คำสาบแช่งจากผีตายโหง...เรื่องเล่าที่ฝังในหัวไม่เคยลืม
มีหนุ่มต่างอำเภอคนหนึ่ง มาจีบน้าน้อย ชื่อ น้าพุด น้าน้อยก็มีใจให้ จีบกันได้สักพัก น้าพุดบอกกับ ยายว่าจะให้แม่มาขอน้าน้อย ยายก็ถามความสมัครใจลูกสาว น้าน้อยบอกยายว่า ชอบน้า พุด อยู่เหมือนกัน ข่าวลือสะพัดรวดเร็ว เหมือนดั่งลมพัดขรี้ ก่อนวันที่น้าพุด จะมาตกลงค่าสินสอด คืนนั้นน้าอ่วม ได้มาหาน้าน้อย ที่บ้าน เรียกอยู่นาน พอควร
ลุง...สวดคาถาสักพัก อมน้ำมนต์ พ่นลงบนร่างน้อยๆ เสียงร้อง จ้า ตามมาทันที ขรี้แตก เยี่ยวราด ตรงนั้นเลย พอกลับมาบ้านก็เหมือนเด็กปกติ ตั้งแต่นั้น ลุง...ก็ได้บอกว่าน้องคือลูกสาว ของลุง (น้องจะได้แข็งแรง อยู่เย็นเป็นสุข) แต่ก่อน คนเก่าแก่โบราณ เรียกโรคนี้ว่า "กำเริบ"
คืนนั้นน้าน้อย ฝันเห็นน้า อ่วม มายืนอยู่หน้าบ้าน เหมือนเข้า มาในบ้านไม่ได้ จ้องมองมาที่น้าน้อย ตาเขม็ง แล้วอยู่ๆน้าอ่วมก็ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวมาก แล้วอยู่ๆคอก็ หัก พับลงตาถลนออก แต่ปากยังยิ้มอยู่ น้าน้อยสดุ้งตื่น และคืนนั้นก็ไม่กล้านอนต่อ เช้ามาน้า มาเล่าให้แม่เราฟัง แม่เราปลอบน้องว่าไม่มีอะไรหรอก มันก็แค่ ฝัน สายมาหน่อยประมาณ 10โมงกว่าๆ น้องวิ่งมาเรียก
แม่เราที่บ้านบอกว่า น้าน้อยปวดท้อง แม่รีบวิ่งไป ภาพที่เเห็นคือ น้านั่ง อยู่พื้นห้องน้ำ เลือดท่วมขา เป็นกองๆ เหม็นกลิ่นคราวเลือดคละคลุ้ง แม่รีบพาน้าส่งโรงบาล สรุปเด็กเสียชีวิตแล้วค่ะ หมอถามว่า ล้ม หรือเปล่า น้าบอกไม่ได้ล้ม ปวดท้องเข้าห้องน้ำ พอเดินเข้าไปยังไม่ถึง โถส้วมเลย เลือดก็ไหลออกมาไม่หยุด หมอตรวจร่างกาย มดลูกก็ปกติ หมอให้พักฟื้น และให้ยาบำรุงมากิน ปีต่อมา น้าน้อย ท้องอีกรอบ เหมือนหนังม้วนเก่าเลยค่ะกำลังจะเข้า เดือนที่4 แท้งอีก เหมือนว่าพอจะมีเรื่อง ร้ายๆ เกิดกับตัวเอง น้าน้อยต้องฝันเห็นน้าอ่วมทุกๆครั้ง จนพอเราเริ่มโต จำความได้ และรู้เรื่องบ้าง ตอนนั้นเรา อยู่ประมาณ ป.6 น้าน้อยมาที่บ้านเราตั้งแต่เช้า ร้องไห้มาด้วยเราก็ งงๆ คือตอนนั้นเราไม่รู้ว่าน้าท้องอีก(3ปี ซ้อน) น้ามีความหวัง เพราะ อยากมีลูกอีก ที่ร้องไห้มาหาแม่ตั้งแต่เช้ามือ เพราะเมื่อคืนฝัน ว่าน้าอ่วม มายืนหัวเราะ ที่หน้าบ้าน(เหมือนเคย) แม่รีบพาน้าน้อย มาหายายในหมู่บ้าน ยายเอาที่นอนมาปู แล้วให้น้าน้อยนอนอยู่เฉย ยายกับแม่ นั่งเฝ้าอยู่ตลอด กลัวว่าจะเกิด อะไรไม่ดีกับน้าอีก แต่แล้วก็เป็นอย่างที่ทุกคนคิด ครั้งนี้น้าไม่ได้ปวดท้องแต่อยู่ดีๆ เลือดก็ไหลออกมาเอง วินาทีนั้นยายกับแม่ต่างมองหน้ากัน