ผีม้าบ้อง

"60 ปีก่อน"

คงจะลืมไปอีกผีนะครับ" ผีม้าบ้อง " ผีนี้มีจริงหรือไม่ ก็ไม่รู้ได้นะครับเคยได้ยินคุณลุงเล่าให้ฟังสมัยดิฉันยังเป็นเด็กเล็กๆ อยู่เลยยังจำได้อยู่อย่างฝังใจ จะเล่าให้ฟังนะค่ะ ในสมัยอดีตย้อนไปสักประมาณ 60 ปีที่ผ่านมา ขณะนั้นดิฉันยังไม่เกิด คุณลุงยังเป็นเด็กหนุ่มๆอยู่ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ อ. สันกำแพง

จ. เชียงใหม่ ในสมัยนั้นความเจริญยังไปไม่ถึงไฟฟ้าก็คงยังไม่มีใช้ ถนนหนทางก็มีน้อย เวลาไปไหนก็ไปลัด ทางลัดที่ว่านี้ในสมัยก่อนเขาใช้ลัดทางทุ่งนา เช่นจะไปอีกหมู่บ้านหนึ่งมันไกลถ้าจะไปทางถนนมันต้องอ้อมไกลจึงใช้ท้องทุ่งนาเดินลัดผ่านเอา คุณลุงเล่าว่าบ้านของคุณตาอยู่ติดชายทุ่งคือลงบ้านไปก็เป็นที่นาเลย สมัยหนุ่มลุงก็ชอบไปเที่ยวจีบสาว ( แอ๋วสาว ) ตอนกลางคืน ไปติดพันสาวหมู่บ้านอื่น คุณตาเคยเตือนไว้แล้วว่าระวัง ผีม้าบ้องเน้อมันจะมายะหื้อ ตอนนั้นคุณลุงซึ่งอยู่ในวัยรุ่นคึกคะนองก็คงไม่กลัวและคงคิคว่าคุณตาพูดหรอกเอาไว้ให้กลัว เพื่อที่ไม่อยากให้ไปเที่ยวกลางคืน

"เสียงม้าร้อง"

มีอยู่คืนหนึ่งเป็นคืนเดือนหงายสัก 13 ค่ำ คุณลุงก็เตรียมตัวจะออกบ้านมิใยที่คุณตาจะทักท้วงเรื่อง ผีม้าบ้อง เพราะมีคนเขาเจอกันบ่อย และเป็นที่หวาดกลัวของคนย่านนั้น คุณลุงก็ไม่เชื่อดือดึงที่จะไป พอออกไปก็ไปกับพวกเพื่อนๆเป็นกลุ่มหลายคน และก็เดินทางลัดท้องทุ่งนาไปกันเดือนหงายทำให้เดินทางสะดวก พอไปถึงหมู่บ้านสาวก็ต่างคนต่างแยกย้ายเข้าบ้านสาวใครสาวมัน แล้วค่อยนัดเจอกันกี่โมงจะได้กลับพร้อมกัน แต่คืนวันนั้นคุณลุงบอกว่าพูดคุยกับสาวที่คุณลุงจีบอยู่เพลินไปหน่อยเลยอยู่เสียจนดึก พอจะกลับก็ไปเรียกเพื่อนๆตามบ้านสาวคนนั้นคนนี้ ปรากฏว่าเพื่อนๆเขากลับไปกันหมดแล้วโดยที่ไม่ได้รอคุณลุงเลย คุณลุงก็ต้องเดินกลับคนเดียว

ขณะที่ผ่านมาถึงกลางทุ่งนาก็ได้ยินเสียงม้าร้องมาแต่ไกล ซึ่งในขณะนั้นเดือนหงายสว่างคุณลุงก็มองไปรอบท้องทุ่งก็ไม่เห็นมีม้าสักตัว ใจก็เริ่มนึกถึงคำของคุณตาที่เคยบอกไว้เกี่ยวผีม้าบ้อง ขนลุกซ่าเท้าก็เริ่มเร่งขึ้นๆ ไม่ถึงชั่วอึดใจเสียงวิ่งห้อของม้าก็ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา...มีความรู้สึกว่ามันมาอยู่ใกล้ด้านหลัง กึ่งวิ่งกึ่งเดิน พอเหลียวดูแค่นั้นแทบจะ....ช็อก เอาเพราะคุณลุงเห็นเต็มตาเลยว่า ม้ามีตัวเป็นครึ่งคนครึ่งม้าผมยาวใบหน้ายาวเหมือนม้าฟันใหญ่น่ากลัวมาก....สุดจะบรรยาย

"วิ่งไม่คิดชีวิต"

ตอนนี้ไม่นึกคิคอะไรแล้วคุณลุงบอก วิ่งอย่างเดียวคือว่าให้พ้นจากตรงนั้นเป็นดีที่สุด ยิ่งวิ่งก็ยิ่งตาม....มันตามมาติดๆ คุณลุงก็วิ่งหนีอย่างไม่คิคชีวิต เพื่อที่จะไม่ให้มันทัน ( เพราะว่า แม้แต่เงาของมันมาทาบโดนเราก็ทำให้เราจับไข้ได้ ) ในเวลาที่จวนตัวอยู่นั้นคุณลุงเหลือบไปเห็นหัวควายแห้งที่อยู่กลางทุ่งนา ก็ก้มหยิบหัวควายแห้งนั้นเหวี่ยงไปใส่มัน

พอดีกับที่มันหันมาสนใจหัวควายแห้งอันนั้น คุณลุงวิ่งพลางหันไปดูพลางเห็นมันกำลังแทะหัวควายแห้งอยู่ คุณลุงวิ่งมาจนถึงบ้านด้วยความปลอดภัย
คุณลุงบอกว่าถ้าไม่มีหัวควายแห้งช่วยเอาไว้ก็ไมรู้จะเป็นอย่างไร นับแต่นั้นมาคุณลุงก็ไม่เคยไปแอ๋วสาวไกลๆอีกเลย คุณลุงยังบอกอีกว่าคืนไหนที่เดือนหงายคุณลุงชอบออกมานอนนอกชานบ้าน ตอนดึกๆมักได้ยินเสียงม้าวิ่งและเสียงร้องของม้าแว่วมาแต่ไกลจากท้องทุ่งนา
ค่ะเรื่องของผีม้าบ้องก็มีเพียงแค่นี้นะค่ะ หวังว่าอ่านแล้วพินิจพิจารณาเอาเองก็แล้วกันนะครับ

แหล่งข้อมูล : ตำนานผี