สุราฆ่าคน


สุราฆ่าคน

"นายก้อ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อวิญญาณกลับบ้าน


เข้าพรรษาทีพวกเราก็จะพูดถึงเรื่องเหล้าที ดูแล้วเหมือนของคู่กัน ทั้งๆ ที่สุดโต่งคนละขั้วเลย แต่ก็คิดแล้วก็จับคู่กันได้เหมือนคำว่า บุญกับบาปนั่นไงครับ

เข้าพรรษาเป็นเรื่องบุญ พระสงฆ์องค์เจ้าท่านจำพรรษาอยู่วัดเดียวจนกว่าจะถึงวันออกพรรษา ส่วนสุราหรือเหล้าน่ะ พระพุทธเจ้าท่านห้ามไว้ในศีล 5 แต่ชาวพุทธส่วนมากก็ละเลยข้อนี้กัน เรื่องเหล้านี่หาโอกาสพูดถึงบ่อยๆ เตือนอกเตือนใจกันไว้มากๆ ก็เป็นเรื่องดีนะครับ ไม่ว่าจะปีใหม่ สงกรานต์ หรือเข้าพรรษาก็เถอะเอ้า

สองเทศกาลแรกน่ะเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ขี้เมานั่งถือพวงมาลัย ขาดสติ ไม่มีสมาธิ สมองสั่งการช้า เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งพอๆ กับความประมาท ขับรถโดยไม่เคารพกฎจราจร ส่วนเทศกาลหลังก็เห็นชัดอยู่แล้ว ตามคำขวัญที่ว่า

"เลิกเหล้า เลิกจน เริ่มต้นเข้าพรรษานี้"




เลิกเหล้าเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องเสียเงินทองค่าเหล้าเมื่อนั้น


คนที่ซื้อกินเองหรือเป็นเจ้ามือน่ะรู้ๆ กันดีอยู่ว่าจ่ายเงิน แต่คนที่คอยเข้าไปผสมโรง เสนอหน้าร่วมวงด้วย ไม่ช้าก็ต้องควักเงินจ่ายตอบแทนเพื่อนมั่ง ไม่งั้นจะเป็นตัวประหลาดเกินไป

ติดเหล้าหนักๆ เข้า ไหนจะเสียเงินซื้อ ไหนจะเสียงานเพราะมึนเมา หรือที่เรียกว่า "เมาค้าง" จนลุกไม่ไหว หลายๆ คนทรงตัวได้ก็ต้อง "ถอนซะหน่อย" จะได้มีแรงไปทำงานทำการได้...ใครๆ ก็ได้กลิ่นเหล้าหึ่งไปเลย

คอเหล้าที่คิดว่าจะ "ถอน" กลับยื้อเยื้อจนกลายเป็น "ปลูก" ไปก็มี!



ไหนจะติดเหล้าจนเสียงาน เสียสุขภาพ ขาดรายได้ เพิ่มรายจ่าย


คือค่ารักษาพยาบาล โรคตับ โรคไต โรคกระเพาะ-ลำไส้ จนถึงโดนมะเร็งกินตายก็รู้ๆ กันนี่นา

"สุราอันว่าเหล้า ดื่มแล้วเมา เดินโซเซ" คงจะเคยได้ยินกันจนชินหูพอๆ กับ "เช้าฮา เย็นเฮ ค่ำเซ ดึกสร่าง สว่างซ้ำ" เมามายไร้สติ สมัยก่อนเรียกว่า "หมดรูป" ใครเห็นก็มีทั้งสมเพช ปลงสังเวช รวมทั้งดูหมิ่นเหยียดหยาม พูดสั้นๆ ก็คือ คนดูชา หมาดูถูก"

คอสุรายังมีอารมณ์ขัน แซวตัวเองตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน



ข้าพเจ้าดื่มเหล้าสองวันเท่านั้น คือวันที่ฝนตกกับฝนไม่ตก"


"ปัจจุบันนี้ข้าพเจ้าดื่มเหล้าเวลาเดียว คือเวลาตื่นเท่านั้น"

"เรื่องดื่มเหล้าไม่ต้องมาห้ามให้เสียเวลา เพราะผมหยุดดื่มแล้ว...ที่ "หยุดดื่ม" ไม่กล้า "เดินดื่ม" เพราะกลัวเหล้าหกน่ะซี"

พูดถึงเรื่องเหล้ากับเข้าพรรษา คิดว่าท่านผู้อ่านคงจะเคยพบเห็น อย่างน้อยก็เคยได้ยินว่ามีคอสุรา "งดเหล้าเข้าพรรษา" กันมาแล้ว คือคนที่ติดสุราไม่ว่าจะมากน้อย แต่ตั้งปณิธานไว้ว่า จะไม่ดื่มเหล้าเด็ดขาดในหน้าพรรษา เป็นเวลา 3 เดือนเต็ม!



