คดีดังสุดหลอน!! กิ่งแก้ว นักโทษประหารหญิง ถูกยิง ๑๕ นัดถึงตาย กลายเป็นวิญญาณเฮี้ยนเฝ้าเรือนจำ!

กิ่งแก้ว เธอชื่อเต็มๆว่า นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน เป็นชาว จ.นครราชสีมา เข้ามาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในกรุงเทพ เธอได้รับความไว้วางใจกับครอบครัวหนึ่ง จึงได้จ้างเธอมาเป็นพี่เลี้ยงลูก ซึ่งเป็นเด็กชายวัย ๖ ขวบ จนกระทั่งวันนึงนางกิ่งแก้วได้ร่วมมือกับโจรผู้ชาย ๒คน จับเด็กชายที่เลี้ยงอยู่ไปเรียกเงินค่าไถ่จากพ่อแม่เด็ก

โดยตามแผนการนั้นพ่อแม่เด็กจะต้องโยนเงินลงจากรถไฟตามจุดที่กำหนด ที่นี้ก็เกิดปัญหาขึ้นเมื่อเวลาส่งมอบเงินดันเป็นตอนกลางคืน ผู้ปกครองเด็กมองไม่เห็น จังหวะโยนเงินเรียกค่าไถ่จึงผิดพลาด ส่งผลพวกโจรโกรธแค้นและแทงเด็กตายในที่สุดเพื่อปิดปาก

แม้ว่าขณะนั้น นางกิ่งแก้ว จะพยายามห้ามพวกโจรไม่ให้ทำร้ายเด็ก แต่สุดท้ายเด็กตายและได้นำศพไปฝังก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี (จากการชันสูตรศพ พบว่ามีเศษดินในปอดแสดงให้เห็นว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่หลังฝังศพ) ด้วยการกระทำของเธอ นางกิ่งแก้ว จึงถูกจับและถูกตัดสินประหารชีวิต ในเวลานั้นสภาพจิตใจนางกิ่งแก้วย่ำแย่มาก (เคยพยายามฆ่าตัวตายเพื่อหนีโทษประหาร) เธอได้ยืนยันความบริสุทธิ์ของเธอในคดีว่า "ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าเด็ก" เธอขอร้อง "ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน ฉันไม่ได้ฆ่าเขา" เธอพูดซ้ำซากแบบนี้ตลอดเวลา แต่หมดสิ้นความหวัง
เมื่อถึงวันประหาร เธอก็ถูกส่งไปยังเวทีประหาร เธอถูกประหารด้วยการยิงเป้า กระสุนนัดแรกที่พุ่งออกไปถึงตัวเธอ สร้างความประหลาดใจให้กับเพชรฆาตอย่างมาก เพราะภาพที่เห็นคือ เธออ้าปากหายใจ ไม่เสียชีวิตในทันที จนยิงนัดที่ ๒ ๓ ๔ เธอก็ยังหายใจและมีชิวิตอยู่ แม้เลือดจะออกมามากมายก็ตาม เธอถูกยิงกระสุนอีก ๑๕ นัดจึงเสียชีวิตในที่สุด
มีงานเขียนของพัสดีท่านหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เขียนว่า "จนเมื่อถึงวันประหาร ขณะที่นางกิ่งแก้วโดนคุมตัวไปยังแดนประหาร นางพร่ำเพ้ออยู่ตลอดว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด เมื่อเข้าสู่หลักประหาร เพชรฆาตก็เตรียมตัวลั่นไกไปที่หัวใจของนางกิ่งแก้ว เสียงปืนชุดแรกดังขึ้น กระสุนพุ่งสู่ร่างนางกิ่งแก้ว จากนั้นเลือดก็สาดพร้อมกับเสียงโหยหวนของนางกิ่งแก้วว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด เพชรฆาตตกใจมากที่นางกิ่งแก้วยังไม่ตาย จึงยิงใส่อีกชุดนึงเพื่อที่จะให้นางกิ่งแก้วพ้นทุกข์โดยเร็ว ปรากฎว่า....
นางกิ่งแก้วก็ยังไม่หมดลมหายใจและยังตะโกนโหยหวนด้วยความทรมานว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ทางพัสดีและหมอประจำเรือนจำจึงรีบเข้าไปตรวจสอบที่ร่างนางกิ่งแก้วอีกครั้ง และผลปรากฏว่านางมีหัวใจอยู่ด้านขวา ทางพัสดีจึงต้องวัดเป้าอีกครั้งและทำการประหารใหม่ และคราวนี้นางกิ่งแก้วได้พ้นทุกข์เแล้วสียที พร้อมกับพูดสุดท้ายว่า ฉันไม่ผิด"

