ยายพุด ดิบก็ ผี สุกก็ ผี

...แล้วเสียงหมาหอน ก็ดังขึ้นมาเฉย ๆ


อ๊อดเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว
พ่อแม่ของอ๊อด เป็นครูในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในภาคอีสาน
บ้านของอ๊อดปลูกอยู่หลังโรงเรียน ซึ่งอยู่ติดกับป่าช้า
แม้ว่าภายหลังเขาจะเติบโต และย้ายไปจากหมู่บ้านนั้น
แต่ยังมีเหตุการณ์หนึ่งซึ่งอ๊อดไม่เคยลืม
ค่ำคืนนั้นเป็นเวลาราว ๆ 4 ทุ่ม ซึ่งในชนบทถือว่าดึกแล้ว
แต่อ๊อดกับพ่อและแม่ยังนั่งคุยกันอยู่ ...แล้วเสียงหมาหอน ก็ดังขึ้นมาเฉย ๆ
เมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นก็มีอีกเสียงรับกัน เป็นทอด ๆ
กลายเป็นว่ามีเสียงหมาหอนเป็นเวลานาน อ๊อดกระเถิบเข้านั่งใกล้ ๆ พ่อ
ถึงตอนนั้นเขาจะอายุแค่ 10 ขวบ แต่เขาก็รู้จักกลัวผีเหมือนกัน
ก็ใครกันเล่าที่บอกว่า เวลาหมาหอนผีจะมา และแล้วเสียงหมาหอนนั้นก็เงียบไป
อ๊อดถอนใจอย่างโล่งอก



"ขอข้าวกินหน่อย" เสียงผู้หญิงแก่แหบและแห้งดังขึ้น ที่ใต้ถุนบ้าน


อ๊อดสะดุ้งเฮือกผวาเข้ากอดพ่อทันที แต่พ่อซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วกลับไม่กลัว
เดินถือตะเกียงลงไป ที่ใต้ถุนบ้านทันที อ๊อดกับแม่เดินตามหลังพ่อไปห่าง ๆ
แน่ละ อ๊อดแอบอยู่ข้างหลังแม่อีกทีเมื่อลงไปถึงข้างล่างก็ต้องผงะ
เพราะภาพที่เห็น
เป็นภาพของผู้หญิงแก่ตัวเล็กบางผอมแห้งเสียจน แทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
เสื้อผ้าที่สวมใส่ขาดรุงรัง กลิ่นสาบสางโชยมาเข้าจมูกอ๊อดอย่างรุนแรง
จนต้องเบือนหน้าหนี
ใบหน้าของหญิงคนนั้นดูดุดันน่ากลัว ดวงตาแดงฉาน
แทบจะเท่าสีเลือด ริมฝีปากห้อยย้อยดูแล้วชวนขนลุก
แม่เห็นว่าเป็นคนแน่ ก็เดินขึ้นไปบนบ้าน เอาข้าวเหนียวกับปลาย่างลงมาให้
โดยไม่พูดอะไร หญิงคนนั้นพอรับข้าวจากมือแม่แล้ว ก็เดินดุ่ม ๆ หายไปในความมืด
โดยมีเสียงหมาหอนรับกันเป็นทอด ๆ
พ่อกับแม่เดินขึ้นบ้าน อ๊อดรีบตามขึ้นไปทันที
คืนนั้นอ๊อดฝันเห็นหญิงแปลกหน้าที่แสนจะน่ากลัวทั้งคืน
รุ่งเช้าเมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นชาวบ้านจับกลุ่มคุยอยู่หน้าบ้าน
อ๊อดเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก็ได้ยินว่ามีเรื่องหญิงเมื่อคืนรวมอยู่ด้วย
ได้ความว่าหญิงคนนั้นชื่อยายพุด ตอนเป็นสาว ๆ แกคลอดลูกแล้วลูกตาย
ผัวแกก็หนีไปกับสาวต่างหมู่บ้าน ยายพุดเสียใจซ้ำซ้อนจนกลายเป็นบ้า
แล้วก็หายตัวไปจากหมู่บ้าน เป็นเวลานาน
เมื่อไม่นานมานี้มีคนพบว่าแกย้อนกลับมา แต่คราวนี้ยายพุดอาศัยป่าช้าเป็นบ้าน
อ๊อดฟังแล้วรับรู้ไว้ในใจ



ยายพุดกำลังดึงแขนขาของศพ ซึ่งขณะนั้นพุพองจากไฟไหม้


จากนั้น ความทรงจำเรื่องยายพุด ก็จางหายไปในเวลาไม่กี่วันต่อมา
กระทั่งวันหนึ่ง ซึ่งอ๊อดจดจำไว้ในใจตลอดมา
ลุงแก่ ๆ ข้างบ้านของอ๊อดป่วยเป็นวัณโรคตาย
ญาติพี่น้องได้นำเอาศพ ไปไว้ในป่าช้าเพื่อเผาตามประเพณี
เมื่อเผาศพเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็พากันกลับเนื่องจากเป็นเวลาเย็นมาก แล้ว
ก็ให้บังเอิญที่อ๊อดกับเพื่อน เข้าไปหาผลไม้ในป่าช้า ซึ่งมีต้นไม้ที่ออกผลกินได้อยู่เยอะพอประมาณ
คงเป็นเพราะเก็บผลไม้กันเพลิน จึงเดินเข้าไปลึกจนถึงที่เผาศพ
แล้วอ๊อดก็แทบหมดสติเมื่อเห็นภาพที่ไม่คิดว่าจะมีในโลกนี้
ยายพุดกำลังดึงแขนขาของศพ ซึ่งขณะนั้นพุพองจากไฟไหม้
เอามาใส่ปากเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย
เลือดสด ๆ ไหลหยดลงมาที่มุมปาก กินไปก็หัวเราะไป

พอเหลือบเห็นอ๊อดกับเพื่อน ก็จ้องมองด้วยตาแดงกล่ำ
ทำท่าว่าจะลุกมาหา อ๊อดรีบคว้าแขนเพื่อนที่ยืนตะลึงอยู่
ทั้งคู่วิ่งเต็มฝีเท้าออกมาจากป่าช้าทันทีเมื่อถึงบ้านอ๊อดรีบเล่าให้พ่อแม่ฟัง
พ่อบอกว่า แกทำอย่างนี้มานานแล้ว ต้องมีคนเฝ้าศพให้ไหม้หมดเสียก่อน
อ๊อดฟังแล้วห่อไหล่ด้วยความขนลุกขนพองปนขยะแขยงตั้งแต่นั้น
เขาไม่เคยย่างก้าวเข้าไปใกล้ป่าช้าอีกเลย

และเมื่อมีใครถามว่าอ๊อดเคยเจอสิ่งที่เขาเรียกกันว่าผี...ไหม
อ๊อดจะตอบอย่างมั่นใจว่าเจอ
เพียงแต่ที่เขาเจอนั้น อ๊อดเรียกว่า...ผีดิบ



ยายพุด ดิบก็ ผี สุกก็ ผี

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์