เวรกรรม – เรื่องเล่าเขย่าขวัญ
เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของคุณวี อยากฝากไว้ให้เป็นแง่คิดเตือนใจเพราะเป็นเรื่องของการทำบาป เพราะคุณวีต้องการให้ผู้ที่คิดจะทำผิดเปลี่ยนใจหันมาเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง เรื่องสยองนี้ทำให้คุณวีเชื่อแล้วว่า บาปกรรมนั้นมีจริง
ย้อนกลับไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว คุณวีศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รู้จักกับเพื่อนชาวไทยที่ศึกษาในสถาบันเดียวกันหลายคน และคุณวีก็ได้รู้จักกับคุณแอน (นามสมมติ) เจ้าของเรื่องที่คุณวีกำลังจะเล่าให้ฟังต่อจากนี้...
หลังจากที่แอนเรียนจบ ก็เดินทางกลับมาประเทศไทย ส่วนตัวคุณวียังคงอยู่ต่อที่อเมริกา ระหว่างที่คุณวีอยู่ที่อเมริกาก็ได้ยินข่าวของแอนจากเพื่อนๆ คนอื่น ว่าแอนได้เข้าทำงานและก็พบรักกับลูกชายเจ้าของบริษัทที่แอนทำงานอยู่ เวลาล่วงผ่านไปประมาณ 2 ปี คุณวีก็ได้รับข่าวดีอีกครั้ง ว่าแอนกำลังจะแต่งงานกับลูกชายเจ้าของบริษัทคนนั้น จึงเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อร่วมฉลองงานแต่งงานของคุณแอน
ในเวลานั้นวีรู้สึกดีใจกับแอนที่มีครอบครัวแสนสุขและเพรียบพร้อมไปด้วยเงินทอง หลังจากงานแต่งของแอน วีก็เดินทางกลับอเมริกา แล้วก็ขาดการติดต่อกับแอนไป
จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว วีตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อมาดูแลคุณพ่อคุณแม่ ก็ได้ยินข่าวของแอนอีกครั้ง ว่าเธอมีลูกสาว 2 คนและกำลังลำบากมาก บ้านกำลังจะถูกยึด รถที่มีก็ถูกยึดไปแล้วทุกคัน มีหนี้สินท่วมตัว บริษัทของสามีซึ่งเปิดมานาน 30 ปีก็ต้องปิดกิจการลงและอยู่ในฐานะล้มละลาย วีพยายามติดต่อกับแอนหลังจากทราบข่าว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เพราะว่าแอนย้ายที่อยู่ไปไหนไม่มีใครทราบ
จนเมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้ข่าวของแอนจากเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า พบเจอแอนไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาดโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ วีรู้สึกตกใจมากและเป็นห่วง จึงรีบเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อจะรอพบกับแอน เพราะต้องการจะช่วยเหลือเธอ
หลังจากที่วีเดินทางไปพบกับแอนแล้ว วีรู้สึกสงสารแอนจับใจ แอนเปลี่ยนไปมาก อาจเป็นเพราะจากการทำงานหนัก แอนผอมมาก ผิวที่เคยขาวเนียนก็ดูดำคล้ำ โทรม ไม่เหลือเค้าแอนคนเดิมอีกเลย
วันแรกที่ไปเชียงใหม่นั้น วีเดินทางไปเยี่ยมลูกสาว 2 คนของแอนที่บ้าน ซึ่งเวลาที่แอนไปทำงาน ลูกๆ ก็จะอยู่กับคุณแม่ของแอนนั่นแหละ ส่วนสามีของแอนก็นอนป่วยด้วยเป็นอัมพาตอยู่ในห้อง บ้านของแอนนั้นเป็นบ้านไม้เก่าๆ ผุๆ เหมือนกำลังจะพัง
