วันที่ 30 ม.ค.59
เราออกเดินทางโดยขับรถไปเองจากจังหวัดอุบลฯ เดินทางไปเมืองปากเซ ซึ่งเริ่มแรกผมกับแฟนเล็งไว้โรงแรมระดับ5ดาวประจำเมือง แต่เพื่อนผมเขาบอกนอนแค่คืนเดียว ขอราคาถูกๆ เพราะวันถัดไปจะไปเที่ยวต่อแล้วเดินทางกลับอุบลฯเลย เราจึงได้โรงแรมนึงซึ่งใกล้ๆกับโรงแรม5ดาวที่จะจอง เป็นโรงแรม3ชั้น ติดถนน ซึ่งในระแวกนั้นจะมีหลายๆโรงแรมอยู่ใกล้ๆ ริมน้ำโขง(ใกล้ๆตลาดดาวเรือง) ใบ้แค่นี้ล่ะกัน ซืงผมกับแฟนจอดรถและเดินลงไปถามว่ามีห้องว่างไหม เขาก็บอกว่าจะเอากี่ห้อง ผมตอบเขาไปว่า '2ห้อง' ซึ่พนักงานมีผู้หญิงมองหน้ากันและคอบผมว่า "มี" ราคา "500 บาทไทย เอา2ห้อง 1000บาท" ผมจึงจ่ายเงินไปเรียบร้อยและเอารถไปจอด เราทุกคนนำกระเป๋ากำลังขึ้นห้อง ซึ่งเราได้ห้อง "301 กับ 302" แฟนผมจึงถามผมว่าจะเอาห้องไหนดี ผมว่าเอาห้องไหนก็ได้ ซึ่งระหว่างที่เดินไปที่ชั้น3 "เกร๊งงงง" เสียงกุญแจในมือแฟนผมหล่น ซึ่งอันที่หล่นคือห้อง 302 แฟนผมเอะใจ ด้วยความคิดอะไรไม่รู้ แฟนจึงบอกผมว่า "งั้นเรานอน 301 ล่ะกัน" เพื่อนผมกับแฟนเขาจึงได้302ไป
เดินเข้าไปในห้องดูสะอาดดี มีทีวี ตู้เย็น(ห้องเพื่อนผมไม่มี) เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ ครบครันในราคาห้าร้อยบาท อ่อ ลืมบอกไป เราสองห้องได้ตรงหน้าระเบียงโรงแรม ซึ่งเปิดกระจกออกไปจะเห็นโรงแรมฝั่งตรงข้าม สวยงามมาก ซึ่งสองห้องนี้ประตูห้องจะหันหน้าชนกัน เก็บของเสร็จเราทั้งหมดก็ออกไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจนเย็น แล้วก็ออกไปทานข้าวกันริมโขงจนถึงเวลา2ทุ่มโดยประมาณ ซึ่งปากเซจะเริ่มเงียบแล้ว เราจึงขับรถกลับที่พัก จอดรถเสร็จ เดินขึ้นห้องแยกย่ายกับเพื่อน "พรุ่งนี้เจอกันไม่เกิน8โมงเช้านะ" เสียงแฟนบอกกับเพื่อน เข้าห้องมาก็มานั่งอัปรูปลงเฟซ (ที่นี่มีไวไฟด้วย อิอิ ดีเนอะ) ผบัดกันไปอาบน้ำกับแฟนและลูก จนผมอาบคนสุดท้าย แฟนบอกปวดหัวจึงกินยาแล้วนอนหลับก่อน ปล่อยให้ผมกับลูกอยู่กันตามลำพัง(ซ่ะที่ไหน) ต่างคนก็มือถือคนละเครื่อง จนเวลา3ทุ่มโดยประมาณ ผมจึงบอกให้ลูกนอน ส่วนผมก็ดูทีวี เล่นเฟซจน4ทุ่มก็หลับไปโดยที่ทีวีกับไฟหน้าห้องน้ำเปิดไว้
เวลา 00.05 น.
