ชาวเน็ตอ้างเจอแล้วผีจากคำทำนาย 100 ปีโรคระบาดของหมอบี
หน้าแรกTeeNee เรื่องลึกลับ Xfile ตำนาน เรื่องเล่าจากโบราณ ชาวเน็ตอ้างเจอแล้วผีจากคำทำนาย 100 ปีโรคระบาดของหมอบี
หมอบี เผยคำทำนาย 100 ปีโรคระบาดเกิดขึ้นจริง ชี้พีคสุด 22 ส.ค.นี้พร้อมบอกจุดสิ้นสุด
กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" นำมาเล่าสู่กันฟังผ่านรายการ "อังคารคลุมโปง" ทาง 94 อีเอฟเอ็ม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยในครั้งนี้เป็นเรื่องราวของตำนานคำทำนายของผีในวังแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ระบุไว้ว่าในอีก 100 ปีข้างหน้านับจากในอดีต จะเกิดโรคระบาดรุนแรงขึ้นซึ่งตรงกับเดือนเมษายน ปี 2563 ที่ผ่านมาที่โควิด-19 เริ่มระบาดในประเทศไทยพอดิบพอดี นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่าโรคระบาดนั้นจะระบาดรุนแรงสู่จุดสูงสุดในวันที่ 22 สิงหาคม ก่อนจะสิ้นสุดลงในช่วง เมษายน 2565
โดยหมอบีระบุว่า "ผมก็รับฟังมา แต่มันดันมาเชื่อมโยงกับช่วงโควิดตอนนี้ อาจจะออกชื่อเป๊ะๆ ไม่ได้นะครับ แต่ถ้าใครไปหาข้อมูลเพิ่มเติมดู ก็น่าจะเจอกัน เป็นเรื่องของพระตำหนักหนึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ นี่แหละ เป็นวังของพระองค์หนึ่ง แต่ถ้านับเวลา ความประหลาดมันอยู่ที่เวลานี่แหละ ซึ่งพระตำหนักนี้ถูกย้ายออกมาจากในวังหลวง และออกมาตั้งในอีกสถานที่หนึ่ง เพื่อให้ท่านผู้หนึ่งมาประทับและวางแผนจะสร้างพระราชวังขึ้นมาอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งขออนุญาตใช้คำสามัญชน คือพระองค์จะใช้ในการมาตัดผม อาบน้ำ ล้างตัว และพระตำหนักนี้อยู่ริมน้ำ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังอยู่นะครับ และก็เป็นเรื่องราวของผีท่านหนึ่งที่จะดูแล รักษาพระองค์ท่าน ตลอด
มันก็มีเรื่องราวแปลกๆ ตามเรื่องเล่านะ เพราะจริงเท็จเราอ้างอิงอะไรไม่ได้เลย ซึ่งการย้ายมาสร้างตำหนักนี้เวลามันประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย. 2463 ซึ่งมันตรงกับช่วงเวลาที่โควิด-19 แพร่อย่างเป็นทางการในปี 2563 ตามตำนานที่ได้ยินมาคือผีท่านนั้นที่ดูแลพระองค์อยู่ ให้เล่าให้ฟังว่าอีก 100 ปีข้างหน้า 2563 ในช่วงเวลาเดียวกันจะเกิดเรื่องโรคระบาดรุนแรง รักษายาก คร่าชีวิตคนไปมากมาย จะไปพีคที่สุดคือ สูงที่สุดคือ 22 ส.ค. 2564 เขาว่าอย่างนั้น เพราะตามบันทึกวันที่พระองค์เสด็จมาประทับคือ ในวันที่ 22 ส.ค. 2463 ก็ 100 ปีบวกไปอีก 1 ปี ก็จะพีคที่สุดในประเทศไทย ตามที่เขาว่าแบบนั้นนะ พีคทุกอย่าง มันต้องใช้เวลาไปอีกในระดับหนึ่ง และดีขึ้นในช่วง เม.ย. 2565
มันแปลกดีที่ผีตนนี้มาบอกว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และได้สั่งให้เทวดาตนหนึ่งคุ้มครองประเทศ หลังจากผีตนนี้จะไม่อยู่แล้ว พอครบ 100 ปีก็ให้เทวดาตนนี้มาช่วยปัดเป่า ตามตำนานที่เขาว่าแบบนั้นนะครับ เพียงอีกประมาณเดือนนึง เทวดาตนนี้จะมา และพำนักอยู่ที่พระตำหนักนี้ และจากนั้นค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งเขาบอกด้วยนะว่าวันที่ 8 เม.ย. 2565 ซึ่งจะเชื่อได้น้อยแค่ไหน อันนี้ผมไม่คอนเฟิร์ม เพราะเทวดาจริงๆ อาจจะหมายถึงวัคซีนหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับ ในบันทึกบอกไว้แค่นี้ เพราะผีท่านนี้ก็ได้แสดงตามพระองค์ท่านไป แต่ส่วนของบันทึกผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนบันทึกเอาไว้ ซึ่งเชื่อได้ขนาดไหนก็ไม่รู้ มันเป็นสิ่งที่ผ่านตาเรามา เราก็เก็บมาเล่าให้ฟัง
ชมคลิป
VVVVVVVV
V
V
V
VV
V
V
VV
V
V
VVVVV
+++++++++
