ซอยนี้มีเจ้าพ่อ

"เจือทอง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากซอยอาถรรพณ์

ผมอยู่ที่ซอย 18 พหลโยธิน ตรงข้ามกับสวน จตุจักรมาสิบกว่าปีแล้วครับ ตั้งแต่วัยรุ่นจนเป็นหนุ่มใหญ่ มีเพื่อนฝูงมากมายเกือบทั้งซอย แม้ว่าระยะหลังๆ จะมีคนพลุกพล่านขึ้นก็ตาม

คิดแล้วก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะในซอยนั้นมันเข้าออกได้หลายทางแทบไม่น่าเชื่อ

จะเข้าทางวิภาวดี ซอย 3 หรือซอย 5 ก็ได้ หรือจะเข้าทางขนส่งหมอชิตเก่าก็ได้ เข้าทางสุทธิสารซอย 15 ก็ได้อีก รถราถึงได้ขวักไขว่จอแจเกือบทั้งวันทั้งคืน

สมัยวัยรุ่นผมเที่ยวหนักหน่อย ผ่านทางไหนก็เข้าทางนั้น ต่อมาเป็นผู้ใหญ่มีภาระมากขึ้น-เที่ยวน้อยลง ก็อาศัยเข้าทางซอย 18 เป็นส่วนใหญ่ ลงรถเมล์แล้วเดินเข้าซอยบ้าง ซ้อนมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มีวินอยู่ปากซอยใกล้ๆ กับกรมขนส่งบ้าง

บอกตรงๆ ว่าตอนกลางคืนมันเปลี่ยวใจยังไงชอบกลครับ!

มีเรื่องเขย่าขวัญตั้งแต่ปากซอยไปแล้ว ทั้งรถชนคนตาย ทั้งชนกันเองจนพังยับเยินเลือดนองถนน คือรถจากหมอชิตห้อตะบึงมากับรถในซอยพุ่งออกไป...ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ต้องพูดถึง ขนาดสวมหมวกนิรภัยยังเอาไม่ค่อยอยู่ ไหนจะรถมาจากสะพานควายที่แล่นตัดเข้าซอยอีกล่ะ

ข้างบนเคยมีสะพานโค้งไปอ.ต.ก.รถมักแหกโค้งลงไปพังยับบ่อยๆ ที่สยองสุดๆ คือ รถผสมปูนพุ่งเข้าไปถล่มชั้นบนของร้านสุกี้ หัวขาดเลือดสาดกระจาย... ตายกันมาเป็นสิบๆ รายแล้ว

เฉพาะในซอยก็มีต้นโพธิ์ใหญ่สถิตอยู่ริมรั้วยาวเหยียดกรมขนส่งทางบกนั่นเอง!

ขนาดสร้างรั้วคอนกรีตหนาทึบ ตั้งแต่ปากซอยเข้าไปร้อยกว่าเมตรยังไม่กล้าโค่นต้นโพธิ์ทิ้ง เพราะคนเกี่ยวข้องเจออาถรรพณ์อกสั่นขวัญบินไปตามๆ กันจนต้องยอมแพ้...สร้างรั้วเบียดต้นโพธิ์ให้ยืนทะมึนมาถึงทุกวันนี้

ชาวบ้านแถวนั้นล้วนนับถือเจ้าพ่อโพธิ์ว่าศักดิ์สิทธิ์จริง ไม่งั้นคงจะโดนโค่นทิ้งไปแล้ว!

ตอนกลางวันต้องเดินเลาะรั้วไปมาก็คอยดูจนรถว่าง จะได้อ้อมต้นโพธิ์เดินต่อ หรือไม่ก็ข้ามถนนไปเดินหน้าร้านค้าอีกฝั่งถนน ตอนกลางคืนก็มีคนมาบนบานศาลกล่าว ขอลาภขอพรกันเป็นประจำ มีคนสมปรารถนาไม่ใช่น้อยๆ เห็นได้จากผ้าแพรสีสวยๆ ที่มาคาดโคนต้นแก้บนแพรวพราว มีทั้งเก่าแก่และใหม่เอี่ยม

ผมเคยเดินผ่านบ่อยๆ สังเกตว่ากิ่งก้านสาขาที่แผ่กว้างร่มครึ้มนั้น ยืนทะมึนเงียบเชียบ แต่จู่ๆ ก็ไหวซ่าขึ้นมาดื้อๆ จนขนลุกเกรียวไปทั้งตัว!

