ผมไม่เคยเชื่อเลยว่า คนเราตายตรงไหนก็ต้องอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งเกิดเรื่องน่าขนลุกขนพองขึ้นในรีสอร์ตของผมเอง!
รีสอร์ตนี้อยู่ใกล้ๆ เขาตะเกียบ ทิวทัศน์หาดทรายและทะเลสวยงามอย่าบอกใครเชียว ผมกับพรรคพวกร่วมทุนกันสร้างมาได้เกือบสิบปีแล้ว
มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นี่ จะเรียกว่าสารพัดรสชาติก็ได้ครับ
ทั้งดารามาตบตีกันหัวร้างข้างแตก และพวกเราช่วยกันปิดข่าวไม่ให้รั่วไหลไปถึงสื่อต่างๆ ทั้งคู่รักมาขอจัดแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกก็มีมากมายสิบกว่าคู่แล้ว นิตยสารผู้ชายมาขอถ่ายภาพชุดนางแบบเซ็กซี่ ทั้งแบบแปะบนนิดปิดล่างหน่อย จนถึงล่อนจ้อนในชุดวันเกิดที่ริมสระน้ำ เล่นเอาฝรั่งฮือฮากันไม่เสร็จ
เรื่องราวน่าประทับใจมีอยู่ตลอด มันเป็นความสวยสดงดงามในความทรงจำ
แต่อีกด้านหนึ่ง น้อยคนนักที่จะทราบว่า ณ สถานที่ตากอากาศแห่งนี้มีเงามรณะทาบทับอยู่ด้วยอย่างเงียบเชียบ!
ราว 3-4 ปีที่แล้ว มีคุณป้าท่านหนึ่งวัยเกือบ 70 ปี มาเที่ยวกับลูกหลานอย่างมีความสุข ทว่าในคืนที่สามของการมาพักผ่อน ท่านหกล้มในห้องน้ำ ศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง และสิ้นใจตายแทบจะทันที
เราที่เป็นเจ้าของรีสอร์ต และญาติๆ คุณป้าทำบุญในห้อง 110 ที่คุณป้าตาย!
สามเดือนต่อมา หลานชายของผมพาเพื่อนมาพักในห้องนี้แหละครับ หลานซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่เรื่องคุณป้าเลย มาเล่าให้ผมฟังตอนดึกมีคุณป้าสูงอายุออกมาจากห้องน้ำ ท่ามกลางความมืดสลัว เหลียวซ้ายแลขวา แล้วเดินวนไปมา พลางบ่นพึมพำว่าหาทางออกไม่เจอ
หลานบอกว่าตกตะลึงกันไปหมด จนกระทั่งคุณป้าเดินหายลับไปทางห้องน้ำตามเดิม
พวกผมทำบุญกันอีก และบอกให้ญาติๆ มาทำพิธีเชิญวิญญาณท่านไป เราทำทุกอย่างจนคิดว่าท่านไปสู่สุคติเรียบร้อยแล้ว!
ทว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เอง แขกที่มาพักในห้อง 110 มาร้องทุกข์ว่าถูกผีหลอก เป็นคุณป้าแก่ๆ เดินหัวโชกเลือดออกมาจากห้องน้ำ และพยายามหาทางออกจากห้อง วนเวียนอยู่เกือบทั้งคืน
เอาละซี! คนตายที่ไหนวิญญาณต้องอยู่ที่นั่นจริงๆ หรือครับเนี่ย?!
ความตายอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดในรีสอร์ตนี้ก็คือ เด็กวัย 4 ขวบ ลูกชายของพนักงานเราคนหนึ่ง จู่ๆ ก็กระโดดจ๋อมลงไปในสระว่ายน้ำ แล้วก็จมน้ำตายอย่างน่าสงสารที่สุด
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีกลายนี้เองครับ!
เรานิมนต์พระมาทำพิธีส่งวิญญาณ แต่ก็ยังมีคนเห็นเด็กน้อยมากระโดดน้ำตูมๆ อยู่บ่อยครั้ง ร้อนถึงเราต้องทำบุญอีก เรื่องจึงค่อยซาๆ ไป จนเราคิดว่าหนูน้อยคงไปสู่สุคติแล้ว
แต่เมื่อเดือนก่อน เพื่อนผมพาลูกๆ วัย 7 ขวบ กับ 4 ขวบมาเที่ยวอยู่หลายวัน จนถึงวันกลับถึงได้เกิดเรื่องน่าขนหัวลุกขึ้นมา
พ่อแม่กำลังเก็บของขึ้นรถกันง่วน กว่าจะรู้ตัวก็ปรากฏว่าไอ้ 4 ขวบมันหายไป!
ใจหายวาบทั้งคู่ เมฆครึ้มเต็มฟ้าจนไม่เห็นแสงแดด ทะเลกำลังปั่นป่วนครึกโครมตามฤดูกาล ลมพัดแรงจัดคล้ายจะเกิดพายุ...โน่น! มันไปที่สระน้ำ เดินหัวเราะร่าเชียว แล้วอยู่ดีๆ ก็โดดตูมลงไปในสระ พวกผู้ใหญ่ตกใจกันแทบแย่ เด็กตัวนิดเดียวจมบุ๋งๆ ลงก้นสระ เขาต้องลงไปช่วยอุ้มแกขึ้นมา
เด็กน้อยลูกของเพื่อนผม เล่าอย่างไร้เดียงสาว่ามีเพื่อนเด็กคนหนึ่งชวนให้มาโดดน้ำเล่นด้วยกัน!
"เขานุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว ใส่เสื้อสีฟ้า" แกบอก...แน่ละครับ นั่นเป็นชุดที่ลูกชายพนักงานของผมจมน้ำตาย!
พวกเราฟังแล้วหน้าซีดเป็นไก่ต้มทั้งนั้น โดยเฉพาะพ่อของเด็กที่ตายถึงกับตาแดงก่ำ ในที่สุดก็ยกหลังมือปาดน้ำตา หันหลังเดินจากไปทันที
เรื่องนี้หมายความว่ายังไงครับ?
วิญญาณต้องกลายเป็นผีเฝ้าสถานที่ที่ตัวตาย แล้วเมื่อไหร่จะได้ไปผุดไปเกิดซักทีล่ะ! ต้องรอจนกว่าจะหมดกรรม หรือจนกว่าจะมีคนอื่นมาเป็นตัวตายตัวแทน?
ผมฟังเรื่องราวแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในรีสอร์ตของเราแล้วขนหัวลุกจริงๆ นี่ผมจะทำอย่างไร พวกเขาถึงจะไปสู่ที่ชอบๆ กันซะทีละครับ? ขืนสิงสู่อยู่แบบนี้ กับมีมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วใครจะกล้ามาพักผ่อนที่รีสอร์ตเราล่ะครับ? บรื๋อออ....