มีเรื่องเล่าว่าหลังจากที่นำศพของเธอมาไว้ห้องเก็บศพ ยังคงมีคนได้ยินเสียง "ฉัน ไม่ ผิด" ดังจากในห้องซ้ำแบบนี้ตลอดเวลา และทุกวันนี้ยังมีผู้พบเห็นเธอเป็นผีวนเวียนปรากฏให้เห็นที่เรือนจำบางขวาง เรื่องราวของเธอเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับมองว่า หรือจริงๆ แล้วเธออาจเป็นแพะ ไม่ได้ทำความผิดจริง จึงวนเวียนเพื่อรอเปิดเผยบางอย่าง!!

ทั้งนี้ได้มีคนตั้งกระทู้ไขข้อข้องใจคดีกิ่งแก้ว ถูกประหารชีวิต จากผู้อยู่ในเหตุการณ์จริง โดยได้เปิดเผยว่า " เห็นแชร์กันเยอะมากว่ากิ่งแก้วไม่ผิด เพราะกิ่งแก้วไม่ได้เป็นคนฆ่า "
ขอบอกว่าบางกระแสข่าวและข้อมูลที่ผมได้มานั้น กิ่งแก้วเป็นผู้แทงเด็กตอนหลับอยู่ที่ตักตนเอง บางข่าวก็ว่าไม่ใช่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กิ่งแก้วจะเป็นผู้ลงมือฆ่าเด็กหรือไม่ก็ตาม แต่การร่วมสมคบกันก่อคดีขึ้นมา โทษทุกคนจึงเท่ากัน
ดังนั้นการประหารกิ่งแก้วจึงไม่ใช่การประหารผู้บริสุทธิ์ เพราะกิ่งแก้วเป็นตัวต้นเรื่องที่อุ้มเด็กที่ตนเลี้ยงไปให้พรรคพวกเรียกค่า ไถ่ ถ้าคดีเกิดสมัยนี้ก็คงมีคนออกมาเรียกร้องให้ประหารเช่นกัน แต่นี่เป็นคดีในอดีตก็เลยออกมาลงข้อมูลที่ผิดพลาด บิดเบือนประวัติศาสตร์ ให้กิ่งแก้วเป็นผู้บริสุทธิ์ไปซะงั้น

แถมด้วยเรื่องผีสางที่เที่ยวหลอกหลอนคนไปทั่วทั้งในคุกและนอกคุก ซึ่งในความเป็นจริงไม่เคยมีผู้คุมคนไหนหรือชาวบ้านคนไหนเจอผีกิ่งแก้วหลอก เลย มีแต่เสียงล่ำลือเล่าขานแต่หาพยานหลักฐาน ระบุตัวคนที่โดนหลอกไม่ได้เลย
ใ นส่วนของเรื่องที่บอกว่ากิ่งแก้วโดนยิงเสร็จแล้วเอาลงจากหลัก แต่มีการผงกหัวขึ้นมาพูดบางอย่างนั้น จนเจ้าหน้าที่ต้องเอากลับขึ้นหลักเพื่อยิงซ้ำ ยอมรับเป็นเรื่องจริง แต่คำพูดที่เอาไปเขียนกันมั่วๆว่ากิ่งแก้วพูดว่า "ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด" นั้นไม่ใช่แม้แต่น้อย แต่กิ่งแก้วพูดแผ่วๆว่า "ไปหาหมอ หาหมอ" นั่นก็คือกิ่งแก้วขอให้พาไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลนั่นเอง
ที่สำคัญ มีการกล่าวหาผู้คุมที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยง จับกิ่งแก้วพลิกไปมาเพื่อให้เลือดออกมากๆ จะได้ตายไวไว แถมพยายามบีบคอให้กิ่งแก้วหายใจไม่ออก จะได้ขาดอากาศหายใจตายไป