คืนแรกที่เชียงใหม่ แอนอาสามานอนเป็นเพื่อนวีที่โรงแรม แล้วคืนนั้นก็เป็นคืนที่ความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยขึ้น ทำให้วีทราบถึงสาเหตุที่ทำให้แอนต้องมีชีวิตที่ตกต่ำถึงขนาดนี้ คืนนั้นวีต้องประสบพบเจอกับเรื่องสยองที่ติดตามตัวของแอนมาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในคืนนั้นวีกับแอนเข้านอนประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งแยกกันนอนคนละเตียง วีหลับไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ แต่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะมีเสียงร้องไห้เบาๆ มาจากเตียงของแอน เป็นเสียงร้องไห้ครวญคราง "ฮือ...ฮืออออ..ฮืออ..." วีจึงเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง แล้วก็ลุกขึ้นมามองแอน
แอนนั้นนอนหลับตาอยู่ในท่านอนหงาย แขน 2 ข้างวางข้างลำตัว มือนั้นกำหมัดแน่น วีกำลังจะเอื้อมมือไปเขย่าตัวของแอน แต่วีก็ต้องตกใจเพราะเสียงร้องไห้ของแอนนั้นเริ่มดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นเสียงร้องที่เล็กแหลม เสียงร้องที่เล็กแหลมนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ฟังดูเหมือนเสียงแมว
วีจึงรีบเขย่าตัวของแอน แต่แอนไม่รู้สึกตัวเลย ตัวเธอเองยังคงร้องเสียงเหมือนแมว แล้วจู่ๆ แอนก็หยุดร้อง ลืมตาขึ้นมา แอนค่อยๆ คลานลงจากเตียงไปบนพื้น แอนคลานวนไปมาบนพื้นห้อง แล้วจู่ๆ เธอก็หยุดคลานแล้วล้มลงไป วีตกใจมากกับภาพที่เห็น แต่ก็รีบไปเขย่าตัวแอนให้ได้สติ หลังจากที่แอนได้สติแล้ว วีก็พยุงแอนขึ้นมานั่งบนเตียง แล้วเริ่มซักถามแอนว่าเกิดอะไรขึ้น
แอนบอกว่ารู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถควบคุมอาการได้เลย แอนเริ่มเล่าให้วีฟังว่า เสียงร้องไห้ที่ได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงแมว แต่เป็นเสียงของเด็กทารก ก่อนที่แอนจะแต่งงานกับสามีนั้น แอนเคยตั้งครรภ์มาก่อน
แต่ในตอนนั้นยังไม่พร้อมจึงไปปรึกษากับสามี สรุปว่าสามีของแอนตัดสินใจให้ไปทำแท้ง หลังจากแต่งงานกันมาได้ประมาณปีหนึ่ง
เรื่องแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับแอน แอนจะเห็นเด็กเล็กๆ คลานอยู่ในบ้าน บางครั้งก็จะได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้กลางดึก พร้อมกับเสียงพูดว่า "จำกูได้ไหม..."
นับตั้งแต่วันนั้นมา กิจการของสามีก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ จนต้องปิดกิจการลง แอนเคยไปปรึกษากับพระที่เคารพอยู่รูปหนึ่งท่านบอกว่า "คนที่เคยทำแท้งไม่ว่าจะทำอะไรก็จะตกต่ำ กรรมที่ไม่สามารถแก้ได้ อย่างดีก็ทำได้แค่ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้าง...ก็เท่านั้น"
แอนก็พยายามทำบุญ บวชชี แต่อะไรๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น ส่วนสามีก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุจนเป็นอัมพาต ไม่สามารถทำงานได้ แอนจึงต้องออกหางานทำ แต่ไม่ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงานเลย จนมาได้งานแม่บ้านที่เชียงใหม่นี่แหละ
...หลังจากที่คุณวีฟังเรื่องของคุณแอนทั้งหมดแล้ว ทำให้คุณวีเชื่อในเรื่องเวรกรรมมากขึ้น เรื่องของกรรมคงไม่มีใครช่วยใครได้ และก่อนที่คุณวีจะกลับมากรุงเทพก็ได้ให้เงินก้อนหนึ่งกับคุณแอนไว้ เพื่อให้คุณแอนนำไปลงทุนค้าขาย แต่ก็ไม่ทราบว่าคุณแอนจะผ่านพ้นวิบากกรรมครั้งนี้ไปได้ไหม กรรมที่เธอและสามีเป็นผู้สร้างไว้ เรื่องทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้
ป.ล. หวังว่าเรื่องนี้คงจะช่วยเตือนสติคนที่กำลังจะทำแท้งให้เปลี่ยนใจได้บ้าง ไม่มากก็น้อย...
