วิญญาณที่ถูกลืม
"มัธยันต์" เล่าเรื่องขนหัวลุกของคนสาบสูญในป่าดิบ
นอกจากนั้นยังมีการรบพุ่งฆ่าฟันกัน ระหว่างคนแตกต่างลัทธิที่เห็นชัดเจนคือกรณี 6 ตุลาคม 2519 หนุ่มสาวของเราต้องเตลิดหนีเข้าป่านับร้อยนับพัน เกิดการต่อสู้ชนิดโชกเลือด หรือเลือดนองป่าก็ว่าได้
จากภูพานถึงเขาค้อ
จากภูหินร่องกล้าไปถึงทุ่งช้าง
จากลุ่มแม่น้ำโขงลงไปยันแม่น้ำตาปี
จากเชียงใหม่ เชียงราย ลงไปถึงสุราษฎร์ฯ พัทลุง นคร ศรีธรรมราช
คนไทยด้วยกันเองแท้ๆ แต่ต้องมาห้ำหั่น เข่นฆ่ากันเองเพราะความเชื่อถือลัทธิที่แปลกแยกแตกต่างกันเท่านั้น...กว่าจะรอมชอมกันได้ก็ย่อยยับกันไปทั้งสองฝ่าย น่าอเนจอนาถนัก
ที่สำคัญคือ คนที่ล้มตายในป่าโดยไม่มีผู้รู้เห็น ร่างกายตกเป็นเหยื่อสัตว์ หรือเน่าเปื่อยผุพังอยู่ในโตรกเหว ลูกเมียญาติมิตรเห็นผัวเห็นพ่อ เห็นพี่น้องออกไปล่าสัตว์ ออกไปหาของป่ามาเลี้ยงดูครอบครัว แต่ก็กลับหายสาบสูญไป คอยแล้วคอยเล่าก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับมาหาลูกเมียเหมือนอย่างเคย
เชื่อถือกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่า วิญญาณที่สิงสู่หรือเร่ร่อนอยู่ในป่าดงเหล่านั้นคือ "ผีโขมด" หรือ "โขมดป่า" นั่นเอง!
ญาติมิตรไม่รู้แน่ชัดว่าตายไปแล้ว จึงไม่มีใครทำบุญกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลไปให้ บรรดาผีโขมดทั้งหลายแหล่จึงต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความอดอยาก หิวโหยยิ่งกว่าภูตผีชนิดอื่นๆ
ความหิวโหยทำให้ต้องดิ้นรน กระเสือกกระสนไปหาอาหารมาประทังชีวิต แต่ก็หายากหาเย็นเต็มที
อาหารของภูตผีทั่วๆ ไปมักจะเป็นอาหารทิพย์ คือมีคนทำบุญใส่บาตรแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ จึงจะเกิดความอิ่มหมีพีมันสักครั้งหนึ่ง แต่ไม่ช้าก็หิวโหย ต้องการอาหารอีกต่อๆ ไปไม่มีสิ้นสุดเหมือนสัตว์โลกทั้งหลาย ไม่ใช่ว่าจะ "อิ่มทิพย์" เหมือนเทวดานางฟ้าเสียที่ไหน
เมื่อหิวหนำๆ เข้าก็ต้องไปขอส่วนบุญเอาเอง!
ส่วนบุญจากใคร?
ส่วนมากมักจะเป็นพระธุดงค์ที่สัญจรเข้าป่าดง เพื่อเสาะหาความสงัดวิเวกเหมาะสำหรับการบำเพ็ญภาวนา หรือพระอริยสงฆ์ที่เดินทางผ่านมา มีจุดมุ่งหมายจะไปเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา บ้างก็ประสงค์จะไปโปรดสัตว์ต่างถิ่น หรือมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสเอ่ยปากนิมนต์มา
ภิกษุเหล่านั้นล้วนมีดวงจิตสงบนิ่ง เยือกเย็นยิ่งนัก หยั่งรู้ความประสงค์ของภูตวิญญาณและสัมภเวสีทั้งหลาย กอปรด้วยดวงจิตดีงาม ท่านก็แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งปวงได้รับส่วนบุญส่วนกุศลโดยทั่วถึงกัน...ดวงวิญญาณทนทุกข์ด้วยความหิวโหยสาหัสเหล่านั้น ก็พลอยได้รับส่วนบุญอิ่มหนำสำราญไปเป็นครั้งคราว
นอกจากสมณะดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีฆราวาสผู้เข้าไปบำเพ็ญภาวนาในป่าดง หรือในเถื่อนถ้ำอันสงบเงียบ พิจารณาถึงความทุกข์อันมาแต่การเกิด แก่ เจ็บ ตาย...เพื่อจะได้ล่วงพ้นโอฆสงสาร ประดุจคนที่ลอยน้ำมาแล้วมองหาหนทางที่จะหลุดพ้นจากห้วงสาคร ขึ้นฝั่งได้สำเร็จสมปรารถนา
นั่นคือไม่ต้องกลับลงน้ำ หรือการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปเป็นนิจนิรันดร์!
