มีเมียเป็นผี...

เรื่องนี้ผู้เขียนได้รับฟังมาจากแม่ ซึ่งเคยเล่าให้ฟังนานแล้ว..แม่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยที่ท่านยังเป็นเด็ก เเละผู้เขียนก็เชื่อเหลือเกินว่าเป็นเรื่องจริง เพราะแม่เป็นคนที่ไม่เชืรอเรื่องงมงายในเรื่องที่อยู่นอกเหมือการพิสูจน์ และที่สำคัณก็คือ แม่เป็นคนไม่ชอบโกหกใคร แม่ของผู้เขียนเป็นคนบ้านนอก อยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี แม่เกิดที่นั่นและเติบโตที่นั่น ซึ่งเรื่องที่แม่เล่าให้ผู้เขียนฟัง จึงเกิดยึ้นที่นั่นในหมู่บ้านที่แม่เคยอยู่ เมื่อสมัยประมาณสี่สิบปีก่อน จังหวัดปราจีนบุรีเป็นจังหวัดที่ไม่มีความเจริญให้เห็นเลยแม้แต่น้อย หมู่บ้านที่แม่อยู่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่แสนจะทุรกันดาร แม่บอกว่าคนในสมัยนั้นมักจะทำมาหากินไม่ได้ทำมาเพื่อค้าขายเหมือนกับคนในยุคปัจจุบันนี้บ้านแต่ละหลังจะคล้ายๆ กันหมด คือมักจะปลูกพืชผักไว้ใช้ไว้กิน และพืชอย่างหนึ่งที่ชาวบ้านมักจะปลูกกันโดยทั่วไปคือต้นกล้วยและมะละกอ บ้านของ "ทิดสุข" ซึ่งปลูกอยู่ทางท้ายของหมู่บ้าน เป็นกระต๊อบหลังเล็กๆ ซึ่งปลูกด้วยไม้ไผ่และมุงหลังคาด้วยจาก ปลูกท่ามกลางดงกล้วยตานี และบ้านทั้งหลังมีเพียงทิดสุขอยู่เพียงลำพังคนเดียวเท่านั้น เพราะแกเองได้แยกตัวเองออกมาจากครอบครัวได้หลายปีแล้ว ทิดสุขเป็นคนโสด ไม่มีเมียหรือเคยแต่งงานมากก่อน แกใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และด้วยเหตุนี้ทิดสุขจึงเป็นบุคคบที่ไม่ค่อยมีใครสนใจนัก

มีเมียเป็นผี...

จนกระทั่งเรื่องแปลกประหลาดได้เกิดขึ้น ให้ใครต่อใครได้เห็นจนเป็นที่ร่ำลือกันไปทั้งหมู่บ้าน นั่นก็คือจู่ๆทิดสุขก็มีผู้หญิงมาอยู่ด้วย ที่กระทีอมหลังเล็กๆของแก คนที่เห็นเมียของทิดสุขคนแรกก็คือ "ตามั่น" ซึ่งเป็นตาของผู้เขียน โดยมีศักดิ์เป็นน้องของตาแท้ๆ และเป็นอาของแม่ผู้เขียน วันหนึ่ง ตามั่นแกออกไปหากบที่ทุ่งนาจนกระทั่งตกดึกของคืนนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ตามั่นแกไม่รู้จะไปหาที่หลบฝนที่ไหน จึงได้วิ่งไปยังกระท่อมของทิดสุขซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด หวังจะอาศัยชายคาเป็นที่หลบฝนที่กำลังเทลงมาอย่างหนักในขณะนั้น ตามั่นวิ่งไปถึงกระท่อมของทิดสุข แกพ็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีรูปร่างน่าตาสวยงามมาก กำลังจะเดินเข้าไปในกระท่อมของทิดสุขพอดี เมื่อเห็นดังนั้น ตามั่นจึงไม่กล้าเข้าไปอาศัยทิดสุขหลบฝน ได้แต่อาศัยหลบอยู่ใต้ชายคาข้างๆ กระท่อมนั้น จึงทำให้ได้รู้ว่าทิดสุขและหญิงสาวสวยคนนั้น มีพฤติกรรมที่เหมือนคนเป็นผัวเมียกันมานาน ทั้งคู่อยู่กินกันเหมือนกับผัวเมียที่รวมชีวิตกันมานานแล้ว นอนอยู่ในมุ้งเดียวกัน และมีความสัมพันธ์กันฉันสามี-ภรรยาโดยทั่วไป แต่สิ่งที่ตามั่นสงสัยมากก็คือ ทำไมแกไม่เคยเห็นหญิงสาวคนนนี้มาก่อนเลย


