เขาตายไปแล้ว


เขาตายไปแล้ว

"รถชนเสียชีวิต"


เรื่องนี้ผมจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่ผมไปเจอนั้นเป็นเพื่อนผมเอง ผมขอท้าวความก่อนว่า ผมเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง เหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นที่สถาบันผมนี่แหละครับ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมกำลังศึกษาอยู่ปี 3 ก็พักอยู่ที่หอที่สถาบัน

ผมขอเล่าซักนิดก่อนว่า ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งซึ่งสนิทกันมาก แต่แล้วเมื่อสามเดือนก่อน ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นคือ เพื่อนผมถูกรถชนเสียชีวิตทันทีหน้าสถาบันของผมนี่แหละครับ ผมเสียใจมากกับการที่ต้องเสียเพื่อนรักไป ผมไปช่วยงานศพเพื่อน ทั้งสามวัน ซึ่งก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นคืนสุดท้ายของงาน วันนี้อากาศก็ปกติ ไม่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนแต่อย่างใด


"ไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง"


แต่ทันใดนั้นไฟที่ศาลาที่ตั้งศพก็ดับพรึบทันที โดยที่ไฟบริเวณวัดส่วนอื่นนั้นไม่มีดับเลยทั้งที่ก็ต่อสายอันเดียวกัน แต่ผมก็ไม่คิดอะไร ซักพักก็ติดมา เมื่อเสร็จงานแล้วผมก็ลาพ่อเพื่อนกลับ นั่งรถมาซิครับ กลิ่นตลบอบอวลใช่ว่ามันหอมนะครับ กลิ่นเหม็นสาบมากมันลอยมาติดจมูกผม มันทำให้ผมรู้ทันทีได้อย่างอัตโนมัติเลยครับว่า ใช่แล้ว ใช่เลย ผมก็พยายามทำใจกล้า คิดว่าคงไม่มีอะไรเพื่อนคงเป็นห่วงเราเลยตามมาส่ง ผมก็พูดขึ้นว่า " ไม่เป็นไรเพื่อนไม่ต้องมาส่งหรอก เรากลับได้ไม่ต้องห่วงเราหรอกนะ ขอให้เพื่อนไปดีๆ นะ" แค่นั้นแหละครับกลิ่นก็หายไป

แต่พอมาได้อีกประมาณเดือนได้ ผมจำได้เลยว่าคืนนั้นราว 3 ทุ่มได้ ผมขี่จักรยานจะไปซื้อข้าวจะมาทานที่หอ ก็ขี่จักรยานไปเรื่อยๆ สบายๆ ลมก็เย็นดีแหละครับ แต่พอผ่านไปขี่ไปใกล้จะถึงประตูทางออกอยู่แล้วหล่ะครับ ผมก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งขี่จักรยานมาแต่ไกล เค้ายิ้มมาตลอดทางเห็นฟันขาวๆ


"เค้าตายไปแล้ว"


ของเค้าได้เลยแหละครับ เค้าขี่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก็ยังยิ้มไปตลอดทางจนขี่สวนกับผมไปแล้ว ผมเห็นหน้าของเค้าเต็มๆ จังๆ เลยครับมันบอกไม่ถูกกับอาการตอนนั้นว่ามันรู้สึกเหมือนขนหัว ขนทุกส่วนของร่างกายมันลุกตั้งกันอย่างสามัคคีได้เลย

ก็หน้าที่ผมเห็นนั้นน่ะมันเป็นหน้าที่คุ้นมาก คุ้นจนผมบอกได้เลยว่ามันเป็นคนที่ผมรู้จักแน่นอนครับ ก็คนที่ผมเห็นนั่นน่ะมันเป็นเพื่อนสนิทผมเอง แต่มันจะไม่แปลก ไม่น่าตกใจอะไรเลยนะครับ ถ้าเพื่อนผมมันไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ผมจำได้ว่าเพื่อนผมคนนั้นเขาตายไปแล้ว ผมเสียวหลังเลยครับแต่ทำใจกล้าหันหลังไปมอง แต่ผลออกมาคือ ผมมองไม่เห็นอะไรเลย มันมีแต่ความว่างเปล่าให้ผมเห็นครับ เท่านั้นแหละผมปั่นจักรยานแบบไม่คิดชีวิตและคืนนั้นผมก็ไม่กลับเข้าหอพักที่สถาบันขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าครับ



แหล่งข้อมูล : ป่าช้าหลอน


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์