วิญญาณที่รอคอย


วิญญาณที่รอคอย

"รสนา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากป่าช้าเก่าวัดป่าหนองหิน มหาสารคาม

เคยได้ยินคำโบราณท่านเปรียบเทียบคนที่ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวหรือไม่ก็มองข้ามไปเลยว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" ดิฉันก็เพิ่งจะมาประสบกับตัวเองเร็วๆ นี้แหละค่ะ แถมยังทำให้ขนหัวลุกอีกต่างหาก

ดิฉันกับครอบครัวอยู่ที่จังหวัดมหาสารคามมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกแล้วค่ะ ที่นี่มีทั้งวัดบ้านและวัดป่า มีผู้ร่ำลือกันว่า "พระป่า" ต่างกับพระบ้านตรงที่มีวัตรปฏิบัติเข้มงวด จริงจัง ฉันอาหารสำรวมเพียงวันละมื้อเดียว ใช้เวลาส่วนมากในการศึกษาพระธรรมวินัย นั่งสมาธิกระทำวิปัสสนาและบำเพ็ญเพียรเพื่อการหลุดพ้นจากสังสารวัฏ

ไม่มามัวห่วงอยู่กุฏิที่สร้างด้วยตึกใหญ่ ติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ มีทีวีจอยักษ์และเครื่องเล่นดีวีดีดูของสวยๆ งามๆ ตามประสาชาวโลกย์ที่ยังมีกิเลสหยาบหนาทั่วๆ ไป!

รับกิจนิมนต์ด้วยรถยนต์หรูหรา เลือกสรรเจ้าภาพมีหน้ามีตาระดับเศรษฐี คหบดีถ้าเห็นว่าจะทำให้เสียเวล่ำเวลาโดยใช่เหตุก็จะบอกปัด หรือมิฉะนั้นก็ให้พระลูกวัดไปแทนตัว

ท่านอาจจะหลงลืมไปว่า ศาสดาของท่านสัญจรมาจากปราสาทสามฤดู มีเครื่องบำรุงบำเรอความสุขสบายล้นเหลือ แต่ปลีกหนีไปสู่แดนอรัญวาสี อาศัยอยู่ตามเถื่อนถ้ำหรือรุกขมูล จนบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณแล้วจึงได้เสด็จออกจากป่าเขาเพื่อไปโปรดเวไนยสัตว์ให้ล่วงพ้นจากหล่มทุกข์ทั้งมวล!

ส่วนท่านเองกระเสือกกระสนมาจากทุ่งนาป่าดงอันทุรกันดาร อดมื้อกินมื้อ มาอาศัยร่มผ้ากาสาวพัสตร์เป็นเครื่องประทังชีพ ครั้นเนิ่นนานไปก็กลายเป็นพระนักเทศน์ที่มีลูกคอพลิ้วพราย เสียงหวานใสจับใจสีกาน้อยใหญ่ จดจำมุขตลกโปกฮาจากตลกคาเฟ่มาสอดแทรกจนบางครั้งกับสองง่ามสามแง่ เพื่อให้ญาติโยมหัวเราะเฮฮา ชอบอกชอบใจ ร่ำลือกันไปปากต่อปากว่า...ท่านเทศน์เก่งเหลือเกิน! ฟังแล้วหัวร่องอหายไปตามๆ กันยิ่งกว่าดู หม่ำ จ๊กมก กับ เท่ง เถิดเทิง ด้วยซ้ำไป

กลายเป็นดาราทีวี เป็นพ่อค้าในธุรกิจหนังสือและดีวีดี เป็นนักธุรกิจหัวใส หายใจเข้าออกเป็นเงินเป็นทอง ทั้งๆ ที่ยังนุ่งผ้าสามผืนอันเป็นสัญลักษณ์ของสาวกแห่งพระชินศรีอยู่ดี

อย่าไปมองหาความผิดของผู้อื่นเลย จงพินิจพิจารณาตัวตนของท่านเองก่อนเถิด! อย่าไปสอนผู้อื่นเลย จงสอนตนให้มีวัตรปฏิบัติงดงามสมกับเป็นผู้ทรงศีล 227 ข้อเสียก่อนเถิด

