ฮือฮาวิญญาณเฮี้ยน


ฮือฮาวิญญาณเฮี้ยน

ไม่กี่วันมานี้


มีเรื่องพิลึกพิลั่นเกิดขึ้นที่โรงพักอ่างทอง ทั้งตำรวจและผู้ต้องขังพากันหวาดผวาไปตามๆ กัน ลือกันว่าที่นั่นมีดวงวิญญาณผีตายทั้งกลมอาละวาด

หลอกหลอนตำรวจกับผู้ต้องขังแบบยกโรงพัก!??




ที่ไปที่มาของเรื่องเร้นลับนี้


เริ่มจากการที่นางเบญจมาศ กรุณาดวงจิต อายุ 42 ปี ผู้ต้องขังหญิงคดียาบ้าซึ่งกำลังตั้งท้องได้ 3 เดือน ตัดสินใจใช้ผ้าถุงผูกคอตายในห้องขัง เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเธอตายก็มีอะไรลึกลับเกิดขึ้นที่โรงพักแห่งนี้เป็นประจำ

บ้างก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ บ้างก็ได้ยินเสียงคนอาบน้ำในห้องขังไปยันเสียงเขย่าลูกกรงเหล็กตรงที่นางเบญจมาศสิ้นใจตาย

ขนลุกขนพองไปตามๆ กัน




หลังจากเรื่องราวชักจะบานปลายไปกันใหญ่


เช้าตรู่วันที่ 13 ส.ค. ตำรวจและญาติผู้ตายจึงพร้อมใจกันนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้นางเบญจมาศ มีการประพรมน้ำมนต์และสวดเรียกวิญญาณ ก่อนจะมีพิธีเผาศพในเย็นวันเดียวกัน

นายสำอางค์ คงการุณ ผู้ต้องขังซึ่งอ้างว่าโดนดีมาแล้ว เล่าว่า นับตั้งแต่นางเบญจมาศเสียชีวิต แต่ละคืนจะเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ชวนสยองขวัญขึ้นภายในห้องคุมขังเป็นประจำ อย่างเช่นเรื่องที่ผู้ต้องขังทุกคนได้ยินเสียงคนอาบน้ำดังซู่ๆ เสียงคนเดินมาเขย่าลูกกรงเหล็ก เสียงเคาะผนังปูน และเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังเล็ดลอดมาจากห้องคุมขังหญิง ที่อยู่ห่าง 2 เมตร ในช่วงกลางคืน ทั้งๆ ที่ไม่มีผู้ต้องขังหญิงอยู่สักคน นอกจากนี้ยังมีคนเห็นเงาดำเหมือนคนเดินวนเวียนอยู่ในนั้นด้วย




ขณะที่น.ส.ดา ผู้ต้องขังหญิงชาวกัมพูชา เล่าว่า


ตนเป็นคนเดียวที่ถูกขังรวมอยู่กับนางเบญจมาศ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่สามารถนอนในห้องขังหญิงได้อีกเลย เนื่องจากทุกคืนจะมีเสียงผู้หญิงร้องไห้ตลอด จึงขอออกมานอนที่หน้าห้องขังรวมซึ่งอยู่หน้าห้องขังชาย

ทั้งหมดพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

"โดนพร้อมกันดีกว่าโดนคนเดียว"




ลำพังคำพูดผู้ต้องขังดูเหมือนยังไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่


แต่พอได้ยินคำพูดของด.ต.สมนึก นนทิ เจ้าหน้าที่สิบเวร ก็ต้องกลับมาชั่งใจใหม่ ดาบสมนึก เล่าว่า ตอนแรกก็ไม่เชื่อกระทั่งโดนกับตัวเอง โดยคืนหนึ่งระหว่างเข้าเวรอยู่ได้ยินเสียงคนอาบน้ำในห้องขังหญิง พอเดินไปดูก็ไม่พบว่ามีใคร ตอนเช้าจึงรีบแจ้งให้ญาตินางเบญจมาศนิมนต์พระมาสวดเรียกวิญญาณไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ยังเกิดขึ้นทุกคืน เพื่อความสบายใจของผู้ต้องขังและตำรวจ จึงให้ญาติผู้ตายนิมนต์พระมาสวดเจริญพระพุทธมนต์และเรียกวิญญาณอีกครั้ง

อย่างน้อยก็เพื่อให้อุ่นใจ!?!




