รายการ เจาะประเด็นสเปเชียล ทางช่อง7 จึงบุกลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง พบเป็น "สถานปฏิบัติธรรมรูปปั้นอาจารย์ซ่วน" ตั้งอยู่ใน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา บนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ ในความดูแลของวัดท่าลาดใต้ เจ้าอาวาสวัด เล่าว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นมรดกตกทอดจากบิดาของพระอาจารย์ซ่วน ปัญญาธโล อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าลาดใต้ พระเกจิดังเรื่องปลัดขิกเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่เนื่องจากท่านเป็นพระที่มุ่งปฏิบัติสมาธิภาวนา "กสิญสิบ" สื่อสารกับดวงวิญญาณ-ภูตผี จนทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติกิจของสงฆ์ จึงลาสิกขาบท ออกมาตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้ จากนั้นมาพระอาจารย์ซ่วนก็มุ่งมั่นปั้นรูปั้นต่างๆขึ้น เช่น กุมารทอง, นางกวัก, ตุ๊กตาเด็ก รวมถึงตัวละครในวรรณคดี เช่น นางสิบสอง, พระรถเมรี วรรณคดีที่เชื่อมโยงกับจังหวัดฉะเชิงเทราในอดีต ทั้ง อ.พนัสนิคม, อ.พนมสารคาม และ อ.สนามชัยเขต
รูปปั้นนับร้อยที่พระอาจารย์ซ่วนได้ปั้นขึ้น จะมีการลงอักขระอาคมไว้ทั้งหมด บางตัวมีส่วนผสมของชิ้นส่วนคนตาย โดยเฉพาะผิวหนังของร่างคนตายที่สักยันต์ แต่เผาไม่ไหม้ จะถูกนำมาเป็นมวลสารในการปั้น และทุกตัวจะมีช่องสำหรับนำอัฐิคนตายบรรจุไว้ด้านใน หากญาติผู้เสียชีวิตแจ้งความประสงค์อยากให้วิญญาณสถิตอยู่ในรูปปั้นเหล่านี้ พระอาจารย์ซ่วนก็จะประกอบพิธีบรรจุอัฐิให้
กระทั่งปี 2536 พระอาจารย์ซ่วนมรณภาพลง ตั้งแต่นั้น สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ก็ไร้พระสงฆ์เข้ามาจำวัด หลายครั้งที่ทางวัดให้พระสงฆ์เข้ามาฟื้นฟูสถานที่ แต่ไม่เคยมีพระรูปไหนอยู่ได้ อ้างพบเห็นสิ่งที่ชวนพิศวง ทั้งงูยักษ์เลื้อยผ่าน ได้ยินเสียงดังแปลกๆ คล้ายเสียงคนพูดคุยกัน จนสุดท้ายจำเป็นต้องปล่อยให้ทิ้งร้าง
แต่ก็มักมีคนแอบเข้ามาในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เพราะทั้งรูปปั้นและปลัดขิกขนาดใหญ่ ต่างเป็นที่จับจ้องของกลุ่มคนบูชาเครื่องรางของขลัง เคยถึงขั้นมีคนลอบนำรถเครนเข้ามา หวังยกปลัดขิกนำกลับไปบูชา แต่ก็ไม่สำเร็จ ยกเท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้น แม้จะใช้คนนับ 10 ชีวิต ที่สุดก็ต้องถอยกลับไป ล่าสุดมีชายสติไม่สมประกอบเข้ามาอาศัยหลับนอนในศาลาร้าง แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ
โดยผู้นำท้องถิ่นมองว่า รูปปั้นเหล่านี้ พระอาจารย์ซ่วนทำขึ้นด้วยจิตวิญญาณที่แฝงไปด้วยแง่คิด ควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้
การบุกพิสูจน์ช่วงกลางดึกของทีมงาน ร่วมกับเหล่าคนที่อยากรู้อยากลอง ส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นกลุ่ม ทั้งน้องๆนักเรียน นักศึกษา ชาวบ้านในพื้นที่ ตลอดทางเดินจะมีการนำป้ายข้อความ "ห้ามส่งเสียงดังและห้ามลบหลู่สิ่งที่มองไม่เห็น" พร้อมๆกับมีรูปปั้นตั้งตระหง่านเรียงราย นอกจากนี้ ยังมีพระนอนองค์ใหญ่ที่สร้างยังไม่แล้วเสร็จ ภายในองค์พระนอนมีพระพุทธรูปจำนวนมากอยู่ภายใน โดยไม่มีใครสามารถเข้าไปด้านในได้
เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปพิสูจน์ความลี้ลับ โดยเดินรอบถึง 3 ครั้ง อ้างว่ารูปปั้น 3 ตัวที่วางอยู่บนแท่นปูน จู่ๆก็สามารถเคลื่อนไหวได้ เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบร่องรอยลากใบไม้ใบหญ้าออกเป็นทางยาว ยืนยันว่าไม่มีใครในทีมยก หรือเคลื่อนย้ายแน่นอน จึงเชื่อว่าดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับน่าจะยังสิงสถิตอยู่ในรูปปั้น
ด้านผู้นำท้องถิ่น เตรียมหารือในชุมชน เพื่อพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เป็นอีก 1 แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาความเป็นมาของสำนักสงฆ์ดังกล่าว เพราะเชื่อว่าเจตนารมณ์ของพระอาจารย์ซ่วน ใช้จิตวิญญาณในการปั้นหุ่นเหล่านี้ขึ้นมา ล้วนแฝงไปด้วยแง่คิด ที่สื่อให้เห็นเรื่องราวในอดีตจนถึงปัจจุบัน หากปรับปรุงสถานที่ให้ดี เชื่อว่าน่าจะมีคนสนใจเข้ามาศึกษาจำนวนมาก
ต้องย้ำว่าเรื่องนี้ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม และเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่หากจะมีการพัฒนาสถานที่รกร้างแห่งนี้ให้กลับมาสวยงาม ตัดหญ้าที่รกออก ทำทางเดินให้สะดวกกว่าที่เป็นอยู่ เชื่อว่าจะเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่น่าศึกษาเรียนรู้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชอบท้าพิสูจน์สิ่งลี้ลับ!