ผีหัวขาด

"จอดรถลงมาดู"

วันนั้นผมทำงานจนดึกเลยต้องกลับบ้านช้า ประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ผมขับรถผ่านถนนวิภาวดี-รังสิตซึ่งตอนนั้นฝนตกหนักมากมองทางข้างหน้าไม่ค่อยเห็น สักพักรถก็ติด ผมก็นั่งฟังเพลงอยู่ในรถตอนนั้น สักครู่รถก็ออก ระหว่างที่ผมกำลังวิ่งรถไปข้างหน้า ผมก็สังเกตุเห็นใครหรืออะไรบางอย่างกำลังยืนตากฝนอยุ่อีกฝั่งถนน

ผมก้แปลกใจว่ามีใครที่ไหนมาตากกลางฝนตกหยักอย่างนี้ สักพักผมก็ต้องตกใจ เพราะเขาวิ่งพรวดออกมาวิ่งข้ามถนนอย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็ตัดหน้ารถผม ผมคิดในใจว่าเขาคงไม่รอดตายแล้วล่ะ และแล้วก็จริงๆด้วย ผมตกใจด้วยว่าตัวเองชนคนตายแล้ว เลยรีบเบรครถกระทันหันจนรถที่วิ่งมาข้างหลังบีบแต่ใส่ ผมขับรถจอดเลียบข้างถนน แล้วเปิดประตูออกมาดูร่างผู้เคาระห็ร้าย

"เลือดแดงฉาน"

แล้วแล้วผมก็ต้องร้องเสียงหลงด้วยความกลัว เพราะสิ่งที่ผมเห็นั้นคือ...คนที่ผมขับรถชนนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย ผมเอะใจสงสัยขึ้นมาเลยเดินตากฝนดูแถวๆถนนนั้นว่าเขาไปไหนหรือเป็นอะไรมากหรือเปล่า ผมเดินตากฝนดูร่างปริศนานั้นตามทางฟุตบาต ซึ้งตอนนั้นเกือบ 5 ทุ่มแล้วร้านค้าข้างถนนก็ปิดหมด มีเพียงแต่แสงไฟข้างทางกับสายฝนที่โหมกระหน่ำเท่านั้น

ผมเลยคิดว่าตัวเองตาฝาดไปแล้วจึงถอดใจกลับขึ้นรถมา แต่แล้วทันใดนั้นเองผมก็ต้องสะดุ้งเฮือกเลย... เพราะว่าเมื่อผมเหลือบไปมองกระจกหน้ารถเพื่อที่จะดูรถที่วิ่งมาข้างหลัง แต่ผมกลับเห็นคนไม่มีหัวแต่ส่วนบ่าที่หัวหายไปนั้นมีเลือดแดงฉานไหลชุ่มไปหมดยืนนิ่งอยุ่ตั้งแต่เม่อไหร้ก็ไม่รู้... ผมตกใจกลัวมากเลยรีบขับรถหรีออกมาจากตรงนั้นอย่างไว ในใจคิดว่าเราโดนผีหลอกแน่แล้ว เลนรีบขับรถออกมาจากแถวๆที่เกิดเหตให้เร็วที่สุด

"รถทับหัวแบะ"

วันรุ่งขึ้นพอผมสงบสติอารมณ์ได้แล้ว วันนี้ผมเลิกงานเร็วกลับประมาณ 5 โมงเย็น ขากลับผมก็จอดรถแถวที่เกิดเรื่องเมื่อวานแล้วถามร้านขายของข้างถนนนั้นว่า ที่ตรงนี้เมื่อก่อนเคยมีคนเจอผีหัวขาดไหม เขาก็มองหน้าผมแบบสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อเท่าไร แล้วก็ตอบผมว่า

" ที่นี่ไม่มีผีอะไรหรอกคุณ แต่เมื่อ2-3 วันที่ผ่านมามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีผู้ชายเมาเหล้าคนหนึ่งวิ่งข้ามถนนแล้วถูกรถชนกระเด็นไปกลางถนน ก่อนที่รถกระบะที่วิ่งมาข้างหลังจะสวนเหยียบหัวเตาบคาที่ " ในใจผมคิดว่า ก็นั่นแหละที่เราเจอ ผมก็เลยกลัวไม่กล้าเหลือบมองไปเกาะกลางถนนแถวนั้นเวลาขับรถผ่านตั้งแต่นั้นมา...

แหล่งข้อมูล : เรื่องเล่าข้างวัด