ด้านพ.ต.อ.ธวัชชัย ยิ่งเจริญสุข ผกก.สภ.อ.เมืองอ่างทอง บอกว่า


การประกอบพิธีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจแต่อย่างใด แต่ที่อนุญาตให้ทำก็เพื่อความสบายใจของทุกคน สำหรับตนเองก็ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาก่อน เรื่องที่เกิดขึ้นไม่สามารถพิสูจน์ได้ เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ที่เรียกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ และที่สำคัญการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทั้งยังเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจให้ตำรวจที่เข้าเวรกับผู้ต้องขังที่ต้องอยู่ในนั้นไปโดยปริยาย




อย่างไรก็ตาม


ด้านพระมหาบัญยงค์ นิโรธชโย รักษาการเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า คงจะเป็นจิตวิญญาณของผู้ตายที่ยังผูกพัน เป็นวิญญาณที่ไม่สงบสุข มีความทุกข์ร้อน วิตกกังวลในปัญหาหลายๆ สิ่ง หรือคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีเช่นนี้นิมนต์พระไปทำบุญเจริญพระพุทธมนต์ก็จะดีขึ้น แต่ถ้าหากยังมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกก็น่าจะเกิดจากอุปาทาน




วิธีแก้คือตั้งสติให้มั่นอย่าอุปาทานไปตามกัน



วิญญาณเฮี้ยนจะมีจริงหรือไม่ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ที่พิสูจน์ได้คือความวุ่นวายที่เกิดจากบรรดาเซียนหวยที่รู้ข่าว ต่างพากันมาเดินลัดเลาะหาเลขเด็ดที่โรงพักอ่างทองกันไม่เว้นแต่ละวัน บางรายเป็นเอามากถึงขนาดโทรศัพท์ติดต่อตำรวจขอซื้อผ้าถุงที่นางเบญจมาศใช้ผูกคอตาย อ้างว่าจะเอาไปทำพิธีเพื่อหาเลขเด็ดตามความเชื่อที่งมงาย



ผีว่าน่ากลัวขนาดไหนยังสู้พวกบ้าหวยไม่ได้!??


"หลังที่มีข่าวออกไปปรากฏว่ามีชาวบ้านจำนวนมากโทรศัพท์มาสอบถามถึงผ้าถุงที่ผู้ตายใช้ผูกคอว่าพนักงานสอบสวนเก็บรักษาไว้หรือไม่ พร้อมแจ้งความประสงค์ว่าต้องการซื้อผ้าถุงผืนดังกล่าวในราคาแพง โดยให้เหตุผลว่าต้องการนำไปให้พระประกอบพิธีเพื่อหาเลขเด็ด เนื่องจากบรรดาเซียนหวยต่างเชื่อกันว่า เชือกหรือผ้าที่คนตายใช้ผูกคอตายวิญญาณจะเฮี้ยน หากพระประกอบพิธีกรรมและเชิญวิญญาณเชือกจะม้วนเป็นตัวเลขมองเห็นได้อย่างชัดเจน ผมจึงบอกไปว่าพนักงานสอบสวนได้มอบผ้าถุงคืนให้ญาติไปแล้ว พวกนั้นก็บอกว่าจะตามไปขอซื้อผ้าถุงผืนดังกล่าวให้ได้ แพงเท่าไหร่ก็จะซื้อ" ด.ต.สมนึกกล่าวไปส่ายหน้าไป




ก่อนสรุปด้วยอาการละเหี่ยใจ


"เมื่อก่อนว่ากลัวผีแต่เดี๋ยวนี้กลัวพวกขอหวยมากกว่า"

ถึงแม้จะมีการนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ตาย เพื่อให้เกิดความสบายใจ แต่ทั้งตำรวจและผู้ต้องขังบนโรงพักอ่างทองก็ยังนึกเสียวสันหลังทุกครั้งที่ตะวันตกดิน จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าจะเห็นผู้ต้องขังมาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนแทบไม่แยกจากกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่สิบเวรก็เทียวไปเทียวมาแวะทักทายผู้ต้องขังเสมือนหาเพื่อนคุยไปพลางๆ



เมื่อตำรวจกับผู้ต้องขังได้เจอกัน


โอกาสแหกห้องขังก็คงจะเหลือน้อยเต็มที!??




เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์