เมื่อได้มีโอกาสพบกับทิศสุขอีกครั้งหนึ่ง เเกจึงถามเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิงคนนั้น คนที่แกเห็นว่าเย้าไปหลับนอนอยู่กับทิดสุขว่าเป็นใครมาจากไหน แล้บทำไมทิดสุขถึงต้องปิดบังเรื่องนี้ เรื่องที่แกมีเมียโดยไม่ยอมบอกให้ใครได้รับรู้ แต่ตามั่นก็ไม่ได้รับคำตอบจากทิดสุขเลยแม้แต่คำเดียวแถมทิดสุขยังสั่งห้ามไม่ให้ตามั่นเล่าเรื่องราวที่เห็นให้ใครฟังโดยเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อจะต้องโดนดี ต่อมาหลังจากนั้นประมาณไม่กี่วัน ตามั่นก็อดเก็บเรื่องราวที่ได้เห็นมาไวัเป็นความลับอีกต่อไปไม่ได้ วันนึงขณะที่แกนั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ แกก็เผลอหลุดปากเรื่องที่แกได้ไปเห็นมา ให้กับบรรดาเพื่อนๆ ในวงเหล้าได้ฟังกันข่าวลือเรื่องทิดสุขแอบไปมีเมีย โดยไม่ยอมให้ชาวบ้านรับรู้จึงกระฉ่อนไปทั้งหมู่บ้าน ใครๆได้เจอทิดสุขก็มักจะถามักี่ยวกับเรื่องนี้ จนทิดสุขเกิดความโกรธและแสดงอาการไม่พอใจให้เห็นอย่างรุนแรง จากนั้นไม่นานนัก ตามั่นก็ล้มป่วย โดยมีอาการคุ้มดีคุ้มร้าย แสดงอาการหวาดกลัวออกมาเหมือนกำลังมีใครบางคนหรืออะไรบางอย่างคะกคามอย่างหนัก เมื่อสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ได้แต่ร้องโอดโอย คล้ายกับกำลังถูกทรมานอย่างหนัก