ขอให้ทราบกันไว้ด้วย การประหารชีวิตนั้น มีสักขีพยานด้วยกันหลายฝ่าย มีการกำหนดหน้าที่ของทีมประหารแต่ละคนชัดเจน และต้องประหารด้วยวิธีการที่กฎหมายกำหนดด้วย
นั่นก็คือ การประหารชีวิต ให้นำไปประหารชีวิตให้ตาย ซึ่งด้วยปืน
ฉะนั้นจะไปประหารด้วยวิธีอื่นไม่ได้เด็ดขาด จะเอาธนูหรือหน้าไม้มายิงก็ไม่ได้ จะบีบคอ ทุบหัวเพื่อให้ตายก็ไม่ได้ แม้จะถูกสั่งให้นำไปประหารแล้วก็ตาม ใครไปประหารด้วยวิธีอื่น ก็จะโดนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาทันที
การทำหน้าที่พี่เลี้ยง จะต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่กระหายเลือดอยากจะฆ่าใครให้ตายเพื่อแก้แค้นให้สังคม พี่เลี้ยงต้องช่วยปลอบโยนจิตใจของนักโทษ และตั้งจุดให้เขาโดนยิงตายเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ทรมาน หากยิงแล้วไม่ตาย แพทย์จะเป็นผู้ตรวจแล้วบอกให้ยิงซ้ำ พี่เลี้ยงจึงจะทำการตั้งจุดยิงใหม่ หรืออาจจะให้เพชฌฆาตยิงซ้ำได้เลยถ้าร่างนั้นนิ่งอยู่กับหลักประหารแล้ว
พี่เลี้ยงจะไปเหนี่ยวไกปืนประหารแทนเพชฌฆาตก็ไม่ได้ แต่ช่วยปลดเซฟหรือส่งซองกระสุนให้กับเพชฌฆาตช่วงระหว่างการประหารได้ หากพี่เลี้ยงไปเหนี่ยวไกปืนประหาร หรือจับบีบคออย่างที่ไปเขียนกันมั่วๆ พี่เลี้ยงจะโดนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาทันที เนื่องจากมีสักขีพยานจากหลายหน่วยงานนับสิบคนอยู่ด้วย
ข้อมูลของ นญ.กิ่งแก้ว รอสูงเนิน,ลอสูงเนิน ที่ลงตามเน็ต ตามโพสต่างๆ จึงเป็นการบิดเบือนความจริงทั้งสิ้น หาความน่าเชื่อถือไม่ได้ และทำให้คนอ่านมองระบบความยุติธรรมของไทยในทางลบ มองเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ตามกฎหมายเป็นคนโหดร้าย และสร้างความเชื่องมงายในเรื่องภูตผีให้กับคนที่เข้าไปอ่านบางคนอีกด้วย
ระหว่างคนที่เขียนจากการฟังคนนั้นเล่ามานิด คนนี้เล่ามาหน่อย แล้วเอามาเป็นข้อมูลเขียนโดยไม่เคยมีประสบการณ์ด้านเรือนจำ หรือเคยสัมผัสพูดคุยกับคนที่ร่วมในการประหารมาก่อนเลย กับ คนที่เป็นผู้คุม ที่มีหน้าที่พิเศษเป็นพี่เลี้ยงในการประหารนักโทษ ได้คุยกับคนที่อยู่ในวันประหารกิ่งแก้ว และรู้ขั้นตอน วิธีการ ข้อบังคับ และข้อกฎหมายในการประหารชีวิตดี
พวกคุณจะเชื่อใครครับ..!!!
หมายเหตุ...เนื้อข่าวที่ระบุว่านางลำใยเป็นผู้จ้างบุญเพ็ง หีบเหล็ก ฆ่าคนนั้น เป็นข้อมูลที่ผิดพลาดของนักข่าว เพราะ นญ.ใย สนธิบำรุง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีบุญเพ็งเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นคดีจ้างวานให้คนอื่นปล้นฆ่าที่นครชัยศรี จึงถูกตัดสินให้ประหารชีวิต และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกยิงเป้า