ผีโขมดเห็นผู้บำเพ็ญธรรมเหล่านั้นเข้าก็มีความยินดี รีบเข้าไปบอกกล่าวให้ผู้มีจิตกุศลเหล่านั้นได้รับรู้ความทุกข์ ความ ต้องการของตนด้วยวิธีต่างๆ กันแล้วแต่จะเห็นเหมาะสม
เช่นเข้าไปปรากฏกายให้เห็นบ้าง ส่งเสียงร้องโหยหวนให้ได้ยินบ้าง
เกิดพายุอื้ออึงก็มี เกิดเสียงประหลาดต่างๆ รอบตัวก็มี
บางท่านเล่าว่าเห็นงูบ้าง เห็นลิงบ้าง ปรากฏกายขึ้นตรงหน้า แล้วหยุดนิ่งจ้องมองด้วยแววตาวิงวอน จิตอันละเอียดอ่อนของผู้รักษาศีลปฏิบัติธรรมมาเนิ่นนานก็หยั่งรู้ได้ทันที ว่าสัมภเวสีอดอยากจนซมซานมาขอแบ่งปันส่วนบุญ!
ท่านจึงกำหนดจิตแผ่เมตตาให้ดวงวิญญาณเหล่านั้น บุญกุศลที่เคยสั่งสมแต่อดีตถึงปัจจุบัน ก็ขออุทิศแบ่งปันให้สรรพสัตว์ผู้อดอยากเดือดร้อนจงได้รับไปโดยทั่วถึงกันเถิด...
ภาพและเสียงแปลกประหลาดเหล่านั้นก็หายไป มีเสียงลมพัดยอดไม้คล้ายเสียงใครถอนใจยืดยาวอย่างโล่งอก ราวกับจะบ่งบอกถึงความกตัญญูรู้คุณที่ช่วยให้รอดพ้นจากความทุกขเวทนา ครั้งนี้ไปได้
...ถ้าเป็นคนธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ มีหวังวิ่งกันป่าราบในพริบตานั้นเอง!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
นอกจากนั้นยังมีการรบพุ่งฆ่าฟันกัน ระหว่างคนแตกต่างลัทธิที่เห็นชัดเจนคือกรณี 6 ตุลาคม 2519 หนุ่มสาวของเราต้องเตลิดหนีเข้าป่านับร้อยนับพัน เกิดการต่อสู้ชนิดโชกเลือด หรือเลือดนองป่าก็ว่าได้
จากภูพานถึงเขาค้อ
จากภูหินร่องกล้าไปถึงทุ่งช้าง
จากลุ่มแม่น้ำโขงลงไปยันแม่น้ำตาปี
จากเชียงใหม่ เชียงราย ลงไปถึงสุราษฎร์ฯ พัทลุง นคร ศรีธรรมราช
คนไทยด้วยกันเองแท้ๆ แต่ต้องมาห้ำหั่น เข่นฆ่ากันเองเพราะความเชื่อถือลัทธิที่แปลกแยกแตกต่างกันเท่านั้น...กว่าจะรอมชอมกันได้ก็ย่อยยับกันไปทั้งสองฝ่าย น่าอเนจอนาถนัก
ที่สำคัญคือ คนที่ล้มตายในป่าโดยไม่มีผู้รู้เห็น ร่างกายตกเป็นเหยื่อสัตว์ หรือเน่าเปื่อยผุพังอยู่ในโตรกเหว ลูกเมียญาติมิตรเห็นผัวเห็นพ่อ เห็นพี่น้องออกไปล่าสัตว์ ออกไปหาของป่ามาเลี้ยงดูครอบครัว แต่ก็กลับหายสาบสูญไป คอยแล้วคอยเล่าก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับมาหาลูกเมียเหมือนอย่างเคย
เชื่อถือกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่า วิญญาณที่สิงสู่หรือเร่ร่อนอยู่ในป่าดงเหล่านั้นคือ "ผีโขมด" หรือ "โขมดป่า" นั่นเอง!
