กรรมตามสนอง


กรรมตามสนอง

"เธอป่วยอย่างประหลาด ร่างกายทรุดฮวบฮาบโดยไม่รู้ตัว"


เรื่องนี้เกิดขึ้นกับอาจารย์กมลภา พยัคฆนันท์ ข้าราชการบำนาญ ภริยาอดีตเกษตรจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันเธอเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนากรรมฐาน

มองด้วยตาเปล่าก็จะทราบว่า เธอเป็นคนป่วย และมีอาการป่วยไม่น้อย อาการของเธอก็ดูน่าประหลาด เพราะบางครั้งจะมีอาการร่างกายข้างใดข้างหนึ่งทรุดเอียง ฮวบฮาบลงไปกองกับพื้นโดยไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อน และหากเธอฝืนร่างกายไม่ทัน ก็จะล้มลุกคลุกคลานต่อหน้าต่อตาคนมากๆ เป็นที่อับอาย และได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง เธอได้พยายามหาหน ทางรักษาโดยใช้เวลานานกว่า 20 ปี ไปรักษากับหมอทุกประเภททั้งหมอจีน หมอไทย หมอฝรั่ง ใครบอกใครเล่าว่ามีหมอดีที่ ไหน ราคาแพงแสนแพงเท่าใด เธอก็บุกบั่นตะเกียกตะกายไป จนสิ้นเงินสิ้นทองเป็นจำนวนมาก แต่อาการก็ เพียงแค่ทุเลาเบา บางลงไปบ้างเท่านั้น

สุดท้ายก็กลับมาเป็นอีก เธอจึงหันกลับมารักษาด้วยการใช้ธรรมโอสถ แทน นั่นก็คือการทำบุญสร้างกุศลทุกอย่าง ใครมาบอกบุญสร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างสาธารณกุศลต่างๆ เธอจะบริจาคเงินร่วมบุญด้วย แม้กระทั่งงานสังคมสงเคราะห์ต่างๆ เลี้ยงเด็กกำพร้า งานกาชาด เธอก็จะไปร่วมทำงานด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ เหน็ดเหนื่อยเท่าไรไม่เคยท้อ รวมทั้งได้เข้าร่วมทำงานการกุศลทุ่มเทแรงกายและแรงทุนทรัพย์ที่สถาบันแม่ชีไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอปักธงไชย จังหวัดนครราชสีมา เพิ่มอีกแห่งหนึ่ง โดยมุ่งหวังว่าอาการ ป่วยของเธอ(ซึ่งหมอทั้งหลายก็ยังวินิจฉัยโรคไม่ถูกว่าป่วยเป็นโรคอะไร)จะหายเป็นปกติ เพราะทุกข์ทรมานเหลือเกิน



"เมื่อนั่งวิปัสสนาจนเกิดนิมิต เธอจึงเห็นสิ่งที่เคยทำตอนยังเด็ก"


แต่อาการของเธอก็ยังไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเมื่อ 10 ปีที่ แล้ว มีเพื่อนๆครูด้วยกันมาชวนให้เธอเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เธอจึงเข้าปฏิบัติ พอปฏิบัติเพิ่มขึ้นหลายครั้งอย่างตั้งอกตั้งใจและเคร่งครัด เธอก็ก้าวหน้าในทางธรรม ปฏิบัติเพิ่มขึ้นๆ จนเกิดนิมิตขณะเข้าสมาธิ เห็นภาพมด แดงจำนวนมากนับร้อยนับพันตัวพากันเดินเป็นแถวยาว เหยียดอย่างมีระเบียบ และต่อมาบรรดามดแดงเหล่านั้นก็พิกลพิการ ชิ้นส่วนในตัวมดแดงถูกแยกส่วนออกมาทีละส่วนๆ กองรวมกัน ชิ้นส่วนของมดแดงเหล่านั้นยังกระ ดุกกระดิกสั่นริกๆแสดงถึงความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

เมื่อเห็นภาพเช่นนั้น เธอก็นึกถึงเรื่องราวต่างๆสมัยเป็นเด็กๆขึ้นมาได้ว่า บิดาของเธอเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ในจังหวัด จึงมีฐานะดีย้ายไปรับราชการยังจังหวัดต่างๆ อยู่เนืองๆ เธอเป็นลูกสาวที่คุณพ่อคุณแม่รักมากกว่าลูกๆ ทุกคน และมีพี่เลี้ยงประจำตัวคอยดูแลประคบประหงม คนหนึ่ง เธอก็เหมือนเด็กในวัยเดียวกันอีกหลายคน นั่นคือเป็นเด็กฉลาด ช่างซักช่างถาม ถามเสียจนคนถูกถาม รำคาญ ช่างสังเกต ช่างสงสัย และจะต้องพยายามเสาะหาข้อเท็จจริงด้วยตัวเองให้หายสงสัยจนได้ โดยไม่ยอมเชื่อตามคำห้ามของพี่เลี้ยงหรือของผู้ใหญ่ ว่าจะเกิดอันตรายหากไปจับต้องสิ่งที่เป็นอันตรายนั้นๆ เช่นถูกห้ามว่าอย่าเล่นไฟ เพราะไฟจะไหม้มือ เป็นอันตราย เธอจึงต้องพยายามพิสูจน์ด้วยตนเองให้ได้ว่าอันตรายอย่างไร ด้วยการไปจับไฟ พอไฟลวกปวดแสบปวดร้อน เธอจะไม่ร้องไห้ เพราะทำตัวเอง และก็เข็ดไปอีกนาน

