ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!

11 สิงหาคม เมื่อปี พ.ศ. 2518 วันนั้นเองเป็นวันที่ฝนตกหนัก มีลมกรรโชกเเรงทั้งวัน เวลาประมาณ 19.00 น. จู่ก็มีเสียงโครมดังสนั่นทั่วบริเวณ ชาวบ้านต่างพากันตกใจ ร้องไห้และร้องตะโกน "พระธาตุพนมล้มเเล้ว" วันนี้ก็ถือเป็นวันที่ครบรอบ 42 ปี วันที่พระธาตุได้ล้มลง

เหตุการณ์พระธาตุพนมล้ม เกิดจากอาการพังทลายไม่ได้ทรุดที่ฐาน หากเริ่มยอดที่เป็นน้ำหนัก ในเเนวดิ่งที่หนักมากดคอบัวฐานชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ให้บิออกเป็นเเนวฉีกลึกลงไปในเจดีย์ เพราะอิฐเปียกยุ่ยจากฝนตกติดต่อกันอย่างงหนัก ต่อจากนั้นอิฐผนังที่ยุ่ยอยู่เเล้วก็ค่อยๆ ทลายลงมาเป็นแถบๆ ยอดเจดีย์กดพุ่งลงมาตามเเนวดิ่งหักลงเป็นท่อนๆ องค์พระธาตุได้ล้มฟาดลงมาทาทิศตะวันออกแตกหักออกเป็นท่อน มีลักษณะเป็น 3 ตอน คือ

ตอนที่ 1 คือฐานชั้นล่างที่ก่อด้วยอิฐแดงจำหลักลวดลายสูง 8 เมตร คือดอนที่เก่าที่สุดสร้างด้วยอิฐเรียงสอด้วยวัตถุเหนียวแตกทับตัวเอง หลุดร่วงและล้มเป็นกองเศษอิฐแตกกระจายออกทั้ง 4 ด้าน
พูนขึ้นเป็นกองอิฐขนาดใหญ่

ตอนที่ 2 ระหว่างเรือนธาตุชั้นที่ 2 กับฐานบัลลังก์เป็นส่วนที่ได้รับการบูรณะในภายหลังแตกออกเป็น 2 ท่อน ท่อนล่างละเอียดหมด ท่อนบนยังดีอยู่ ล้มกองไปตามทางทิศตะวันออก

ตอนที่ 3 คือส่วนยอดที่สร้างครอบยอดเดิมไว้เมื่อครั้ง พ.ศ. 2483 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กยาวประมาณ 20 เมตร (ความสูงใหญ่ 10 เมตร ระยะของความสูงเดิมจากฐานบัลลังก์ขึ้นไป) หักล้มไปทางทิศตะวันออก ทับศาลาการเปรียญหรือโรงธรรมสภาแหลกละเอียด และหอพระแก้วราบทะลายลงไปทั้งสองหลังเฉพาะหอพระแก้วเหลือแต่เพียงมุขด้านหน้าไว้เท่านั้น ส่วนฉัตรที่ทำด้วยทองคำสวมยอดพระธาตุนั้น เอนปะทะพิงอยู่กับผนังหอพระแก้ว ความเสียหายของฉัตรบุบสลายเพียงเล็กน้อย

ความเสียหายเนื่องจากพระธาตุพนมล้ม มีดังนี้

1. กำแพงแก้วรอบองค์พระธาตุพนมชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2
2. หอข้าวพระทรงปราสาทยอดมณฑป ซึ่งสร้างในสมัยเจ้าพระยานครหลวงพิชิตทศทิศราชธานีศรีโคตรบูรหลวง
บูรณะพระธาตุพนมเมื่อ พ.ศ. 2153
3. ศาลาการเปรียญหรือโรงธรรมสภาสร้างเมื่อ พ.ศ. 2466
4. วิหารหอพระแก้ว หรือวิหารหลวง แรกสร้างในสมัยพระเจ้าโพธิสารได้บูรณะพระธาตุพนม เมื่อราว พ.ศ. 2073
5. หอพระด้านทิศเหนือและทิศใต้