เครดิตแหล่งข้อมูล : klangsayong.com
ย้อนกลับไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว คุณวีศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รู้จักกับเพื่อนชาวไทยที่ศึกษาในสถาบันเดียวกันหลายคน และคุณวีก็ได้รู้จักกับคุณแอน (นามสมมติ) เจ้าของเรื่องที่คุณวีกำลังจะเล่าให้ฟังต่อจากนี้...
หลังจากที่แอนเรียนจบ ก็เดินทางกลับมาประเทศไทย ส่วนตัวคุณวียังคงอยู่ต่อที่อเมริกา ระหว่างที่คุณวีอยู่ที่อเมริกาก็ได้ยินข่าวของแอนจากเพื่อนๆ คนอื่น ว่าแอนได้เข้าทำงานและก็พบรักกับลูกชายเจ้าของบริษัทที่แอนทำงานอยู่ เวลาล่วงผ่านไปประมาณ 2 ปี คุณวีก็ได้รับข่าวดีอีกครั้ง ว่าแอนกำลังจะแต่งงานกับลูกชายเจ้าของบริษัทคนนั้น จึงเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อร่วมฉลองงานแต่งงานของคุณแอน
ในเวลานั้นวีรู้สึกดีใจกับแอนที่มีครอบครัวแสนสุขและเพรียบพร้อมไปด้วยเงินทอง หลังจากงานแต่งของแอน วีก็เดินทางกลับอเมริกา แล้วก็ขาดการติดต่อกับแอนไป
จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว วีตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อมาดูแลคุณพ่อคุณแม่ ก็ได้ยินข่าวของแอนอีกครั้ง ว่าเธอมีลูกสาว 2 คนและกำลังลำบากมาก บ้านกำลังจะถูกยึด รถที่มีก็ถูกยึดไปแล้วทุกคัน มีหนี้สินท่วมตัว บริษัทของสามีซึ่งเปิดมานาน 30 ปีก็ต้องปิดกิจการลงและอยู่ในฐานะล้มละลาย วีพยายามติดต่อกับแอนหลังจากทราบข่าว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เพราะว่าแอนย้ายที่อยู่ไปไหนไม่มีใครทราบ
จนเมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้ข่าวของแอนจากเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า พบเจอแอนไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาดโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ วีรู้สึกตกใจมากและเป็นห่วง จึงรีบเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อจะรอพบกับแอน เพราะต้องการจะช่วยเหลือเธอ
หลังจากที่วีเดินทางไปพบกับแอนแล้ว วีรู้สึกสงสารแอนจับใจ แอนเปลี่ยนไปมาก อาจเป็นเพราะจากการทำงานหนัก แอนผอมมาก ผิวที่เคยขาวเนียนก็ดูดำคล้ำ โทรม ไม่เหลือเค้าแอนคนเดิมอีกเลย
วันแรกที่ไปเชียงใหม่นั้น วีเดินทางไปเยี่ยมลูกสาว 2 คนของแอนที่บ้าน ซึ่งเวลาที่แอนไปทำงาน ลูกๆ ก็จะอยู่กับคุณแม่ของแอนนั่นแหละ ส่วนสามีของแอนก็นอนป่วยด้วยเป็นอัมพาตอยู่ในห้อง บ้านของแอนนั้นเป็นบ้านไม้เก่าๆ ผุๆ เหมือนกำลังจะพัง
คืนแรกที่เชียงใหม่ แอนอาสามานอนเป็นเพื่อนวีที่โรงแรม แล้วคืนนั้นก็เป็นคืนที่ความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยขึ้น ทำให้วีทราบถึงสาเหตุที่ทำให้แอนต้องมีชีวิตที่ตกต่ำถึงขนาดนี้ คืนนั้นวีต้องประสบพบเจอกับเรื่องสยองที่ติดตามตัวของแอนมาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในคืนนั้นวีกับแอนเข้านอนประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งแยกกันนอนคนละเตียง วีหลับไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ แต่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะมีเสียงร้องไห้เบาๆ มาจากเตียงของแอน เป็นเสียงร้องไห้ครวญคราง "ฮือ...ฮืออออ..ฮืออ..." วีจึงเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง แล้วก็ลุกขึ้นมามองแอน