ผมโดนเขย่าตัวอย่างแรงจากแฟนผม กว่าผมจะลืมตาได้ก็นาน(แฟนบอก) ซึ่งตอนตื่นมาผมได้ยินเสียงลูกบิดประตูห้องเรามันสั่น "แก๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ" มันสั่นดังมาก ซึ่งในห้องจะมีกลอนอีกนึง แฟนผมใส่ไว้ก่อนนอน เสียงลูกบิดประตูดังมาก เหมือนโดนสั่นมาจากภายนอก มันเขย่านานและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แฟนกระซิบบอกผมว่า "ตัวเองไปส่องดูดิ" ในใจผมคิดอยู่2ทาง ไม่โจรก็ผี แต่โจรนี่เริ่มไม่มาในใจล่ะ เพราะสั่นอยู่10นาทีได้ ถ้าไปส่องไม่เจอใคร ผมนี่ช๊อคกว่าเดิมแน่ จนผมส่งเสียง"แอ่ แอ้มมม" เหมือนสเลดติดคอ "เงียบ" มันเงียบไปสักพัก 5-6 วินาทีต่อมา "แกร๊กกกกก ๆ ๆ ๆ ๆ " ดังกว่าเดิมอีกครับ เหมือนจะพังประตูเข้ามาเลย ซึ่งถ้าไม่มีกลอน ผมว่าเปิดได้แน่ๆ ดังติดต่อกันรวมๆเกือบครึ่ง ชม. ผลสุดท้ายผมเอาหูไปฟังใกล้ๆประตู ตามองไปที่ลูกบิด ใครเคยดูหนังผีที่เห็นฉากนี้จะรับรู้ได้ทันที มันสั่นไปทั้งประตูแล้ว แฟนกับผมนั่งมองหน้ากันแล้วบอกคืนนี้คงไม่ได้นอนแน่ๆ แฟนบอกผมว่า"ตัวเองไปวางรองเท้าหันหัวกลับกันดู แบบหยิน-หยาง พอผมวางรองเท้าปุ๊บ เงียบบบบ เสียงหายไปเลยครับ ผมกับแฟนเลยเปิดเน็ตส่งข้อความถึงเพื่อนที่นอนห้องตรงข้ามกันว่าได้มาเขย่ารึป่าว ไม่ตอบ คงกลับไปหมดแล้ว โทรหาก็ไม่ได้เพราะเราอยู่ในลาว หมดหนทางครับ จะเปิดไปดูก็ไม่กล้าล่ะครับ ตี1กว่าแล้ว ผมกับแฟนจะนั่งกันจนกว่าจะเช้า แล้วรอเช๊คเอ้าท์ออกเลย แล้วแฟนผมก็หลับไปก่อน ปล่อยให้ผมกับทีวีอยู่กันสองต่อสอง แหม โรแมนติก จนตี3 กว่าผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นเช้ามา เพื่อนส่งข้อความกลับมาว่ามีอะไร ผมบอกจะเล่าให้ฟังในรถ เราจึงเช็คเอ้าท์ออกทันที ระหว่างในรถจึงเล่าให้เพื่อน เพื่อนบอกว่าเขากับแฟนหลับกันตั้งแต่4ทุ่ม ไม่รู้เรื่องเลย กำ นี่ผมกับแฟนโดนผีหลอกเกือบชั่วโมง ไม่มีใครรู้เลยหรอ เสียงดังไปทั้งชั้นก็ว่าได้ สรุปกับเพื่อนว่า ถ้าเป็นโจรคงแค่หมุนๆประตูว่าล็อคไหม แล้วล๊อคคงเดินไปแล้ว แต่นี่สั่นอยู่เกือบชั่วโมง หรือว่า...... ตอนเช๊คอินแล้ว พนง.มองหน้ากันคือ เหลือห้องพักห้องเดียวแต่อีกห้องคือ"ห้องพิเศษ" ซึ่งแฟนผมทำกุญแจ302หล่น มันคือสัญญาณบอกว่าห้องนั้นคือปลอดภัย แต่แฟนคิดว่าที่หล่นคือ"มี" สบายไปเพื่อนตู ตูเจอเอง 55555
เรื่องทั้งหมดเรื่องจริงแน่นอนครับ ผมพึ่งกลับถึงบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง ผมกับแฟนคงจำเรื่องนี้ตลอดไป
pantip.com