ต่อมาอีก3เดือนหลังจากที่ตามั่นล้มป่วยกลายเป็นคนเสียสติโดยไม่มีสาเหตุ พาไปรักษาตามโรงพยาบาลไหนก็ไม่หาย ก็ได้มีชาวบ้านคนหนึ่ง ได้เห็นหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง หญิงสาวสวยที่แอบไปอยู่กินฉันสามี-ภรรยากับทิดสุขคนนั้น ที่กระท้อมหลังเล็กกลางดงกล้วยตานี ในคืนนึงโดยบังเอิญ คราวนี้คนที่เห็นได้มาเล่าเรื้องราวระหว่างหญิงสาวกับทิดสุข ซึ่งมีพฤติกรรมต่อกันเหมือนกับคนที่เป็นผัวเมียกันมานาน ให้ใครต่อใครในหมู่บ้านฟังว้า เขาได้เห็นหญิงสาวคนนั้น เดินออกจากต้นกล้วยตานีต้นหนึ่ง เเล้วเดินเข้าไปในกระท้อมของทิดสุข ซึ่งเหตุนี้เอง ทำให้คนให้คนในหมู่บ้านเชื่อกันว่าทิดสุขมีเมียเป็นผี แบ้วเรื่องก็ลือกระฉ่อนไปทั่วหมู่บ้านและละแวกไกล้เคียง หลังจากชาวบ้านคนที่ไปเห็นหญิงสาวเดินออกจากต้นกล้วยตานี นำเรื่องผีสาวนางตานีมาโพนทะนาให้ชาวบ้านล่ำลือได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แกก็ล้มป่วยและตายไปอย่างไม่มีสาเหตุ โดยสภาพศพไม่มีอะไรผิดสังเกตุนอกจากดวงตาที่เหลือกลาน เหมือนกับได้พบสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก่อนที่จะสิ้นในตายไป ชาวบ้านในระแวกนั้นต่างล่ำลือกันว่าการตายของชายคนนั้นเกิดขึ้นัพราะฤทธิ์เดชของผีนางตานีที่ออกอาละวาดเอาชีวิต ในโทษฐานที่นำเรื่องอันเป็นความลัยมาไขในที่แจ้ง ทุกคนคิดอย่างนั้นเรื่อยมาจนไม่มีใครกล้ากล้ำกรายเข้าไปไกล้ๆกับกระท่อมของทิดสุข ซึ่งปลูกอยู่ในดงกล้วยตานีนั้น



ทุกคนต่างเชื่อว่าเป็นความเฮี้ยนของผีนางตานีที่อาฆาตแค้นผู้คนที่ทำตัวเป็นมารความสุขของตนเอง แต่แล้ววันหนึ่งความจริงบางอย่างก็ปรากฎขึ้น หลังจากข่าวเรื่องทิดสุขอยู่กินกับผีสาวนางตานีดังกระฉ่อนไปได้ประมาน6เดือน ทิดสุขก็ล้มป่วยและตายตามไปอีกคนหนึ่ง ภายในกระท่อมกล้วยตานีแห่งนั้น เมื่อชาวบ้านรู้ข่าว จึงได้ช่วยกันนำศพของทิดสุขออกมาจากกระท่อมของแก และนั่นเป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านทุกคนได้เห็นว่า ภายในกระท่อมกลางดงกล้วยตรนีหลังนั้นของทิดสุข เต็มไปด้วยเครื่องรางของขลังจำนวนมาก ทุกคนเพิ่งตระนักรู้กันในคราวนั้นว่า แท้จริงแล้วทิดสุจเป็นคนที่ล่ำเรียนเกี่ยวกับคาถาอาคมเวทมนต์ดำ ซึ่งคาดว่าน่าจะไปเรียนมาจากฝั่งเขมรแกไม่ใช่ชาวบ้านคนธรรมดาๆอย่างที่ทุกคนคาดคิด
การณ์ตายของชายที่เห็นเหตุการณ์ตอนนางตานีออกมาจากต้นกล้วย รวมถึงอาการคุ้มดีคุมร้ายของตามั่นนั้นไม่ได้เป็นเพราะถูกผีสาวนางตานีเล่นงานเอาอย่างที่ทุกคนเข้าใจ หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมนต์ดำหรือคุณไสยของทิดสุข ซึ่งเป็นผู้กระทำขึ้นมาเองทั้งหมด ผีนางตานีที่ออกมาปรนนิบัติกินอยู่กับทิดสุข
ก็เพราะอำนาจไสยเวทของทิดสุขที่บีบบังคับให้เป็นไปไม่ใช่ด้วยความพิศวาสที่ผีมีต่อคนอย่างที่ทุกคนเข้าใจแต่อย่างใด และการตายของทิดสุขนั้น คงไม่ใช่การป่วยตายธรรมดาๆ แต่อาจเป็นเพราะอำนาจมนต์ดำที่เกินการควบคุมเล่นงานเอา ดังที่ว่า"หมองูตายเพราะงู" นั่นเอง


ที่มา peepeestory


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์