เล่ากันว่าตอนดึกๆ กลับบ้านเคยเห็นภาพแปลกๆ น่าขนหัวลุกที่ต้นโพธิ์หลายรายแล้ว

บางคนเล่าว่าเดินมาดีๆ ก็เห็นร่างผู้ชายในชุดขาวยืนเด่นอยู่ที่โคนต้นโพธิ์ ขนาดซดเหล้ามาจนเมาถึงกับหายเมา ต้องยกมือไหว้แล้วจ้ำอ้าวไม่เหลียวหลัง ไม่กล้าผ่านตอนดึกๆ โดยเลี่ยงไปเข้าทางสุทธิสารซอย 15

บางรายซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าซอยมา จู่ๆ ก็เห็นร่างขาวๆ นั่งห้อยขาบนกิ่งโพธิ์ เล่นเอาต้องกอดเอวคนขับเอาไว้แน่น...ขืนพลัดหล่นมีหวังตายง่ายๆ เพราะไม่มีหมวกกันน็อก

พอถึงบ้านคนขับกลับบอกว่า...ไม่ต้องกลัวหรอกพี่ พวกผมเห็นจนชินแล้ว เจ้าพ่อท่านล้อเล่นน่ะ!

รายล่าสุดเจอเข้าเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี่เองครับ

คนข้างบ้านผมชื่อคุณฉ่ำ ทำงานบริษัท ฐานะค่อนข้างดี เล่าว่าเพื่อนที่ทำงานชวนไปเที่ยวภูเก็ต บินเช้าวันเสาร์ ค้าง 2 คืนแล้วบินกลับ จองตั๋วกับโรงแรมเรียบร้อย คณะนี้ยกครอบครัวไปเที่ยวรวมแล้วราว 20 คน มีโปรแกรมเที่ยวเกาะ ดำน้ำดูวิวใต้ทะเล หม่ำซีฟู้ด...น่าอิจฉาชะมัด

แต่แล้วก็เกิดเรื่องน่าขนหัวลุกเสียก่อน!

คืนวันศุกร์ ทางบริษัทจัดเลี้ยงคริสต์มาสล่วงหน้าที่สีลม แล้วชวนกันมากินข้าวต้มต่อที่ร้านดังย่านหลังสวน... ต่างคนต่างพูดกันว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปดอนเมืองบ้าง กลัวตำรวจจับตรวจแอลกอฮอล์บ้าง...แต่เอาจริงเข้าก็ติดลมจนเกือบถึงสองยาม กว่าจะแยกย้ายกันกลับบ้าน

คุณฉ่ำกำลังเมาฉ่ำๆ ขับรถผ่านสะพานควาย หักเข้าเลนขวาเพื่อเลี้ยวเข้าซอย 18 พลางนึกโล่งใจว่าคืนนี้ปลอดโปร่งดีที่ไม่เจอด่านตรวจ เห็นทางโล่งๆ ไฟสว่างก็ขับเข้าซอยอย่างสบายใจ...

ทันใดนั้นเอง แมวดำตัวหนึ่งก็เผ่นแผล็วจากต้นโพธิ์ใหญ่มาเกาะกระจกหน้ารถ เล่นเอาคุณฉ่ำร้องเฮ้ย! สุดเสียงด้วยอารามตกใจสุดขีด เหยียบเบรกกะทันหันอย่างลืมตัว

รถเสียหลักหมุนคว้าง ฟาดกำแพงรั้วโครมใหญ่ คุณฉ่ำยกมือป้องหน้า ตาเหลือกลาน ดิ้นขลุกขลักอยู่ในรถ ชาไปทั้งตัวจนไม่รู้สึกเจ็บปวด...ประคองกายขับรถกลับถึงบ้านได้สำเร็จ

รุ่งขึ้นเจ็บระบมไปทั้งตัว ต้องโทร.บอกเพื่อนๆ ว่าไปไหนไม่ไหว ต้องรีบไปหาหมอ

คืนนั้นเอง มีผ้าแพรสีเหลืองใหม่เอี่ยมพันอยู่ที่โคนโพธิ์ ผมไม่ต้องถามก็รู้ดีว่าเป็นเครื่องบูชาจากใคร จริงไหมครับ?

ซอยนี้มีเจ้าพ่อ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์