กฎแห่งกรรม: ตอน…ไส้ไหลเพราะแมลงปอ

นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งของกฎแห่งกรรมที่ ‘คุณสมทรง' ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวอันเนื่องมาจากกฎแห่งกรรมที่ได้รับอย่างไม่คาดฝัน จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด เธอป่วยเป็นมะเร็งที่ลำไส้ ได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก แพทย์ลงความเห็นว่าเธอเป็นมะเร็งระยะที่สองแล้ว และเพิ่งจะค้นพบจึงรับตัวไว้รักษา

วินาทีที่ได้รับรู้นั้น เธอบอกว่ารู้สึกกลัวตายเป็นอย่างมาก ท้อแท้ สิ้นหวัง สิ้นกำลังใจ นอนร้องไห้อยู่คนเดียว และเมื่อมีใครมาเยี่ยมเธอก็จะกล่าวลาตายกับทุกๆ คน

จนกระทั่งวันหนึ่งวิทยากรสอนวิปัสสนากรรมฐานชื่อว่า ‘คุณกาบแก้ว' มาเยี่ยม และได้พูดให้กำลังใจมากมาย พร้อมทั้งสอนให้เธอนอนกำหนดอิริยาบถ ย่อยทุกขณะจิต ในเวลานั้นแม้จะดูเหมือนสิ้นหวัง แต่เธอก็รู้สึกว่ายังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เธอเชื่อที่คุณกาบแก้วแนะนำทุกอย่างและทำตามอย่างเคร่งครัด
ไม่นานสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้น ไม่มีความรู้สึกหวาดกลัว ความหดหู่สิ้นหวังที่เคยมีมากมายในตอนเริ่มแรกก็ค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไป จิตใจเข้มแข็งขึ้น ไม่ท้อแท้กับชีวิต พร้อมที่จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอันร้ายแรงที่เธอกำลังเผชิญอยู่

เธอใช้เวลานอนรักษาตัวนานร่วมปี ต้องผ่าตัดเอาลำไส้ส่วนที่เสียออกประมาณเมตรเศษ จากนั้นแพทย์ก็ผ่าตัดต่อลำไส้และพยายามยัดกลับเข้าไปเหมือนเดิม ใช้เวลาผ่าตัดถึงห้าครั้งก็ไม่สามารถเอาลำไส้ต่อเข้าไปได้ จึงต้องใช้วิธีมัดลำไส้ส่วนดีเอาใส่ไว้ในถุงพลาสติก ห้อยโทงเทงไว้ข้างนอก แล้วเอาชายเสื้อยาวๆ ปิดไว้ให้ดูดี

แม้ว่าการผ่าตัดเพื่อยัดลำไส้กลับเข้าไปจะไม่เป็นผลก็ตาม แต่เธอก็ไม่ได้หมดกำลังใจ เพราะหลังจากนั้นเธอก็ยังเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ อีกหลายครั้ง และทุกครั้งที่ไปทำงานหรือไปที่ไหนๆ ก็ต้องหอบถุงพลาสติกที่มีไส้ห้อยไปด้วย

ครั้งหนึ่งเธอได้อธิษฐานจิตและขอให้สามารถผ่าตัดเอาลำไส้ยัดกลับเข้าไปได้ ซึ่งก็น่าแปลกที่คราวนี้สามารถผ่าตัดสำเร็จ จนเธอหายจากอาการเจ็บป่วยชั่วระยะเวลาหนึ่ง มีโอกาสได้ใช้ชีวิต รวมถึงเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัดอีกหลายครั้งหลายหน

ต่อจากนั้นไม่นานเธอก็ถ่ายอุจจาระไม่ออก มีอาการก้นเป็นฝีและเนื้องอก ขมิบก้นไม่ได้ และนั่งไม่ได้ จึงได้เข้าไปตรวจที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง แพทย์ลงความเห็นว่าเธอเป็นมะเร็งที่ก้น เวลาที่เธอเจ็บก้นมากๆ จนนั่งแบบปกติไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีนั่งบนยางรถยนต์แทน