ปัญหาก็คือ


ตอนก่อนเข้าพรรษา 2-3 วันจะดื่มเหล้ากันหนักหน่วง มีคำว่า "ปิดท่อ" หรือ "ปิดก๊อก" มาใช้ คือดื่มกันหัวทิ่มหัวตำ อ้างว่า "ทิ้งท้าย" วันรุ่งขึ้นเข้าพรรษาก็ยังลุกไม่ขึ้น หลายๆ คนอาการหนักจนถึงมือหมอก็มี

ตอนออกพรรษาก็เช่นกัน มีเหตุผลว่าอดเหล้ามาถึง 3 เดือน วันนี้ต้อง "เปิดท่อ" หรือ "เปิดก๊อก" ให้เต็มที่ ตั้งวงฉลองใหญ่ เมามายไม่เป็นสมประดี จนร่างกายที่ไม่คุ้นเคยกับแอลกอฮอล์มานานรับไม่ไหวมาเสียนักต่อนัก

เจ็บหนักเข้าโรงพยาบาลก็มาก ล้มตายไปก็ไม่ใช่น้อย!



มีคำถามว่า


"เลิกเหล้า 3 เดือนยังเลิกได้ ทำไมไม่เลิกดื่มไปเสียเลยเล่า?" แต่ก็เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบมาจนถึงทุกวันนี้

สมัยหนุ่มๆ ผมเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนชื่อลำพอง ถนนเทอดไทย แถวตลาดพลูอยู่ใกล้ๆ วัดจันทรารามกับวัดราชคฤห์ บ้านเรือนหนาตาแต่ความร่มครึ้มแบบสวนผลไม้ยังหลงเหลืออยู่ แม้ว่าลดน้อยลงเรื่อยๆ ตามความเจริญของบ้านเมืองก็ตาม

เราทำงานบริษัทเครื่องไฟฟ้าที่วงเวียนใหญ่ ถือว่าไม่ไกลนัก ตกเย็นหรือบางทีก็ค่ำมืดกว่าจะนั่งรถเมล์กลับบ้าน ไม่มีห่วงอะไรเพราะยังโสดทั้งคู่ ส่วนมากจะตั้งวงก๊งกันที่ข้างโรงหนังเฉลิมเกียรติ อาหารการกินมีขายสารพัด เพื่อนร่วมวง 4-5 คน...ผมยอมรับว่าระยะแรกๆ ดื่มจัดจนเป็นแผลในกระเพาะจึงต้องขอตัวก่อน



เพื่อนๆ รู้ดีก็ไม่คะยั้นคะยอ ตกเย็นผมก็กลับบ้านคนเดียว


บ้านเช่าชั้นเดียวใต้ถุนสูง มีสองห้องนอน ข้างล่างลาดซีเมนต์กับห้องน้ำและห้องครัวที่เราไม่ค่อยได้ใช้ หน้าบ้านมีมะขามเทศกับพุทธรักษาเรียงรายกับรั้วไม้ระแนง

บางคืนอยู่คนเดียวก็หวาดๆ เหมือนกันครับ ไหนจะหมาหอนจากวัดใกล้ๆ ไหนจะเสียงยอดไม้ซู่ซ่ากับสายลม...บางทีก็รู้สึกคล้ายมีใครจ้องมองจากข้างหลัง หรือมาหายใจรดต้นคอ แต่หันขวับไปมองก็ไม่เห็นใครเลย

ส่วนมากกว่าจะนึกกลัวจริงๆ ลำพองก็เมาเพียบกลับมาแล้ว ส่งเสียงเอะอะจนหมาเห่า ผมต้องรีบเปิดประตูรับเพื่อน แล้วพาส่งไปห้องนอน...สิ้นฤทธิ์!



ก่อนจะเข้าพรรษาปีนั้น


ลำพองประกาศว่าต้องเมาทิ้งท้าย หรือ "ปิดท่อ" ตามระเบียบ...เมาแอ๋มา 3-4 คืนติดๆ กันจนแทบจะไปทำงานไม่ไหว จนถึงวันเกิดเหตุที่เป็นวันศุกร์ รุ่งขึ้นก็จะเข้าพรรษาแล้ว

คืนนั้นผมนอนหลับๆ ตื่นๆ แถมฝันเห็นใครต่อใครมาเดินในห้องนอนคึ่กๆ กลัวนะครับแต่ไม่รู้จะทำยังไง...พอดีได้ยินเสียงลำพองร้องด่าหมาที่เห่าขรม พลางย่ำบันไดโครมครามขึ้นมา ร่างแปลกๆ ในห้องนอนก็หายไปหมด ผมลุกไปเปิดประตูรับเพื่อนที่เซแซ่ดๆ เข้ามา กลิ่นเหล้าคละคลุ้งจนต้องเบือนหน้าหนี

ลำพองสลัดรองเท้าได้ก็พุ่งขึ้นเตียงตามเคย...ผมส่ายหน้าลุกไปปิดประตูใส่กลอน ก่อนจะกลับขึ้นไปนอนบนเตียงริมหน้าต่าง

รุ่งขึ้น ผมแทบช็อกเมื่อไม่เห็นลำพองเสียแล้ว ประตูห้องยังใส่กลอนตามเดิม จะว่าเมื่อคืนตาฝาดไปเองก็ยังสงสัย...กลิ่นเหล้าอวลซ่านอยู่ในห้องตามเดิม มาแน่ใจว่าโดนผีหลอกเมื่อรู้ข่าวว่าลำพองเส้นเลือดแตกตายคาโต๊ะเหล้านั่นเอง!



เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์