ส่วนพระอุโบสถซึ่งอยู่ด้านทิศใต้ของหอพระแก้ว รอดพ้นอันตรายไปได้อย่างหวุดหวิด
เพราะอาคารทั้งสองสร้างอยู่ใกล้ชิดกันมาก (ระยะห่างเพียง 5 เมตรเท่านั้น)

จากการศึกษาของคณะอนุกรรมการ

เพื่อรักษาสภาพเดิมขององค์พระธาตุพนม และบริษัทวิศวกรรมที่เข้ามาศึกษาหาสาเหตุภัยพิบัติครั้งนี้
ได้ตั้งสมมุติฐานไว้ดังนี้คือ

1. ฐานรากขององค์พระธาตุทรุดตัวไม่เท่ากัน ทำให้อาคารเสียการทรงตัว
2. วัสดุก่อสร้างซึ่งสร้างมานาน เป็นอิฐบางส่วนเสื่อมสภาพไม่สามารถรับน้ำหนักดีเท่าด้านอื่น
ทำให้เสียศูนย์ จึงล้มพังทลาย
3. เกิดจากแรงกดน้ำหนักภายในของวัสดุในองค์พระธาตุพนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความชื้น
จนผนังอิฐบางส่วนทนรับน้ำหนักไม่ไหว แตกร้าวล้มในที่สุด

จากการศึกษาของบริษัทวิศวกรรม

ได้ขุดศึกษาชั้นดินลงมาพบชั้นกรวดในระดับความลึก 20 เมตร ซึ่งจัดว่าเป็นชั้นรากฐานที่ดีมาก
และไม่มีการทรุดตัวของชั้นดินโดยรอบเลย ประเด็นในข้อที่ 1 จึงตกไป

ส่วนในข้อที่ 2 และ 3 นั้น มีเค้าความเจริญอยู่มาก แต่ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในกรณีทั่วๆ ไปเป็นพฤติกรรมต่อเนื่องที่สร้างสมติดต่อกันมาไม่น้อยกว่าสามสิบปี กล่าวคือ

เมื่อมีการต่อยอดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ ในปี พ.ศ. 2483-2484 นั้น
ไม่มีการเสริมความแข็งแรงฐานเรือนธาตุทั้งสองชั้นใหม่ ทั้งที่ฐานทั้งสองต้องแบกน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล ความแข็งแรงมั่นคง เท่าที่มีอยู่ได้กลับเป็นความรอบคอบของท่านราชครูหลวงโพนสะเม็กการต่อยอดครั้งนั้นได้อัดอิฐดินภายในโพรงอาคารเดิมจนทึบตันรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และลำพังอิฐก่อสร้างอาคารในส่วนที่ดีอยู่นั้น (อยู่ในช่วงประมาณ พ.ศ. 1300-1400) มีความแข็งแรงเกือบเท่าคอนกรีต

ความแข็งแรงทั้งหมดนี้จึงแยกน้ำหนักของยอดอาคารองค์พระธาตุได้เป็นอย่างดียิ่ง ต่อเมื่อมีการต่อยอดเสริมขึ้นใหม่นั้นเปิดช่องระบายอากาศทุกด้าน ช่องเหล่านี้เป็นทางให้น้ำฝนสาดเข้าไปได้แต่ไม่ได้เปิดทางระบายน้ำไว้ เมื่อน้ำเข้าไปช่องเหล่านี้ก็จะไหลไปกองอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งที่ไม่ได้ระดับน้ำเหล่านี้ค่อย ๆ ซึมเซาะอิฐให้เสื่อมสภาพไปอย่างช้า ๆ จนฐานรากไม่สามารถรับน้ำหนักท่อนบนไหวพังทลายลงมาทั้งองค์


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!


ยังจำได้ไหม!! 11 สิงหาคม วันครบรอบ พระธาตุพนมล้ม ภาพประวัติศาสตร์ที่หาดูไม่ได้เเล้ว!!

ขอบคุณข้อมูล ที่มา http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=9235.415

ขอบคุณภาพจาก
http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=9235.50
http://www.oknation.net/, http://f.ptcdn.info/
http://www.suebpong.rmutl.ac.th/ , http://webiz.co.th/
http://i.ytimg.com/ ,http://www.thatphanom.com/



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์