ตัวตายตัวแทน | เรื่องเล่าเขย่าขวัญ


ตัวตายตัวแทน | เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสิบปีที่ผ่านมา เวลานั้นเรากับสามีตกลงกันว่าอยากจะมีลูก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีสักที ส่วนสามีเองอายุก็หลักสี่สิบบวกแล้ว เรากลัวว่าจะมีลูกช้าเกินไป ก็เลยคิดว่าขอลองแบบธรรมชาติไปก่อน เพราะตอนไปตรวจร่างกายคุณหมอก็บอกว่าสุขภาพเราดีทั้งคู่ แต่ถ้ายังไม่มาก็คงต้องพึ่งคุณหมอเป็นลำดับสุดท้าย

จนมีอยู่วันหนึ่ง เราคิดยังไงก็ไม่รู้ไปซื้อพวงมาลัยพร้อมดอกไม้ แล้วไปบนศาลเจ้าที่หน้าโรงแรมที่เราทำงานอยู่ บอกกับท่านว่าอยากจะมีลูก ขอลูกให้ฉันสักคนได้ไหม อยากได้ลูกสาวน่ารัก อารมณ์ดี เลี้ยงง่าย

แต่ก่อนหน้าที่จะไปบนศาลเจ้าที่ พี่ที่ทำงานเล่าให้ฟังว่า ช่วงกำลังก่อสร้างโรงแรมคนงานก่อสร้างก็ตกลงมาตาย โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเก่าอายุเกือบสามสิบปี แต่ขอไม่เอ่ยถึงนะคะว่าเป็นที่ไหน หลังจากนั้นถึงมีการสร้างศาลนี้ขึ้นมา

ถ้ามีการจัดงานช่วงเทศกาลให้กับแขกที่มาพัก ต้องมีการเซ่นไหว้ศาลเจ้าที่ก่อน มิเช่นนั้นก็จะเกิดเหตุขัดข้อง งานก็จะไม่ราบรื่น หรือทุกวันพระจะต้องมีการเซ่นไหว้ทุกครั้ง ทุกแผนกก็จะได้อานิสงส์ไปด้วย เพราะเราจะได้ทานผลไม้กับขนมหลังจากเซ่นไหว้ แต่ก็น่าแปลกใจเวลาที่เราทานผลไม้เซ่นไหว้ทีไร มันจะมีรสชาติจืด ไม่หวาน ทั้งๆ ที่ผลไม้นั้นก็ไม่ได้ตากแดดหรือทิ้งไว้นานเกินไป

หลังจากไปบนขอลูกสาวกับศาลเจ้าที่แล้ว ไม่นานก็มีข่าวดีเกิดขึ้นกับครอบครัวเราค่ะ สรุปว่าเราท้อง สามีเราดีใจมาก พูดซ้ำไปซ้ำมาว่าจริงเหรอๆ เรามีความสุขกันมากๆ

เมื่อมีข่าวดีได้ไม่นาน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นตอนประมาณหกโมงเช้าของวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ แม่บอกว่า "มูมู่ตายแล้วนะ" พร้อมเสียงสะอื้นร้องไห้

‘มูมู่' คือหมาที่เรารักมาก เป็นหมาพันธ์ุโกลเด้น ขนยาวสีน้ำตาล หล่อมาก นิสัยขี้เล่น ชอบว่ายน้ำ ถึงขั้นมีคนมาขอซื้อไปเป็นพ่อพันธุ์แต่เราก็ไม่ขาย และทุกคนในบ้านก็รักเหมือนลูกคนหนึ่ง พอรู้ข่าวส่วนตัวเราเองกว่าจะทำใจได้ก็เกือบสี่เดือน สุขภาพของมูมู่ก่อนหน้านี้เขาก็แข็งแรงดี แต่อยู่ๆ ตาของเขาเกิดอักเสบและมีไข้ แม่ก็เลยพาไปหาหมอ

หลังจากป่วยได้ไม่นานก็ต้องกลับไปหาหมออีกตอนช่วงเย็นวันที่ ๒๔ ธันวาคม เพราะเขาแอบหนีออกจากบ้านไปเล่นน้ำตอนเช้าๆ อากาศหนาวมากช่วงนั้น คงทำให้มีไข้ขึ้นสูง หมอก็ให้น้ำเกลือและฉีดยา หมอว่าเขาคงเป็นปอดอักเสบร่วมด้วยและน่าจะติดเชื้อในกระแสเลือด

หลังจากนั้นแม่ก็พามูมู่กลับบ้าน สุดท้ายเหมือนร่างกายเขาไม่ไหว แม่ได้ยินเหมือนเขาร้องเรียกแม่สองสามครั้ง แม่เลยลงมาจากบ้าน แม่บอกว่า "ไปเถอะลูก มันทรมาน" ไม่นานมูมู่ก็ตาย เหมือนเขารอแม่ คงอยากบอกแม่ว่าตัวเขาเองไม่ไหวแล้ว


หลังจากที่มูมู่ตายไปแล้ว มีโอกาสเราก็จะไปทำบุญ ถวายสังฆทานให้เขา ตั้งจิตอธิษฐานเสมอว่า อยากให้มูมู่กลับมาเกิดเป็นลูกของแม่อีกครั้ง บ่อยครั้งที่เราฝันเห็นเขา ฝันว่าเขากลับมาหาเรา วิ่งมากระโดดเล่นเหมือนตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่

จากนั้นก็ฝันอยู่เรื่อยๆ ว่ามีผู้หญิงแต่งตัวโบราณมายืนดูเราที่ปลายเตียงบ้าง แอบดูที่หน้าต่างบ้าง เป็นลักษณะครึ่งหลับครึ่งตื่น ฝันลักษณะนี้ประมาณสี่ถึงห้าครั้ง

จนกระทั่งเราครบกำหนดวันผ่าคลอด คืนแรกของวันที่นอนโรงพยาบาล แม่เล่าให้ฟังว่าแม่ก็ฝันเหมือนเรา ฝันว่ามีผู้หญิงแต่งตัวโบราณมายืนมองเรากับลูกที่ปลายเตียง แม่ก็ตะโกนถามว่า "ใครน่ะ" ผู้หญิงชุดโบราณคนนั้นไม่ตอบแต่หันมายิ้มให้แล้วหายแว็บไป จากนั้นแม่ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา

ก่อนหน้านี้เราไม่เคยเล่าความฝันให้แม่ฟัง แต่เราสองคนกลับฝันเห็นหญิงในชุดโบราณเหมือนกัน นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก

พอมาคิดทบทวนลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ไปขอลูกสาวจากศาลเจ้าที่ เราก็ได้ลูกสาวสมใจ แถมนิสัยก็ร่าเริงเหมือนกับ ‘มูมู่' หมาของเราที่ตายไป ชอบยิ้ม หัวเราะเก่ง ชอบเต้น ชอบร้อง ฉลาดสมวัยของเขาและก็ชอบเรียนรู้ แม่เล่าให้ฟังว่าเคยได้ยินคนโบราณเล่าว่า ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงสัตว์จนเกิดความผูกพัน ถ้าเกิดท้องขึ้นมาสัตว์ตัวนั้นอาจต้องตาย หรือเรียกว่า "ตัวตายตัวแทน" และเราก็เชื่อแบบนั้นค่ะ



เครดิตแหล่งข้อมูล :
klangsayong


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์