รีสอร์ทสยอง

จากนั้นพนักงานก็หยิบกุญแจ และนำพวกเราไปดูบ้านพัก เป็นบ้าน 2 หลังติดกัน มีทางเดินเป็นสะพานทอดเข้าไปหน้าบ้านตรงกลาง มีทางเลี้ยวซ้าย-ขวาเพื่อจะเข้าไปยังบ้านพักแต่ละหลัง ด้านล่างเป็นน้ำ เหมือนบ้านที่ปลูกยื่นลงไปในน้ำ บรรยากาศในตอนเย็นมันดีมาก พระอาทิตย์กำลังใกล้จะตก ทางอาจารย์ที่เป็นโค้ชของเราก็ได้ถามนักกีฬาหญิงก่อนว่า ให้ผู้หญิงเลือกก่อนว่าจะนอนบ้านฝั่งไหน? ตอนนั้นเราเป็นคนตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า หนูขอเลือกบ้านฝั่งขวามือค่ะ! ตอนนั้นก็ไม่รู้อะไรดลใจเหมือนกัน สุดท้ายพวกนักกีฬาชายก็ได้นอนห้องฝั่งซ้ายมือ พอเสร็จ ทุกคนก็จัดแจงย้ายข้าวของสัมภาระเข้าในบ้าน พอเข้าไปในบ้าน บรรยากาศต่างกับข้างนอกมาก ภายในห้องตกแต่งเหมือนกับโรงแรมทั่วไป ไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนบ้านเลย แต่ที่แปลกคือ ทั้งห้องจะปูพรมสีแดงหมด แม้แต่ผนังยังทาสีแดง แปลกตามาก ส่วนที่นอนก็สีขาวทั่วไป ตอนนั้นก็มองหน้ากันว่าแปลกดีนะ.. แต่ก็ไม่ได้อะไร

จนกระทั่งคืนนั้น ทุกคนก็หลับตามปกติ จะมีก็แต่เราที่หลับๆ ตื่นๆ เพราะได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ ที่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งข้างล่างมันเป็นน้ำนี่นา? แถมยังมีเสียงโหวกเหวกจากบ้านฝั่งผู้ชายอีก แต่คืนนั้นของเราก็ผ่านพ้นไป.. ที่ไม่ปกติคือพวกนักกีฬาชายบ้านนั้นมันตื่นเช้าผิดปกติ หลังจากที่พวกเราตื่นกันหมดแล้ว ก็ออกมายืนรับบรรยากาศตรงลานหน้าบ้านพัก เห็นพวกนักกีฬาชายนั่งจับกลุ่มคุยกัน แถมยังตื่นเร็วกว่าปกติ เลยทำให้พวกผู้หญิงอย่างเรางงนิดหน่อย เพราะที่จริงพวกมันตื่นกันช้ามาก อาจารย์เลยเข้าไปถาม อ้าว..ทำไมตื่นกันไวจัง? หนึ่งในนักกีฬาชายตอบไปว่า ‘โหอาจารย์! เมื่อคืนพวกผมแทบไม่ได้นอนเลย เจอผีหลอกทั้งคืน! อาจารย์กับพวกผู้หญิงไม่เจออะไรกันบ้างเหรอครับ?' พวกเราก็ขำ เพราะคิดว่าพวกผู้ชายมันโม้ อาจารย์บอกว่าอาจารย์กับพวกผู้หญิงหลับสบายดี แล้วพวกเธอเจออะไรมา? พวกผู้ชายเลยเล่าว่า เมื่อคืนตอนที่กำลังเคลิ้มจะหลับ รู้สึกเหมือนมีเงาค่อยๆ ลอยโผล่พ้นเตียงนอน แล้วมาหยุดยืนคล่อมตรงปลายขา แต่มันตัวใหญ่มากกกกก เห็นเป็นเงาดำๆ ไม่เห็นหน้าตา ยืนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น เหมือนกำลังเพ่งมองว่าพวกเรามาทำอะไรที่นี่? ตอนที่เห็นก็รู้แล้วล่ะว่าไม่ใช่คน คิดในใจว่าคงเจอดีเข้าแล้ว เลยหันไปสะกิดเพื่อนที่นอนข้างๆ แต่ก็พบว่าเพื่อนที่สะกิดก็ยังไม่นอน และก็เห็นอยู่เหมือนกัน และทุกคนก็เห็นเหมือนกันหมด เลยแกล้งทำเป็นนอนหรี่ตามองนิ่งๆ ไม่ให้มันรู้ว่าเราเห็น แต่ร่างดำนั้นก็เหมือนจะยืนอยู่อย่างนั้นไม่ยอมไปไหนเลย จนมีเพื่อนคนนึงที่นอนหลับลึกที่สุด อยู่ๆ ก็ดิ้น และงอมืองอเท้าเหมือนจะชัก รุ่นพี่คนนึงในนักกีฬาชายก็เลยรีบลุกพรวดจากที่นอนไปเปิดไฟ พร้อมกับตะโกนว่า ‘กูไม่ไหวแล้วโว้ย!!' นาทีที่เปิดไฟ ทุกคนในห้องก็ลุกกันหมด เหงื่อแตกพลั่ก ส่วนเงานั้นก็หายไปเฉยๆ ส่วนเพื่อนที่นอนชักดิ้นชักงอยังไม่ตื่น

ทุกคนเลยรีบเขย่าๆ ให้มันตื่น จนอาการชักหายไป เลยถามว่าเป็นอะไรทำไมถึงชักแบบนั้น? มันบอกว่ามันฝันว่ามีผู้ชายคนนึงมายืนชี้หน้ามัน และพูดเป็นภาษาที่ไม่เข้าใจ พอฟังไม่รู้เรื่องก็เลยทำเป็นเฉยใส่ชายคนนั้น แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะโกรธจัด เลยพุ่งตัวเข้ามาบีบคอ มันบอกว่าในความฝันมันเหมือนจริงมากๆ จนกระทั่งถูกปลุกให้ตื่น ถึงได้รู้ความจริงว่าทุกคนก็เจอผีหลอกเหมือนกันหมด ไม่มีใครได้นอนเลย ตอนเช้าตรู่ถึงได้รีบพากันออกมาเนี่ยล่ะ.. อาจารย์ได้ฟังก็เชื่อ และบอกว่ามีลางสังหรณ์แปลกๆ ตั้งแต่ที่มาถึงแล้ว แต่คิดว่าคิดไปเอง..

ก่อนออกจากที่พักตอนไปเช็คเอ้าท์ เลยไปถามพนักงานฟร้อนท์ ตอนแรกพนักงานไม่ยอมเล่า อาจารย์เลยให้ค่าเปิดปากไปคนละ 200 พนักงานถึงได้เล่าว่า มีผู้ชายชาวต่างชาติพาสาวคนไทยมาพักที่บ้านหลังนั้น ผู้หญิงน่าจะขายบริการ แล้วชายคนนั้นถูกไฟดูดตายตรงตู้เย็น เรื่องเพิ่งเกิดก่อนที่พวกเราจะมาเข้าพักได้ไม่กี่วันเอง.. พอพวกเราได้ฟังแบบนั้นนี่ทำเอาหลอนไปนานเลย