ดิฉันได้ข่าวว่ามีพระที่เป็นพระแท้ชื่อหลวงตาชัชวาลย์ อยู่วัดป่าหนองหิน ต.โคกก่อ อ.เมือง ที่มหาสารคามนี่เอง และได้ข่าวว่ามีผู้ศรัทธาเลื่อมใสเดินทางมาจากจังหวัดใกล้ๆ เช่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ แม้แต่ในมหาสารคามก็มีจำนวนมากมาย พ่อค้าในจังหวัดก็ไปบริจาคเงินและช่วยต่อไฟฟ้าไปให้ทางวัดซึ่งมีพระจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว คือหลวงตาผู้เป็นสมภารนั่นเอง

วันนั้น ครอบครัวเราและเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกันก็ชวนกันไปทำบุญที่วัดป่าหนองหิน ไปรถปิกอัพ 3 คัน ปรากฏว่าวันพระนั้นมีชาวบ้านร้านตลาดที่ศรัทธาหลวงตา หรือหลวงพ่อ บางคนก็เรียกท่านว่าพระอาจารย์ ไปทำบุญพร้อมเพรียงกันหลายสิบคน

หลวงตานั่งอยู่บนระเบียงหน้าพระพุทธรูป หน้าตาของท่านดูสงบเยือกเย็น...ดิฉันก้มลงกราบแล้วเงยหน้ามองดูท่านนิ่งๆ รู้สึกจิตใจสงบ ไม่วุ่นวายและพลอยได้รับความเยือกเย็นไปจากการแผ่เมตตาของท่านด้วย

พ่อแก่แม่เฒ่าที่บางคนก็หอบลูกจูงหลานมานั่งข้างๆ ดิฉัน พูดคุยกันว่า...หลวงพ่อไม่ให้หวย ไม่รดน้ำมนต์ ไม่สะเดาะเคราะห์ใดๆ สอนแต่ให้กระทำแต่กรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส

กรรมดีนั้นทำง่ายดูง่าย คือเมื่อทำแล้วสบายใจ ไม่ต้องกลัดกลุ้มกังวลใดๆ ส่วนกรรมชั่วก็ดูไม่ยากเช่นกัน เมื่อทำแล้วจิตใจจะขุ่นมัว ทุกข์ใจร้อนใจเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ในอก เมื่อทำดีละเว้นทำชั่วเสียแล้ว จิตใจก็ย่อมผ่องใสได้รับความสุขอิ่มเอิบใจเป็นของธรรมดา

พ่อแก่แม่เฒ่าคุยกันว่า ยังมีศพที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินอีกมากมายเพราะเคยเป็นป่าช้าเก่า ถ้าหลวงพ่อได้รับปัจจัยไทยทานเพียงพอก็จะได้ขุดศพไร้ญาติเหล่านั้นมาเผาและบำเพ็ญกุศลให้ตามประเพณี...ดวงวิญญาณทั้งของหนุ่มสาว คนชราและเด็กๆ จะได้พ้นกรรมไปสู่สุคติเสียที!

ลมเย็นๆ พัดวูบเข้ามา ทำให้ดิฉันหันไปมองป่าโปร่งด้านหน้าที่เป็นป่าช้าร้างโดยไม่ได้ตั้งใจ ครั้นหันมาอีกทีก็เห็นแม่เฒ่าที่นั่งอยู่ข้างๆ ผิวดำ ผมขาวโพลนมีเด็กชายวัย 5-6 ขวบนั่งตัก แกอุ้มหลานลงแล้วสั่งให้กราบลาหลวงตา

ต่อจากนั้นแม่เฒ่าก็จูงหลานเดินออกไปจากศาลาที่เปิดโล่ง...ดิฉันรู้สึกสังหรณ์ใจยังไงพิกลเลยมองตาม...พบว่าแกเดินตรงไปที่ป่าช้าเก่าแก่นั้นท่ามกลางแสงสว่าง แม้ว่าจะมีก้อนเมฆบังดวงอาทิตย์อยู่ก็ตาม...ก่อนจะเลือนรางจางหายไปบริเวณที่คงจะเป็นหลุมศพนั่นเอง

ขนลุกซ่าไปทั้งตัว ก้มลงกราบลาหลวงพ่อ นึกอยู่ว่าขอให้ท่านได้จัดการขุดกระดูกมาเผาจี่ตามประเพณีโดยเร็วเถิด ดิฉันยินดีที่จะช่วยทำบุญกับท่านอย่างเต็มกำลังเชียวค่ะ!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์