ยายตะโกนให้น้าพุด รีบไปเหมารถ พาน้าน้อยส่งโรงพยาบาล สรุปวันนั้นก็ไปไม่ทันอีกตามเคย (บ้านเรากับโรงพยาบาลห่างกัน ประมาณ30กิโลเมตร) น้าน้อยร่ำไห้ หมดหวังแล้ว ด่าสาดเสีย เทเสีย "ต้องการอะไร ทำไมต้องจองเวร จองกรรมกู" ต่อมาน้าให้หมอ ฉีดยาคุมไว้เลย แก บอกว่าจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจอีก ผ่านมาอีกหลายปี ตอนนั้นเราอายุ14ปี น้องลูกน้าน้อย อายุ13ปี มีโรงงานจะมาเปิดแถวบ้าน น้าพุด โรงงานกว้านซื้อที่ดินแถวนั้นเกือบ100ไร่ และ ที่ของน้า พุด ก็ติดไปด้วย ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าน้าพุด มีที่อยู่กี่ไร่
ในปีเดียวกัน เงินก้อน ที่ขายที่ได้ น้าพุด เอามาซื้อรถไถ แบบเดินตาม จอดไว้ไต้ถุนบ้าน "หาย" ยายเริ่มจะไม่ไหว พาน้าน้อย กับน้า พุด ไปดูดวงกับพระ พระท่านบอกแค่ว่า "เขายังไม่ได้ ไปไหนนะโยม" "มันยังไม่ถึงฆาตของเขา เขายังไปผุดไปเกิดไม่ได้ เขาจึงยังคงวนเวียนไม่ไปไหน" จริงๆแล้ว ยายเองก็ไม่รู้ ว่าจะแก้ยังไง เพราะเราเองนับถือหมอธรรม ไม่ใช่หมอผี แค่รู้ว่าเขาเข้าใกล้เรา ไม่ได้ ทำร้ายเราซึ่งๆหน้า ไม่ได้ ก็ดีถมเถแล้ว จริงๆแล้วเหมือนกับรู้แค่ว่าเขายังวนเวียนไม่ไปไหน(นานๆมาที พร้อมเหตุร้าย)
2ปีต่อมา น้องลูกสาวคนเดียว ของน้าน้อย หนีตามผู้ชาย ฝ่ายเราก็ไปลากผู้ชายมารับผิดชอบ ตกลงว่าเขาจะมาแต่ง พอถึงวันนัดฝ่ายชายไม่มา อายชาวบ้านเขา2เท่าเลย น้าน้อยกีดกันน้องกับผู้ชายคนนั้น
น้าน้อยพาน้องหนีมา กทม อายที่จะยู่จุดๆนั้น พากันมาค้าขายทั้งครอบครัว อยู่ได้สักพัก น้องก็แอบหนีไปหาผู้ชายคนนั้น อีก เริ่มก้าวยุคที่มีมือถือ ทุกๆอย่างจึงดูง่ายไปหมด น้าน้อย ฝืน ลูกสาวไม่ได้ จึงยอมให้ฝ่าย ชาย มาอยู่กินกับลูกสาว โดยที่ไม่ได้ ตกแต่ง ตามประเพณี น้า พุด รับไม่ได้ เกลียดขี้หน้าลูกเขย และพ่อแม่ฝ่ายชาย จึงขอเลิกกับน้าน้อย ต่างคนต่างอยู่ น้าน้อยกับน้อง ช่วยกันค้าขาย เหมือนจะดีขึ้นใช่ไหมคะ แต่เปล่าเลย ปี2554 น้อง ท้อง เป็นธรรมดา มีผัวก็ต้องท้องได้ น้องยังออกไปค้าขายปกติ น้าน้อย เดินทาง กลับบ้านเกิด เพื่อมาขายบ้าน อ้างกับยายว่าบ้านหลังนี้มีอะไร แปลกๆ (แปลกจริงๆ) ยายก็ไม่ขวางยอมให้ขาย อยู่บ้าน 2-3วัน น้าก็กลับ กทม นั่งรถทัวกลับค่ะ คืนนั้นขณะ ที่หลับ อยู่บนรถ น้าน้อยฝันว่า
