หรือว่านั่นคือปอบ?
นี่คือเรื่องที่ประสบมาจริงๆ เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้เองค่ะ ถึงวันนี้เรายังคิดว่าใช่จริงๆ หรือว่าเราตาฝาดไปเองกันแน่ แต่ ณ ตอนนั้นคือเรามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนแน่ๆ ค่ะ
เช้ามืดของวันที่ 14 กรกฎาคม เวลาตี 3:25 เราขับรถออกจากบ้านคนเดียว เพื่อมุ่งหน้าไปสอบ อปท. ที่อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา เราก็ขับผ่าน 2 อำเภอแรก กำลังจะเข้าอำเภอที่ 3 ซึ่งอำเภอนี้อยู่ติดกับเขตอำเภอคง ซึ่งเพื่อนแนะนำมาว่าเป็นเส้นทางลัด ด้วยความที่เราไม่ค่อยชินเส้นทางนี้เท่าไหร่ จึงเปิด Map เพื่อดูเส้นทาง.. เวลา 04:33 เราขับมาถึงถนนเส้นหนึ่งตามที่ Map บอกให้เลี้ยวซ้าย ซึ่งเป็นเส้นทางข้างวัด สองข้างทางมีบ้านคนอยู่ประปราย แบบห่างๆ กัน สลับกับทุ่งนาค่ะ เราก็เลี้ยวไปตาม Map บอก ขับตรงต่อไปประมาณจะ 2 กิโลแล้ว Map บอกให้เลี้ยวขวา เราเลยชะลอรถมองดูทางขวาที่จะเลี้ยว ซึ่งตอนนั้นเราก็ตกใจปนเอะใจ ว่ารถจะวิ่งไปได้เหรอ? เพราะเป็นถนนลูกรังเส้นเล็กๆ ประมาณ 2 เลน เหมือนถนนเข้าไปนาน่ะค่ะ
เราเลยตัดสินใจถอยรถกลับดีกว่า ดูแล้วเส้นทางเปลี่ยวเกิน บวกกับเราเป็นผู้หญิงขับรถมาคนเดียวด้วย ขณะที่กำลังถอยรถกลับ ไฟหน้ารถก็สาดไปโดนสิ่งหนึ่งเข้า ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นหมาหรือลูกวัวตัวเล็กๆ ที่กำลังนั่งหันข้าง ก้มหน้า ขยับตัวไปมานิดๆ เราก็จอดรถนั่งมอง พยายามใช้สายตามองให้ชัดว่าคืออะไร? เลยตัดสินใจเปิดไฟสูงหน้ารถกับไฟตัดหมอกเพื่อมองให้ชัดขึ้น มองจนแน่ใจว่านั่นไม่ใช่หมา หรือลูกวัว แต่เป็นคนค่ะ อายุประมาณป้า หรือยายนี่ล่ะ ผมยาวประบ่า แต่รวบแบบหลวมๆ ดูกะเซอะกะเซิง ใส่เสื้อสีดำ หรือสีกรมนี่แหละ นุ่งผ้าถุง.. แกค่อยๆ หันหน้ามองมาที่เรา และขยับตัวลุกขึ้นช้าๆ ในมือของป้า หรือยายคนนี้ เราไม่แน่ใจว่าแกถืออะไร บวกกับเราก็สงสัยว่าแกเป็นอะไรหรือเปล่า ถึงมานั่งทำอะไรตรงนี้เวลานี้ หรือแกจะบาดเจ็บ โดนทำร้ายมา หรืออะไรยังไงกันแน่ น่าสงสาร ในหัวเราก็คิดไปต่างๆ นานา เราเลยตัดสินใจว่าจะลงไปถาม เผื่อแกต้องการความช่วยเหลือ
ในระหว่างที่เรากำลังเปิดประตูรถลงไป สายตาเราก็มองดูป้า หรือยายคนนี้ตลอด จนเราต้องมาหยุดชะงัก รีบกลับเข้าไปนั่งในรถ และล็อคประตูทันที! เพราะช่วงที่แกขยับหันหน้าเดินตรงมาที่เรา ลูกตาแกขาวเกือบหมด มีตาดำเป็นจุดเล็กๆ เท่านั้น ตอนนั้นคือเราตกใจมาก! รีบถอยรถกลับขึ้นถนนใหญ่ แล้วจอดมองผ่านกระจกข้างด้านซ้ายมือ เราก็เห็นแกกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาที่รถเรา ซึ่งระยะทางมันไม่ได้ไกลจากรถเราเท่าไหร่ ตอนนั้นเราตัดสินใจค่อยๆ เหยียบคันเร่งขับออกไป ตาก็มองผ่านกระจกมองหลัง สลับกับกระจกมองข้างว่าแกวิ่งตามมาไหม ภาพที่เห็นทำเราแทบช็อคค่ะ! สรุปว่าแกวิ่งตามมาค่ะ วิ่งเร็วด้วย! เราแน่ใจว่าแกไม่ใช่คนแล้วล่ะ เรารีบเหยียบรถแบบมิดเลยค่ะ
ขับมาจนถึงสถานีตำรวจ เราไปจอดรถตรงที่ที่สว่างที่สุด จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินมาถามว่าเป็นอะไรไหม? เราเลยถามตำรวจว่า ‘มีใครวิ่งตามรถเรามาไหม?' ตำรวจบอกไม่มี เราจึงค่อยสบายใจขึ้นมานิดนึง.. พอพักจนเริ่มโอเคขึ้น เราก็ขับรถต่อจนมาถึงโรงเรียนที่เป็นสนามสอบ อปท. วันนั้นทั้งวันใจเราไม่อยู่กับข้อสอบเลย จนสอบเสร็จก็เกือบเย็น ซึ่งตอนกลับเราก็ต้องผ่านเส้นนี้อีก ถ้าไปถึงจุดนั้นก็คงค่ำพอดี เราเลยตัดสินใจวิ่งเข้าอำเภอคง แล้วไปออกถนนมิตรภาพแทน ซึ่งมันอาจจะไกลกว่า แต่เราคิดว่ายังไงรถก็เยอะ คนเยอะคงปลอดภัยกว่าเส้นเดิมแน่ๆ จนกลับถึงบ้านเกือบ 1 ทุ่ม เราเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟัง ก่อนที่แม่จะให้เราเข้าบ้าน แม่เอาฝ้ายจากหลวงพ่อมาผูกให้เรา และให้เราล้างเท้าก่อนเข้าตัวบ้าน เหตุผลคือ แม่กลัวว่าป้า หรือยายคนนั้นจะติดตามมาด้วย เรื่องที่เราเจอมาก็ประมาณนี้ค่ะ อาจเขียนเล่าได้ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ แต่ภาพป้า หรือยายคนนั้นวิ่งไล่รถยังจำได้ติดตามาจนถึงตอนนี้
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น