ผีปอบดำ

เรื่องนี้ได้รับการถ่ายทอดจาก

ปรมาจารย์ด้านการปราบผีปอบ ท่านคือพ่ออุ๊ยน้อยคำ ยาผัด อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 ตำบลหงาว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

พ่ออุ๊ยน้อยคำ ท่านเล่าปูมหลังให้ฟังว่า

ปู่ของท่านเป็นหมอ ทั้งหมอยาและหมอผี มักจะต้องเดินทางไปช่วยเหลือชาวบ้านประจำ ใครเจ็บใครป่วยก็เรียกท่าน ใครโดนผีเข้าก็เรียกท่าน พ่ออุ๊ยน้อยคำในตอนเด็กจึงต้องติดตามปู่ไปเป็นประจำ

และหลังจากนั้นปู่ก็ถ่ายทอดคาถาบังตาผี(กันผี)และการไล่ผีออกจากร่าง

ปัจจุบันทั่วทั้งอำเภอเทิง

ต่างยกให้พ่ออุ๊ยน้อยคำเป็นหมอผีที่เก่งที่สุด คนไหนที่โดนผีเข้าแล้วไปหาหมอผีอื่น ผีไม่ยอมออกให้มาหาพ่ออุ๊ยน้อยคำ รับรองออก

ผีกะมีสองชนิดคือ

ปอบธรรมดาหรือปอบดำ
ปอบหงอน

พิธีการไล่ผีจะต้องเตรียม

ปูเลยหรือหัวไพล(เอาไว้เสกจิ้มผีปอบ)
เทียนแปดคู่(แทนเทพผู้รักษาทิศทั้งแปด)
ผ้าขาว-ผ้าแดง
พลูหมากข้าวสาร
ไข่เป็ด 5 ฟอง(แทนขันธ์ 5 ของคนป่วย)
ค่ายกครู 32 บาท(แทน 32 อวัยวะในร่างกาย)

พิธีการไล่ผี

หมอผีจะรำลึกถึงคุณของครูบาอาจารย์แล้วว่าคาถาว่า
อมปุ๊กๆ พุทธัง สรณัง ตั๋วยัง ตุ๊ติยัง อมปุ๊กๆ พุทธัง สรณัง ตั๋วหาย (มีในเทป)

หากผีกะไม่ยอมออกให้ใช้ข้าวสารเสกปาไล่

ในบรรดาผีกะที่ไล่ยากที่สุดคือผีกะหงอน เพราะมันอาคมแรง หากไล่ไม่ยอมออกให้เอาไพลเสกคาถาแล้วจิ้มไปตามตัวเบาๆ ถ้าหากถูกผีกะสิงจริงๆ มันจะกรีดร้องโหยหวนเจ็บปวดทรมาน

ให้ขู่ตะคอกมันว่า

ถ้ามึงไม่ยอมออก กูจะฆ่ามึงให้ตาย

ผีกะจะยอมออกไปเอง

สาเหตุที่ผีกะเข้าสิง

1.คนถูกสิงเป็นคนปากเปราะ ชอบด่าชาวบ้านชาวช่อง คนที่มีวิชาจึงส่งผีกะมาเล่นงานเพื่อดับความซ่า

2.คนถูกสิงเคยไปด่าคนที่มีผีกะเค้า(ต้นตระกูลเคยเลี้ยงผีกะ) มันจึงมาสิง

3.ทำให้ผีกะโกรธ เช่น ไปเยี่ยวรดในสถานที่ๆมันสิงอยู่

4.ผีกะอดอยากหิวโหย ในบางทีผีตายโหงที่อยู่นานๆจะกลายเป็นผีกะได้ หากเราจิตอ่อนพอ มันก็จะเข้าสิงเรา

5.ผีกะไม่ชอบหน้าเรา อาจจะเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมา

ลุงน้อยคำแนะนำว่า

ถ้าหากจะไปค้างอ้างแรมที่ไหนในป่า หากไม่แน่ใจว่าที่ตรงนั้นมีผีสิงอยู่หรือไม่ให้ท่องคาถาปิดปากผี ปิดตาผี

อมพะกึ๊ก
อมพะก๊ะ
อมพะงับ

แล้วเอาเท้าเหยียบรูอะไรก็ได้ที่อยู่บนดิน ผีจะมองไม่เห็นเรา.