คนที่นั่งข้างๆคือ น้าอ่วม นั่งหันหน้ามาทางน้าน้อย ตลอดเวลาหลาย ปีที่เคยฝัน เห็นเขาจะไม่เคยพูดเลย.......แต่คืนนี้บนรถทัว......."เมิง หนี กู ไม่ พ้น หรอก" น้าน้อยสะดุ้ง เฮือก จ้องคนที่นั่ง ข้างๆ ตาไม่กระพริบ.......คิดในใจไม่ใช่แล้ว น้ารีบโทร หายาย กลางดึกคืนนั้นเลย ทุกๆคนพอรู้ก็ต่าง ตกใจ คนที่น่าห่วงที่สุด ตอนนี้ คือ"น้อง" อย่างที่ทุกๆคนคิดไว้เลยค่ะ สายๆของวันต่อมาอยู่ๆ น้องเกิดปวดท้อง แฟนน้อง พาไปหมอที่ศิริราช หมอฉีดยา กันแท้ง และคอยดูอาการเป็นระยะๆ ยื้อได้ค่อน วัน เย็นของวันนั้น หมอบอกว่า หัวใจเด็กเต้น อ่อนมากๆ โอกาส รอดแทบไม่มี ที่ยั้งยื้อไว้ได้ ขนาดนี้เพราะมาถึงมือหมอเร็ว ทันท่วงที "หมอ เอาเด็กออก และขูดมดลูก"เรียบร้อย
2556 น้อง ท้องอีกรอบ ยายไปวัดป่าประจำหมู่บ้าน บนบาล ว่าถ้าหลาน คนนี้เกิดมาปลอดภัย แข็งแรง สมบูรณ์ ยายจะมาบวชชี แก้ บน3เดือน สรุปว่าได้เลี้ยงค่ะ ยายก็ไปแก้ บน ตามระเบียบ ส่วนน้าน้อย ตอนนี้ ชีวิตเหมือน เดินถอยหลัง ทีละก้าวๆ ติดหนี้รายวัน ที่บ้านนอก กลับบ้านก็ไม่ได้ กลัวเจ้าหนี้ฆ่าทิ้ง แรกๆ แม่เรากับน้าๆก็ช่วย นะคะ แต่หลังๆนี่เริ่มไม่ไหว เหมือนได้ใจว่าเดี๋ยวพี่น้อง ก็ต้องยื่นมือเข้าช่วย
ปี 2557 น้าน้อย ทะเลาะ กับลูกเขย อยากจะให้ลูกช่วยใช้หนี้ ที่ตัวเองก่อ ลูกเขยแกจึงพาน้องหนี ไปตั้งหลักปักฐาน ที่ จ.อื่น โดยที่น้องเอง ก็เลือกผัว ไม่สนใจว่าคนเป็น แม่จะอยู่กินยังไง คือทิ้งไปเลย ไม่ติดต่อ ไม่มาหา คงเพราะน้าน้อย ไม่มี มรดก ตกถึงมือลูก.....เค้าเลยไม่คิดจะเลี้ยงดู
ตอนนี้น้าน้อย ตัวคนเดียว หันหน้าไปทางไหน ก็มืดไปหมด ส่วน จขกท เองก็แอบช่วยบ้าง เวลาที่แก ไม่มีจะกิน (พ่อเราห้ามยุ่งกับน้าน้อยค่ะ เพราะไปอยู่ที่ไหน เดือดร้อนที่นั่น ต้องมีเรื่องให้ทุกข์ อก ทุกข์ใจตลอด) เรื่องราว เล่ามาจนถึงปัจจุบัน แล้วค่ะ ไม่เห็นหน้ากลัวเลย เนาะ สิ่งที่มองไม่เห็น สัมผัส ไม่ได้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะคะ บางทีน้าอ่วม อาจจะรอน้าน้อยอยู่ก็ได้ หมู่บ้าน เรา ยังมีอีกเรื่อง ที่ดังไป ทั่ว อำเภอ คือเรื่อง"กระสือ" ค่ะ ไว้ว่างๆเราจะมาเล่าอีกนะคะ
ขอบคุณที่อ่าน มาถึงบรรทัดนี้นะคะ สิ่งที่เรากลัว ที่สุดคือ กลุ่มคนที่ไปตีข้าว12คนในคืนนั้น อาจจะรู้ว่าเราเป็นใคร ถ้าเรื่องถึงหูยายเราอาจจะโดน ยาย เนรเทศ ก็เป็นได้.......ปล.ยายแต่งงานกับตาที่เป็น ลูกชายคนเดียว ของบ้าน ยายมีลูกชาย1คนคือน้าจ่อย หลานยายมีทั้งหมด 6คน ผู้หญิง5 ชาย1........หลานสาวทั้ง5คน ไม่มีใครเรียน จบ เลย ไม่มีใครได้ทำงานดีๆ เป็นเจ้าคนนายคน ส่วนหลานชาย 1คนที่กล่าวถึง คือลูกของน้าจ่อย คือคนๆเดียวที่ได้นามสกุล จากพ่อ ของตามาใช้....แต่มันไม่ปกติที่ "น้องคนนี้...ปัญญาอ่อน"