เธอเข้ารับการผ่าตัดก้นอีกหลายครั้งจนหายจากโรคร้าย แม้กระนั้นเธอก็ไม่ประมาท หมั่นดูแลรักษาตัวอย่างเต็มที่ โดยรับประทานยาสมุนไพรไทยเป็นประจำ จนกระทั่งขณะนี้ เธอหายป่วยอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่มีร่องรอยของการเป็นคนป่วยใกล้ตายหลงเหลืออยู่เลย เธอมีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ และเมื่อว่างจากการวิปัสสนากรรมฐาน เธอก็จะออกกำลังกายและใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป

จากการพูดคุยสอบถามว่ากรรมอะไรที่เธอต้องมาเจ็บป่วยแทบตายเช่นนี้ เธอเล่าให้ฟังว่า สมัยเมื่อตอนเด็กๆ เธอซุกซนมาก ชอบเล่นอะไรแผลงๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอจับแมลงปอมา นำก้านหญ้าแทงก้นแล้วจับโยนให้มันบิน แมลงปอเมื่อได้รับความเจ็บปวดก็พยายามบินหนี แต่ทว่าไส้ไหลออกมา บินไม่ถนัด เพราะก้านหญ้าเสียบก้นอยู่จึงถลาตกลงมา

คุณสมทรงในวัยเด็กเมื่อเห็นอย่างนั้นก็ชอบอกชอบใจใหญ่ จึงจับแมลงปอมาเสียบก้านหญ้า แล้วบังคับให้มันบินอีกหลายต่อหลายครั้ง เป็นที่สนุกสนาน ซึ่งในยามนั้นเธอไม่รู้หรอกว่าเป็นความสนุกสนานบนความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของคนอื่น

นอกจากนั้นด้วยความที่เธอชอบรับประทานหอยขม เธอจึงโดดลงไปงมในบ่อด้วยตัวเอง พอได้มาก็มาต่อยก้นหอยทั้งเป็นๆ แล้วก็ส่งให้แม่ครัวทำแกงคั่วหอยขมให้รับประทาน ส่วนหอยชนิดอื่นๆ เธอก็ชอบรับประทานเหมือนกัน และก็ต้องทำหอยเองด้วย โดยอ้างว่าสนุกดี

เธอบอกว่าเคราะห์กรรมที่เธอได้ทำมา เธอได้รับผลของมันแล้วในชาตินี้ และถ้าไม่ได้รับการแนะนำจากคุณกาบแก้ว เพื่อนรักที่พยายามประคบประหงมเป็นกำลังใจ ดูแลอย่างใกล้ชิดระหว่างป่วย เธอคงไม่ได้อยู่มาจนถึงวันนี้ เนื่องจากเธออยู่ตัวคนเดียว ไม่มีลูกหลานญาติพี่น้องดูแล

และคุณกาบแก้วนี่เองที่แนะนำ และให้อธิษฐานจิตว่าถ้าหายป่วยจะช่วยเผยแพร่สอนวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อที่เจ้ากรรมนายเวรจะลดความอาฆาตมาดร้ายลงบ้าง ดังนั้นเมื่อเธอรอดชีวิตมาได้ พอเกษียณอายุราชการก็หันมาเป็นวิทยากรสอนวิปัสสนากรรมฐานตามที่ได้อธิษฐานจิตไว้ตลอดมา จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว

นี่คือกฎแห่งกรรม ที่ไม่ว่ากรรมดี หรือกรรมชั่ว เมื่อมีเหตุก็ย่อมมีผลไปตามกรรมนั้นๆ เสมือนหนึ่งปลูกมะม่วงก็ย่อมได้รับผลมะม่วง จะได้รับผลอื่นๆ หาได้ไม่ จึงเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง อย่าทำผิด ทำชั่ว สร้างบาปซ้ำซาก อย่าประมาทลืมตัว หมั่นสร้างกรรมดีไว้เถิด แล้วจะได้รับแต่สิ่งดีๆ สนองตอบเป็นแน่แท้

เครดิตแหล่งข้อมูล : klangsayong