ไปเขาหลวง


ไปเขาหลวง

"ป้าออง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณหมอสมุนไพร

เขาว่าคนแก่มักจะจำเรื่องเก่าๆ ได้แม่นยำ นึกถึงอะไรขึ้นมาสมัยหนุ่มสาวหรือต่อให้เมื่อยังเด็กๆ ก็จดจำได้เป็นคุ้งเป็นแคว แต่ว่าเรื่องราวใกล้ตัวทุกวันนี้กลับหลงๆ ลืมๆ เดี๋ยวลืมนั่น เดี๋ยวลืมนี่ อย่างที่เขาเรียกว่า "ได้หน้าลืมหลัง" นั่นแหละค่ะ

ป้าเองก็ปาเข้าไปเกือบ 70 แล้ว มีอาการป้ำๆ เป๋อๆ อย่างที่เขาว่าเหมือนกัน แต่ใครอย่ามาถามเรื่องสมัยเด็กๆ กับสาวๆ ที่เคยอยู่อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย เชียวนา...ป้าคุยได้ 3 วัน 3 คืนยังไม่อยากจบ

ทั้งความสนุกซุกซนกับเพื่อนฝูงประสาเด็ก ทั้งความประทับใจต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องผีที่ฟังผู้ใหญ่เขาเล่า...จนกระทั่งเนื้อสาวแตกเพียะๆ ขึ้นมา เล่นเอาดีอกดีใจแทบตาย รู้จักสบตากับทิ้งหางตาให้ไอ้หนุ่มรูปหล่อที่ถูกตาถูกใจ...แหม! จำได้แม่นยำเหมือนเกิดขึ้นปีกลายเอง

เรื่องตาป่วนเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของป้าไปชั่วชีวิตสลาย!

ชื่อป่วน แต่ตาป่วนไม่ได้ป่วนใคร หรือทำให้ใครปั่นป่วน ตรงกันข้าม แกกลับเป็นที่พึ่งของคนทั้งหมู่ทั้งตำบลเขาหลวงก็ว่าได้ เพราะแกเป็นหมอยาไทยๆ หรือต่อมาเรียกว่าสมุนไพรพื้นบ้านนี่เอง ไม่ว่าใครเจ็บป่วยอะไร ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไปยันคนแก่คนเฒ่าถือไม้เท้างกๆ เงิ่นๆ ไปหาแกที่อยู่กับลูกเมียในบ้านถัดจากป้าเข้าไปด้านหลัง...รับรองว่าถ้าไม่อาการหนักถึงขั้นสุดท้ายจริงๆ หมอป่วนแกรักษาหายหมด

ตอนสายๆ กินข้าวกินปลาแล้ว ร่างผอมสูง ผมสีดอกเลาของตาป่วนก็เดินผ่านบ้านป้า มุ่งหน้าไปเขาหลวงที่เห็นอยู่ไม่ไกลนัก...ตะกร้าที่คล้องแขนก็เพื่อเก็บสมุนไพรมาประกอบเป็นยารักษาชาวบ้านนั่นแหละค่ะ

อ๋อ! เงินทองไม่เคยเรียกร้อง เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่มีก็ไม่เป็นไร แกเคยบอกว่าได้ช่วยให้เพื่อนมนุษย์หายเจ็บหายไข้ มันชื่นอกชื่นใจยิ่งกว่าได้เงินได้ทองเป็นไหนๆ

ป้าได้ยินกับหูตอนที่แม่พาป้าไปหาหมอป่วนเพราะป้าเกิดเป็นไข้รุมๆ คัดจมูกจนหายใจลำบาก แกบอกให้เอาผงพริกไทยใส่แกงร้อนๆ จะช่วยแก้หวัดได้ เพราะช่วยขับเหงื่อ ช่วยให้จาม ทำให้น้ำมูกไม่คัดจมูก หายใจสะดวกขึ้น

วันนั้นนังแก้วเพื่อนป้าก็ไปกับแม่ มันเป็นเหาค่ะ หมอป่วนบอกว่าต้องใช้ "เคี่ยน" หรือ "เฮี่ยน" เอาใบหรือดอกมาขยี้ทา สรรพคุณฆ่าหิดฆ่าเหาตาย เม็ดเคี่ยนเมื่อบีบจะได้น้ำมัน ใช้ทารักษาโรคกลาก หิด หรือผิวหนังอื่นๆ

ไม่ว่าใครเป็นอะไรก็ไปหาหมอป่วนทุกคน ป้ายังนึกถึงบุญคุณแกมาจนทุกวันนี้!