ทั้งนี้ชาวเน็ตต่างไปค้นหาข้อมูลและนำมาเปิดเผยต่อๆ กันว่าผีตนที่หมอบีกล่าวถึงอาจจะเป็น "ท้าวหิรัญพนาสูร(ฮู)" ซึ่งเป็นเทพารักษ์ประจำรัชกาลที่ 6 ซึ่งศาลของท่านตั้งอยู่ที่พระราชวังพญาไทสำหรับ ท้าวหิรัญพนาสูร หรือ ท้าวหิรัญฮู เป็นเทพที่ตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิ (ประพฤติในทางที่ดีงาม) คอยติดตามป้องกันภัยอันตรายไม่ให้มากล้ำกรายรัชกาลที่ 6 และข้าราชบริพารที่อารักขา มีผู้เคยเห็นร่างท่านเป็นยักษ์ดุร้ายน่าเกรงขาม แต่ในยามปกติเล่ากันว่า ท่านท้าวหิรัญฮู นั้นเป็นเทพที่มีรูปงามเลยทีเดียว รัชกาลที่ 6 เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่ทรงสื่อกับบรรดา "โอปปาติกะ" หรือ "วิญญาณ" ได้บ่อยครั้ง ซึ่งผู้เขียนเคยนำมาเล่าให้ฟังแล้วว่าครั้งหนึ่ง พระองค์ท่านทอดพระเนตรเห็นผู้ที่ตายแล้วมาหา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาจึงดูคล้ายกับว่าพระองค์ทรงมี "สัมผัสที่ 6" ในทางเร้นลับไม่น้อย
ในเรื่องของ "ท้าวหิรัญพนาสูร" เทพผู้อารักขารัชกาลที่ 6 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสมัย ร.ศ. 126 ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเมืองลพบุรี เมื่อครั้งที่ยังไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ ในคืนวันเสด็จประพาสคืนหนึ่ง มีผู้ตามเสด็จท่านหนึ่งได้มีนิมิตฝันประหลาดเห็นชายหุ่นล่ำสันใหญ่โตมาหา บอกว่าชื่อ "หิรัญ" เป็นอสูรชาวป่า ที่มานี่จะมาบอกว่า ต่อแต่นี้เขาจะคอยตามเสด็จล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ไม่ว่าจะประทับอยู่ที่ใด เขาจะคอยดูแลและระวังภัยไม่ให้เกิดขึ้นกับพระองค์ท่านได้ เมื่อรัชกาลที่ 6 ทรงทราบเหตุการณ์ในฝันจึงทรงมีพระราชดำรัสให้จุดธูปเทียน จัดเตรียมอาหารเซ่นสังเวย "ท้าวหิรัญฮู" ในป่าเมืองลพบุรีนั้นทันที และทุกครั้งไม่ว่าจะเสด็จฯ ไปแห่งหนใด ในเวลาค่ำถึงยามเสวย พระองค์จะมีพระราชดำรัสให้จัดอาหารเซ่นสังเวย "ท้าวหิรัญฮู" ทุกครั้งไป
และเมื่อรัชกาลที่ 6 เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ก็ยังทรงระลึกถึง "ท้าวหิรัญฮู" อยู่เสมอ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหลวงมาหล่อรูปท้าวหิรัญฮูด้วยทองสัมฤทธิ์ จากนั้นก็โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารจัดเครื่องเซ่นสังเวย และเชิญ "ท้าวหิรัญฮู" เข้าสถิตในรูปหล่อนั้น พระราชนามให้ว่า "ท้าวหิรัญพนาสูร" แต่งองค์ทรงเครื่องสวมชฎาแบบโบราณ มีไม้เท้าเป็นเครื่องประดับยศ
มหาดเล็กคนสนิทของรัชกาลที่ 6 ผู้หนึ่ง คือ "จมื่นเทพดรุณทร" ท่านผู้นี้ได้เล่าให้ข้าราชบริพารฟังต่อ ๆ กันมาว่า "ในหลวง (ร.6) ทรงเรียกท้าวหิรัญพนาสูรว่า "ตาหิรัญฮู" ซึ่งคนในวังสมัย ร.6 จะรู้ถึงกิตติศัพท์ของ "ตาหิรัญฮู" ดีว่าสำแดงเดชและอภินิหารอย่างไรบ้าง จึงเล่ากันปากต่อปากเรื่อยมา อย่างเรื่องแรกเกิดขึ้นเมื่อรัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างรูปท้าวหิรัญพนาสูร โดยให้พระยาอาทรธรศิลป์ (ม.ล.ช่วง กุญชร) เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีมิสเตอร์แกลเลตตี นายช่างชาวอิตาเลี่ยนที่มาทำงานในกรมศิลปากรเป็นผู้หล่อ เมื่อหล่อเสร็จก็จะยกขึ้นตั้งบนฐานในพระราชวังพญาไท มิสเตอร์แกลเลตตีก็เอาเชือกผูกคอท้าวหิรัญฮูชักรอกขึ้นไป เสร็จแล้วมิสเตอร์แกลเลตตีก็ป่วยกะทันหันทำงานไม่ได้ เพราะคอเคล็ดโดยไม่รู้สาเหตุ พอพระยาอาทรไปเยี่ยม ท่านพอจะรู้สาเหตุจึงบอกว่าคงเป็นเพราะเอาเชือกไปผูกคอรูปหล่อท้าวหิรัญฮูให้เอาดอกไม้ ธูป เทียนไปขอขมาเสีย เมื่อนายช่างชาวอิตาเลี่ยนทำตามคอที่เคล็ดจึงกลับมาเป็นปกติอย่างอัศจรรย์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น