เปรตแย่งกินของพระ

แม้จะเคยบวชเป็นพระ แม้จะผ่านผ้าเหลืองมาบ้าง


แต่ก็ไม่อาจทำให้น้าเขยของผมรอดพ้นจากความเป็นเปรตไปได้ผมอยู่ที่ตำบลหงาว อำเภอเทิง หนานเสน(ทิดเสน) เคยบวชเป็นพระมาหลายปีและสึกหาลาเพศออกมาแต่งงานด้วยความที่ชีวิตผูกพันกับวัด





เปรตแย่งกินของพระ

หนานเสนจึงรับหน้าที่เป็นมัคทายกประจำวัด


เวลามีงานศพงานแต่งงานหรืองานอะไรก็มักจะได้รับการเชิญไปทำพิธีประจำ งานไหนงานนั้น เป็นต้องเจอแกประจำด้วยความที่เคยบวชเป็นพระ จึงทำให้ท่านชินกับอิริยาบถของความเป็นพระ




ดังนั้นของพระที่โยมถวายมา


ท่านจึงคิดว่าท่านก็มีสิทธิที่จะกินก่อน ก็หยิบมากิน โดยไม่ได้ขอพระก่อน นัยว่าซี้กัน แต่นั่นเป็นความผิดมหันต์ หนานเสนยังคงหยิบของวัดกินโดยไม่ได้บอกพระ หลายปีเข้าๆ จนกระทั่งแกป่วยตายหลังจากหนานเสนตายไปไม่นานเท่าไหร่ ก็ถึงเวลาเข้าพรรษา




คนเฒ่าคนแก่จะมานอนรักษาศีลทุกคืนวันพระเป็นประจำ


แต่คืนวันพระพรรษานี้มันแปลกๆไป ดึกคืนนั้นท่านผู้เฒ่าทั้งหลายต่างตาลีตาเหลือกวิ่งจากวิหาร ขอไปนอนกับพระกันบนกุฏิหลังจากสงบสติอารมณ์ได้




ท่านเจ้าอาวาสถามว่าหนีอะไรกันมา


คนเฒ่าคนแก่ก็บอกว่าตอนนอนอยู่ มีใครไม่รู้มาดึงมุ้ง เขย่ามุ้งจนโยกเยก อยู่ไม่ไหวเพราะโดนกันทุกคน จึงต้องมาหาท่านเจ้าอาวาส คืนนั้นท่านเจ้าอาวาสเลยต้องลงไปจำวัดกับท่านผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งหมด หลังจากวันนั้นทุกวันพระ




มักจะมีคนเจอดีเป็นประจำ


บ้างก็เห็นนั่งบนกำแพงวัด บางทีก็หลังคาโบสถ์ เป็นผีรูปร่างดำ ขมุกขมอมแขนขายาวเก้งก้าง เปล่งเสียงร้องโหยหวน สุดจะทนอีกต่อไป ชาวบ้านจึงมีมติให้พ่อหนานคำ




อาจารย์ประจำหมู่บ้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องผีและพิธีกรรมมาใช้ไม้วัดวาผีดู


ไปๆมาปรากฏว่าเป็นหนานเสน น้าเขยผมเอง หลังจากถวายตานตุงซาววาและเครื่องสังฆภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเป็นการใช้หนี้แทนหนานเสน เหตุการณ์ทั้งหมดก็สงบลง เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่หยิบของพระโดยไม่บอกกล่าว สาธุ.







แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์