เรื่องสุดหลอน บนถนนสายเดิม หนุ่มถ่ายภาพติดวิญญาณ นั่งข้างสุดขนลุก
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดยยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หนุ่ม 35 เจ้าของร้านเวดดิ้ง ถ่ายภาพติดวิญญาณ นั่งในรถข้างคนขับ ขณะเจอด่านตรวจฉี่ เผยนี่ไม่ใช่ครั้งแรก สำหรับเหตุการณ์หลอนบนถนนเส้นนี้
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายภูเบศร์ หนูดำ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านพัทลุงเวดดิ้ง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "หลายคืนก่อน ผมขับรถคนเดียว ช่วงประมาณเที่ยงคืน-ตี 1 ผ่านถนนสุราษฎร์ธานี (เส้นเซาเทิร์นที่เปลี่ยวๆ ถนนที่กว้างๆ) แล้วจอดฉี่ข้างทาง หลังจากกลับขึ้นรถขับเข้าภูเก็ต ระหว่างทางผมได้ยินเสียงแปลกๆ จากหลังรถตลอดทาง ผมเลยแวะเซเว่นฯเพื่อเช็กดูว่าเสียงอะไร แต่ก็ไม่เจออะไร ต่อมาช่วงเวลาประมาณตี 2 ผมเจอด่านที่พังงา ตำรวจขอตรวจปกติ ทั้งฝั่งคนขับและคนนั่ง ผมโดนตรวจฉี่ ก่อนขึ้นรถผมเลยถ่ายรูป เพื่อส่งให้เพื่อนดูว่าผมโดนตรวจฉี่ แต่เมื่อผมย้อนมาเช็กรูปดูกลับพบว่า มีเงาเหมือนคนนั่งรถไปกับผม ถนนเส้นนี้ผมเจอ 2 ครั้งแล้ว ครั้งก่อนคนไม่มีหัว (ผมจอดรถดูกับเพื่อน) แต่ผมไม่กลัว ปล.ทุกคนรู้ดีว่าผมไม่กลัวผี ปล. 2 ต้องกลับไปส่งมั้ย หรือเขากลับถูก หรือจะอยู่ด้วยกันเลย 555" หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้คนให้ความสนใจและเข้ามาคอมเมนต์จำนวนมาก
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ร้าน พัทลุงเวดดิ้ง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทลุง เพื่อสอบถาม นายภูเบศร์ หนูดำ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ปกติตนเป็นคนไม่กลัวผี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณหลังเที่ยงคืน เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนกำลังเดินทางกลับจากงานเลี้ยงของบริษัท ซึ่งจัดขึ้นที่จ.สุราษฎร์ธานี ตนขับรถยนต์ 7 ที่นั่ง ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียนพัทลุง เพื่อมุ่งหน้าไป จ.ภูเก็ต ระหว่างทางเจอด่านตำรวจ จึงถ่ายภาพเพื่อบอกลูกน้องว่าโดนตรวจ สุดท้ายมาเจอภาพคล้ายถ่ายติดวิญญาณ นั่งมาในรถคู่กับตน
นายภูเบศร์ เล่าต่อว่า ถนนเส้นนี้ ตนเจอเรื่องแบบนี้ครั้งที่ 2 แล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน ตนขับรถไปกับเพื่อนช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนแล้วเจอ จยย. ขับตาม ตนกับเพื่อนดูเท่าไรก็ไม่เห็นคนขับ เห็นแต่ จยย.เปล่าวิ่งตามมา ตนจึงตัดสินใจเบรกให้ จยย.ชน และเห็น จยย.ตกไปข้างทาง จึงจอดรถลงไปดูก็ไม่เห็นรถเห็น จยย. พอขับรถออกมาสักครู่ก็เห็น จยย.คันเดิมขับตามมาอีก แต่ไม่มีคนขับเหมือนเดิม ตนและเพื่อนจึงไม่หันกลับไปมองอีก และตัดสินใจรีบขับรถกลับที่หมาย
"ซึ่งหลังเหตุการณ์รอบนั้น เพื่อนผมต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศล ส่วนผมปกติเป็นคนไม่กลัวผี จึงไม่ได้ทำอะไร ซึ่งก่อนเจอก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร หลังเกิดเหตุการณ์ล่าสุด ตนได้เล่าให้แม่ฟัง ซึ่งแม่ก็เข้าวัดทำบุญไปให้ ส่วนรถคันดังกล่าว ตอนนี้เด็กในร้านไม่กล้าขับไปไหนเวลากลางคืนเลย และไม่ยอมนั่งรถด้วย นอกจากนี้รถคันดังกล่าว ยังไม่เคยมีประวัติชนมาก่อนเลย" นายภูเบศร์ เล่าให้ฟังเครดิตแหล่งข้อมูล : thairath