนทักว่าฉันไม่สบายรึเปล่า? ฉันก็พูดอะไรไม่ออก

ตอนบ่ายเราได้รับข่าวร้าย หน่อยตกน้ำตายที่บึงในหมู่บ้านเมื่อวานนี้!

เรื่องเสียใจไม่ต้องพูดถึง ฉันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร และเสียดายอยู่อย่างหนึ่งที่ฉันน่าจะเล่าถึงการปรากฏตัวของหน่อย ก่อนหน้าที่ทางบ้านหน่อยจะส่งข่าวมา...ถ้าหากฉันเล่าก่อน มันจะเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่าผีมีจริง แต่นี่ก็สายซะแล้ว

เมื่อฉันเล่าออกไป เพื่อนๆ ก็ตื่นเต้นนะคะ แต่มองตาก็รู้ว่าเขาไม่เชื่อ มันดูเป็นเรื่องเลื่อนลอยของคนที่กำลังเสียใจเลยประสาทหลอน คิดเป็นตุเป็นตะไปเอง

คุณล่ะคะ เชื่อฉันมั้ย?



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์