มีอยู่วันหนึ่งขณะที่เธอนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ในสวนคนเดียว ทันใดก็เห็นมดแดงจำนวนมาก พากันเดินตาม หัวหน้าเป็นแถวยาวเหยียด เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีตัวใดตัวหนึ่งแตกแถวเลย เธอก็สงสัยว่าเพราะอะไรมดจึง ต้องเดินตามหัวหน้าอย่างเคร่งครัด หัวหน้าพาเลี้ยวซ้ายก็เลี้ยวซ้ายตาม พาเลี้ยวขวาก็เลี้ยวตาม พาหยุดก็หยุดตาม เธอจึงจับตัวหัวหน้าขึ้นมาพินิจพิจารณาหา เหตุผลว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ทำให้บรรดามดทั้งหลายต่างพากันแตกแถว วิ่งพล่านไม่เป็นกระบวน ไม่เป็นระเบียบ เธอเกิดความสงสัยต่อมาทันทีว่าเจ้ามดแดงที่จับอยู่นั้น หาก ไม่มีขาหลังข้างซ้ายจะเดินอย่างไร เมื่อคิดดังนี้เธอจึงเด็ดขาหลังข้างซ้ายมดแดง แล้วปล่อยลงวางบนพื้นดิน มดแดงก็เดินเอียงข้างซ้ายตัวลากไปกับพื้นด้วยความเจ็บ ปวด แล้วเธอก็สงสัยต่อไปว่าถ้าเด็ดสองขาหลังจะเดิน อย่างไร คิดแล้วจึงเด็ดสองขาหลังทิ้ง ทำให้มดแดงต้อง เดินลากส่วนกลางลำตัว และส่วนหัวแถไปกับพื้นด้วยความยากลำบากและทุกข์ทรมาน



"เธอเด็ดส่วนต่างๆ ของมดออกเป็นร้อยๆ ตัว"


ถึงขั้นนี้แล้วเธอก็ยังไม่สิ้นสงสัย จับมดแดงตัวอื่นๆ มาเด็ดสลับร่างกายส่วนต่างๆ โดยเด็ดลำตัว ส่วนขาหลังขาหน้า แล้ววางลงกับพื้นให้มดแดงเดินไถไปตามพื้นดินให้ดูบ้าง เด็ดส่วนคอบ้าง เด็ดครึ่งตัวส่วนหัวทิ้งไปบ้าง เด็ดขาทั้งสองด้านช่วงขาหน้าและขาหลังทิ้งไปบ้าง มดแดงถูกเด็ดในแต่ละวันนับร้อยๆตัว จนรังมดแดงที่ต้นไม้ต้นนั้นไม่เหลือมดแดงให้เด็ดต่อ เธอจึงสั่งให้พี่เลี้ยงปีนต้นไม้ต้นถัดไปเก็บรังมดแดงมาทั้งรัง แล้วนั่งเด็ดต่อด้วยความเพลิดเพลิน เธอใช้เวลานั่งเด็ดตัว มดแดงอยู่หลายวัน จนกระทั่งเกิดความเบื่อจึงเลิกเด็ดไปเอง แล้วก็ลืมเรื่องนี้เสียสนิท จนกระทั่งมาป่วยด้วยโรคที่หาสาเหตุไม่พบ และเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนพบว่าน่าจะมาจากสาเหตุนี้

ปัจจุบันเธอจึงรักษาอาการป่วยนี้ด้วยธรรมโอสถ สร้างบุญสร้างกุศล แผ่เมตตา ขออโหสิกรรมกับมดแดง ทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งที่เธอรู้ เธอจำได้ รวมทั้งที่จำไม่ได้ ไม่รู้ กระทั่งอาการป่วยของเธอทุเลาลงมาก จนเกือบจะหายเป็นปกติ

กรรมนั้นหมายถึงการกระทำ ซึ่งส่วนมากจะเป็นการ กระทำที่ไม่ดี เป็นอกุศลกรรม จึงมีเจ้ากรรมนายเวรคอย ติดตามทวงหนี้ก รม ให้ต้องชดใช้ตามโทษานุโทษ ตามมาตรฐานโทษที่ได้วางเอาไว้ จะซ่อนเร้นหลบหนีไม่ได้ เพราะนี่คือกฎแห่งกรรม และแม้จะสร้างกรรมดีไว้ แต่ก็ไม่สามารถลบล้างกฎแห่งกรรมนั้นๆได้ เป็นแต่เพียงบรรเทาเบาบางลงเท่านั้น



แหล่งข้อมูล : บอร์ดรวมเรื่องผี


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์