วันหนึ่ง ตาป่วนก็หิ้วตะกร้าเดินออกจากบ้านไปหาสมุนไพรที่เขาหลวงเหมือนวันที่แล้วๆ มา ป้ากับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่กำลังเล่นต้องเตกันอยู่ใต้แคริมทาง ถัดไปเป็นดงกระถินป่าละเมาะและไผ่รวกกอใหญ่ที่โอนเอนอยู่ในสายลม อากาศปลายฝนต้นหนาวกำลังเย็นสบาย

จู่ๆ ตาป่วนก็หันมาทักทายเราแบบผู้ใหญ่เมตตาเด็ก บอกให้แม่มาเก็บดอกแคใบแคไปแกงส้มกับต้มจิ้มน้ำพริก แก้ไข้หัวลมชะงัดนัก คนโบราณเชื่อถือกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พวกเราก็ยกมือไหว้ บอกจ้ะๆๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน

ป้าจะตาฝาดหรือยังไงก็ไม่รู้ ดูหน้าตาของตาป่วนขาวผ่องแต่ซีดเซียวเหมือนไม่มีสีเลือดยังงั้นแหละค่ะ

แล้วแกก็เดินผ่านไป มองซ้ายมองขวาอย่างรอบคอบตามนิสัยช่างสังเกต บางวันแกก็ก้มลงเก็บพืชผักที่เราไม่รู้จักใส่ตะกร้า นอกจากเดาว่าคงจะเป็นสมุนไพรอย่างใดอย่างหนึ่ง...พอดีนังช้อยเพื่อนป้าร้องขึ้นว่า...ดูอะไรแน่ะ ตาป่วนไม่มีตีนหรอก! ไม่รู้แกเดินไปได้ยังไง?

พวกเราหันขวับไปมองอีกครั้ง ป้าใจหายวาบเมื่อเห็นตาป่วนเดินช้าๆ คล้ายลอยไปเอง เหมือนไม่มีเท้า หรือไม่ก็เท้าไม่ติดดิน ...จนกระทั่งลับตาไป!

ไม่ช้าพวกเราก็ลืมเรื่องนี้ได้ง่ายๆ ตามประสาเด็ก จนกระทั่งตกเย็น ป้ากินข้าวกับพ่อแม่แล้วก็ออกมานั่งเล่นตุ๊กตาที่ระเบียงหน้าบ้าน ร้องทักทายคนนั้นคนนี้ที่รู้จักมักคุ้นกันทั้งหมู่บ้าน...หันไปมองทางเขาหลวงก็เห็นเป็นสีเทาทะมึน ส่วนยอดเขาดูเหมือนจะหายไปในกลุ่มเมฆหนาทึบ...นึกวูบไปถึงตาป่วนว่าแกจะกลับบ้านหรือยัง? วันนี้จะได้สมุนไพรอะไรมามั่ง?

ทันใดนั้น ป้าก็เหลือบไปเห็นหมอประจำหมู่บ้านของเราเดินช้าๆ ท่าทางอ่อนระโหยโรยแรงชอบกล...พอสบตากันแกก็ฝืนยิ้ม พยักหน้าให้ก่อนจะเดินผ่านบ้านป้าไป...

คืนนั้นได้ข่าวว่าตาป่วนไม่กลับบ้าน มีการยกโขยงไปตามจนพบหมอยาถูกงูกัดตายอยู่ที่เชิงเขาหลวงนั่นเอง สมุนไพรกระจายเกลื่อนอยู่ข้างตะกร้า...บางคนบอกว่าตาป่วนถึงคราวตายเพราะไม่ได้พกยารักษางูกัดไปด้วย...แต่ป้าน่ะพูดอะไรไม่ออก กลัวว่าวันดีคืนดีจะเห็นตาป่วนแกเดินผ่านหน้าบ้านมาอีกน่ะซีคะ! บรื๋ออออ...



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์