แอนนั้นนอนหลับตาอยู่ในท่านอนหงาย แขน 2 ข้างวางข้างลำตัว มือนั้นกำหมัดแน่น วีกำลังจะเอื้อมมือไปเขย่าตัวของแอน แต่วีก็ต้องตกใจเพราะเสียงร้องไห้ของแอนนั้นเริ่มดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นเสียงร้องที่เล็กแหลม เสียงร้องที่เล็กแหลมนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ฟังดูเหมือนเสียงแมว
วีจึงรีบเขย่าตัวของแอน แต่แอนไม่รู้สึกตัวเลย ตัวเธอเองยังคงร้องเสียงเหมือนแมว แล้วจู่ๆ แอนก็หยุดร้อง ลืมตาขึ้นมา แอนค่อยๆ คลานลงจากเตียงไปบนพื้น แอนคลานวนไปมาบนพื้นห้อง แล้วจู่ๆ เธอก็หยุดคลานแล้วล้มลงไป วีตกใจมากกับภาพที่เห็น แต่ก็รีบไปเขย่าตัวแอนให้ได้สติ หลังจากที่แอนได้สติแล้ว วีก็พยุงแอนขึ้นมานั่งบนเตียง แล้วเริ่มซักถามแอนว่าเกิดอะไรขึ้น
แอนบอกว่ารู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถควบคุมอาการได้เลย แอนเริ่มเล่าให้วีฟังว่า เสียงร้องไห้ที่ได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงแมว แต่เป็นเสียงของเด็กทารก ก่อนที่แอนจะแต่งงานกับสามีนั้น แอนเคยตั้งครรภ์มาก่อน
แต่ในตอนนั้นยังไม่พร้อมจึงไปปรึกษากับสามี สรุปว่าสามีของแอนตัดสินใจให้ไปทำแท้ง หลังจากแต่งงานกันมาได้ประมาณปีหนึ่ง
เรื่องแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับแอน แอนจะเห็นเด็กเล็กๆ คลานอยู่ในบ้าน บางครั้งก็จะได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้กลางดึก พร้อมกับเสียงพูดว่า "จำกูได้ไหม..."
นับตั้งแต่วันนั้นมา กิจการของสามีก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ จนต้องปิดกิจการลง แอนเคยไปปรึกษากับพระที่เคารพอยู่รูปหนึ่งท่านบอกว่า "คนที่เคยทำแท้งไม่ว่าจะทำอะไรก็จะตกต่ำ กรรมที่ไม่สามารถแก้ได้ อย่างดีก็ทำได้แค่ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้าง...ก็เท่านั้น"
แอนก็พยายามทำบุญ บวชชี แต่อะไรๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น ส่วนสามีก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุจนเป็นอัมพาต ไม่สามารถทำงานได้ แอนจึงต้องออกหางานทำ แต่ไม่ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงานเลย จนมาได้งานแม่บ้านที่เชียงใหม่นี่แหละ
...หลังจากที่คุณวีฟังเรื่องของคุณแอนทั้งหมดแล้ว ทำให้คุณวีเชื่อในเรื่องเวรกรรมมากขึ้น เรื่องของกรรมคงไม่มีใครช่วยใครได้ และก่อนที่คุณวีจะกลับมากรุงเทพก็ได้ให้เงินก้อนหนึ่งกับคุณแอนไว้ เพื่อให้คุณแอนนำไปลงทุนค้าขาย แต่ก็ไม่ทราบว่าคุณแอนจะผ่านพ้นวิบากกรรมครั้งนี้ไปได้ไหม กรรมที่เธอและสามีเป็นผู้สร้างไว้ เรื่องทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้
ป.ล. หวังว่าเรื่องนี้คงจะช่วยเตือนสติคนที่กำลังจะทำแท้งให้เปลี่ยนใจได้บ้าง ไม่มากก็น้อย...
เครดิตแหล่งข้อมูล : klangsayong.com
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น