ญาติมิตรไม่รู้แน่ชัดว่าตายไปแล้ว จึงไม่มีใครทำบุญกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลไปให้ บรรดาผีโขมดทั้งหลายแหล่จึงต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความอดอยาก หิวโหยยิ่งกว่าภูตผีชนิดอื่นๆ
ความหิวโหยทำให้ต้องดิ้นรน กระเสือกกระสนไปหาอาหารมาประทังชีวิต แต่ก็หายากหาเย็นเต็มที
อาหารของภูตผีทั่วๆ ไปมักจะเป็นอาหารทิพย์ คือมีคนทำบุญใส่บาตรแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ จึงจะเกิดความอิ่มหมีพีมันสักครั้งหนึ่ง แต่ไม่ช้าก็หิวโหย ต้องการอาหารอีกต่อๆ ไปไม่มีสิ้นสุดเหมือนสัตว์โลกทั้งหลาย ไม่ใช่ว่าจะ "อิ่มทิพย์" เหมือนเทวดานางฟ้าเสียที่ไหน
เมื่อหิวหนำๆ เข้าก็ต้องไปขอส่วนบุญเอาเอง!
ส่วนบุญจากใคร?
ส่วนมากมักจะเป็นพระธุดงค์ที่สัญจรเข้าป่าดง เพื่อเสาะหาความสงัดวิเวกเหมาะสำหรับการบำเพ็ญภาวนา หรือพระอริยสงฆ์ที่เดินทางผ่านมา มีจุดมุ่งหมายจะไปเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา บ้างก็ประสงค์จะไปโปรดสัตว์ต่างถิ่น หรือมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสเอ่ยปากนิมนต์มา
ภิกษุเหล่านั้นล้วนมีดวงจิตสงบนิ่ง เยือกเย็นยิ่งนัก หยั่งรู้ความประสงค์ของภูตวิญญาณและสัมภเวสีทั้งหลาย กอปรด้วยดวงจิตดีงาม ท่านก็แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งปวงได้รับส่วนบุญส่วนกุศลโดยทั่วถึงกัน...ดวงวิญญาณทนทุกข์ด้วยความหิวโหยสาหัสเหล่านั้น ก็พลอยได้รับส่วนบุญอิ่มหนำสำราญไปเป็นครั้งคราว
นอกจากสมณะดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีฆราวาสผู้เข้าไปบำเพ็ญภาวนาในป่าดง หรือในเถื่อนถ้ำอันสงบเงียบ พิจารณาถึงความทุกข์อันมาแต่การเกิด แก่ เจ็บ ตาย...เพื่อจะได้ล่วงพ้นโอฆสงสาร ประดุจคนที่ลอยน้ำมาแล้วมองหาหนทางที่จะหลุดพ้นจากห้วงสาคร ขึ้นฝั่งได้สำเร็จสมปรารถนา
นั่นคือไม่ต้องกลับลงน้ำ หรือการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปเป็นนิจนิรันดร์!
ผีโขมดเห็นผู้บำเพ็ญธรรมเหล่านั้นเข้าก็มีความยินดี รีบเข้าไปบอกกล่าวให้ผู้มีจิตกุศลเหล่านั้นได้รับรู้ความทุกข์ ความ ต้องการของตนด้วยวิธีต่างๆ กันแล้วแต่จะเห็นเหมาะสม
เช่นเข้าไปปรากฏกายให้เห็นบ้าง ส่งเสียงร้องโหยหวนให้ได้ยินบ้าง
เกิดพายุอื้ออึงก็มี เกิดเสียงประหลาดต่างๆ รอบตัวก็มี
บางท่านเล่าว่าเห็นงูบ้าง เห็นลิงบ้าง ปรากฏกายขึ้นตรงหน้า แล้วหยุดนิ่งจ้องมองด้วยแววตาวิงวอน จิตอันละเอียดอ่อนของผู้รักษาศีลปฏิบัติธรรมมาเนิ่นนานก็หยั่งรู้ได้ทันที ว่าสัมภเวสีอดอยากจนซมซานมาขอแบ่งปันส่วนบุญ!
ท่านจึงกำหนดจิตแผ่เมตตาให้ดวงวิญญาณเหล่านั้น บุญกุศลที่เคยสั่งสมแต่อดีตถึงปัจจุบัน ก็ขออุทิศแบ่งปันให้สรรพสัตว์ผู้อดอยากเดือดร้อนจงได้รับไปโดยทั่วถึงกันเถิด...
ภาพและเสียงแปลกประหลาดเหล่านั้นก็หายไป มีเสียงลมพัดยอดไม้คล้ายเสียงใครถอนใจยืดยาวอย่างโล่งอก ราวกับจะบ่งบอกถึงความกตัญญูรู้คุณที่ช่วยให้รอดพ้นจากความทุกขเวทนา ครั้งนี้ไปได้
...ถ้าเป็นคนธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ มีหวังวิ่งกันป่าราบในพริบตานั้นเอง!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!