ปีศาจคะนอง


ปีศาจคะนอง

"บุญธรรม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากช่องสาลิกา

ใครจะไม่เชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณก็แล้วไป เพราะความเชื่อไม่เชื่อเป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ แต่สำหรับผมแล้วต้องยอมรับว่าผีมีจริง สาเหตุเพราะเคยโดนผีหลอกอย่างฉกาจฉกรรจ์มาด้วยตัวเองน่ะซีครับ

ผมเป็นเด็ก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี แต่พ่อแม่อพยพไปทำไร่ที่ช่องสาลิกา เพราะทางการจัดสรรที่ดินให้มาหากิน ผู้คนมากันหลายตำบล ทั้งท่าพระลาน พระบาท จนถึงโคกตูม และม่วงค่อม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี

ชาวบ้านล้วนแต่ทำไร่ทำสวนกันตามถนัด เช่น ทำไร่ข้าวโพด, ไร่สับปะรด, ไร่พริก, สวนกล้วย, มะละกอ จนถึงปลูกต้นไม้ใหญ่ รวมทั้งพืชผักสวนครัวแทบทุกบ้าน

ตอนแรกก็รู้จักกันแทบทั้งนั้น แต่นานไปนับวันก็มีผู้คนแปลกหน้าอพยพมาอยู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั้งมาซื้อมาเช่า และมาอยู่กับญาติๆ ช่วยกันทำมาหากิน จนช่องสาลิกายิ่งคึกคักเพิ่มขึ้นทุกที

ลุงลพกับป้าซ้อน สองผัวเมียมาจากพระพุทธบาทเหมือนกัน มาอยู่กับน้องชายเป็นรายล่าสุด แกไม่มีลูกเต้าให้เป็นห่วง ตกเช้าก็เข้าป่าล่าสัตว์เล็กๆ เช่น กระต่าย กระจง หานกหาปลามาเป็นกับข้าว บางทีก็เข้าไร่ช่วยน้องชายทำมาหากินอย่างขยันขันแข็ง

ตกเย็นหรือใกล้ค่ำ ร่างผอมสูงของลุงลพมักจะเดินแบกเสียมมาที่ร้านกาแฟ เจ๊กเนี้ยว แวะก๊งเหล้านิดหน่อยพอเจริญอาหาร พูดคุยสนุกสนานกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง จนค่ำมืดจึงจะกลับบ้านไปอาบน้ำกินข้าวที่ป้าซ้อนตระเตรียมไว้

เย็นหนึ่ง ลุงลพหายหน้าไปจนค่ำ กระทั่งป้าซ้อนวิ่งร้องไห้มาเล่าว่าผัวแกโดนงูเห่ากัดตายอยู่ที่ท้ายไร่ระหว่างเดินกลับ ชาวบ้านรีบวิ่งไปดูก็เห็นแต่ศพลุงลพเท่านั้น

วันรุ่งขึ้น พวกญาติที่รู้ข้าวก็เอารถมารับศพไปบำเพ็ญกุศลที่พระพุทธบาท พ่อแม่ผมก็ไปร่วมงานด้วย เพราะรู้จักมักคุ้นกันมาแต่เดิม ...ขากลับป้าซ้อนบอกว่าหมดกะจิตกะใจจะมาทำไร่ต่อแล้ว ขอตายที่พระพุทธบาทดีกว่า

ตั้งแต่วันนั้นมา ก็มีเสียงเล่าลือวาผีลุงลพดุนักหนา!

ตกเย็นใกล้พลบค่ำ เสียงหมาเห่าหอนดังโหยหวนน่าวังเวงใจอยู่ในหมู่บ้าน เล่นเอาผู้คนรีบกินข้าวเข้ามุ้งนอนเร็วขึ้น ยกเว้นพวกคอเหล้าที่ใจกล้า พูดคุยเฮฮากันทำนองว่าไม่กลัวผี บ้างก็บอกว่ามีหมามันเห่าหอน เพราะเห็นลุงลพเดินแบกเสียมออกมาจากไร่...เพราะอยากจะมาก๊งเหล้าน่ะซีครับ

ลุงโฮมกับป้าเลื่อมสองผัวเมียเล่าว่า ค่ำนั้นแกกำลังเดินออกจากไร่ก็เห็นใครเดินโย่งๆ เดินนำหน้า ลุงโฮมบอกว่าคุ้นตารูปร่างแบบนี้ ป้าเลื่อมก็โพล่งว่ามองเห็นแล้วนึกถึงลุงลพที่ตายไปแล้ว

แทบจะไม่ขาดคำ ร่างสูงๆ ก็หยุดเดิน แล้วใบหน้าก็หันขวับมาข้างหลังราวกับโดนหักคอ ...แสงจันทร์ทำให้เห็นว่าเป็นใบหน้าของลุงลพนั่นเอง!

สองผัวเมียร้องเสียงหลง วิ่งตะโพงไปคนละทิศละทาง กว่าจะล้มลุกคลุกคลานมาถึงบ้านก็เหน็ดเหนื่อยแทบขาดใจตาย

หลายๆ คนได้ยินหมาหอนโจ๋วอยู่หน้าบ้านไม่หยุดหย่อนก็เอะใจ พอลุกไปดูก็เห็นลุงลพกำลังเดินเหมือนลอยไปตามถนน ฝูงหมาวิ่งไปหอนไปจนฝุ่นสีแดงลอยฟุ้ง เห็นแล้วน่าสยดสยองสิ้นดี

จนกระทั่งถึงคืนขนหัวลุก เมื่อวันนั้นพ่อปวดเมื่อยเนื้อตัวจนเข้าไร่ไม่ไหวตาว่อง-หมอพื้นบ้านบอกว่าเป็นโรคกษัยไตพิการแล้วเจียดยามาให้กิน ครั้นตกเย็นพ่อก็ชวนผมไปร้านเจ๊กเนี้ยวเพื่อหาซื้อของกินของใช้...แถมกินยาดองแก้กษัยที่นั่นซะเลย

เพื่อนฝูงชวนพูดคุยกันจนพลบค่ำ ส่วนมากจะเป็นเรื่องผีลุงลพในทำนองว่า ไม่กลัวทั้งนั้น ...พ่อบอกลาแล้วฉุดมือผมลุกขึ้นยืน ขณะที่เสียงหมาหอนรับกันเป็นทอดๆ ใกล้เข้ามา ...เสียงโหยหวนน่าวังเวงใจจนทุกคนหันออกไปทางหน้าร้านราวกับนัดกันไว้

ลมพัดฮือจนฝุ่นสีแดงลอยฟุ้ง...เมื่อฝุ่นจางลงก็เห็นร่างสูงๆ แบกเสียมพาดบ่ายืนเด่นอยู่หน้าไร่ริมทาง...นรกเป็นพยาน! นั่นคือร่างลุงลพที่ตายไปแล้วนั่นเอง

พ่อกำลังจะเดินออกนอกร้านถึงกับชะงักกึก ผมเองก็ขาแข็งทื่อ หนักอึ้งจนก้าวไม่ออก พวกคอเหล้าผงะหน้า เสียงใครร้องว่า "ตาลพ" ขณะที่ร่างนั้นเดินทื่อเข้ามาก่อนจะจางหายไปในม่านฝุ่นจางๆ แล้วยังงี้จะไม่ให้ผมเชื่อว่าผีมีจริงได้ยังไงครับ!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์