กำเนิดผีไทย (2)


กำเนิดผีไทย (2)

ภูตผีที่แปลงร่างได้สารพัดสารพันดูเหมือนจะมีคล้าย คลึงกันทั้งโลก แต่ต้องยอมยกให้ว่า "ผีจีน" มีชื่อเสียงในเรื่องนี้มากกว่าชาติอื่นๆ ในเอเชียหรือในโลกก็ว่าได้

เรื่องของ "ผู่ซ่งหลิง" ที่เกริ่นไว้ตอนก่อนเป็นตัวอย่างดีที่สุด!

นักเขียนเรื่องดังระเบิดของเมืองจีนผู้นี้เกิดที่ชานตุงเมื่อ พ.ศ.2183 ครอบครัวมีฐานะดี ตัวเองก็สนใจเรื่องผีๆ สางๆ ตกค่ำเป็นต้องติดตามบิดาไปฟังวณิพกพเนจรจุดโคม ปูผ้าแดงเล่านิทานเป็นประจำ เพราะในยุค 300 กว่าปีก่อนน่ะหาคนรู้หนังสือยากเย็นพอๆ กันทั้งโลก

ผู่ซ่งหลิงได้ฟังเรื่องผีแปลกประหลาด ตื่นเต้นโลดโผน จนถึงพิสดารพันลึกเหลือเชื่อ แต่จิตใจที่ชมชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้วก็ทำให้รู้สึกสนุกสนาน พลอยเคลิบเคลิ้มหลงเชื่อ จนถึงติดอกติดใจไปจนได้

ว่ากันว่าใครชอบสิ่งใดมากๆ เข้าก็มักจะได้สิ่งนั้นบ่อยๆ แทบจะไม่มีวันสิ้นสุด ผู่ซ่งหลิงก็เช่นกัน!

เมื่อได้ร่ำเรียนเขียนอ่านจนแตกฉาน แต่กลับสอบบัณฑิตไม่ผ่าน จึงต้องทำมาหากินด้วยการเป็นครูสอนเด็กตามบ้านจนตลอดชีวิต ระหว่างนั้นก็เขียนเรื่องผีๆ สางๆ ไว้หลายเล่ม ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสั้น ต่อมามีผู้ค้นพบประมาณ 500 เรื่อง

เชื่อกันว่านักเขียนชื่อดังผู้นี้นำเรื่องผีที่เคยได้ยินวณิพกเล่าสมัยเด็กๆ และจดจำได้ เอามาเรียบเรียงด้วยสำนวนโวหารวิจิตรพิสดาร แตกดอกออกช่อ ต่อเติมเกร็ดฝอยให้สนุก สนานตื่นเต้น ไหนจะมีชาวบ้านร้านช่องที่มักจะแวะเวียนมาเล่านิทานพื้นบ้านให้ฟัง บรรดาเพื่อนฝูงก็พากันรวบรวมเรื่องแปลกประหลาดพิสดารมากมาย จากแทบทุกทิศทุกทางมาให้เกือบไม่ขาดสาย

นักเขียนเอกก็เลยมีเรื่องผีมาบรรเลงได้ต่อเนื่องไม่มีขาดตอนเลยซีน่า!

...บ้านของผู่ซ่งหลิงนั้นมีใบชาและยาสูบเอาไว้เพียบพร้อม คอยต้อนรับแขกทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนฝูง แถมมีห้องสมุดส่วนตัวชื่อ "เหลียวไจ๋" เมื่อผู่ซ่งหลิงเขียนหนังสือเรื่องผีๆ สางๆ รวมทั้งเรื่องราวแปลกประหลาดต่างๆ จึงได้ตั้งชื่อหนังสือของตนว่า "เหลียวไจ๋จื้ออี้" หรือ "เรื่องประหลาดของเหลียวไจ๋"

ได้รับความสำเร็จมากมาย กลายเป็นเรื่องโด่งดังไปทั้งประเทศโดยรวดเร็ว มีผู้นำไปเล่นงิ้ว เล่นละครจนกลายเป็นภาพยนตร์ชุด คือเรื่อง "โปเยโปโลเย" อย่างที่เคยเล่าไปแล้วในตอนก่อน

ที่ว่าเหมือนๆ กัน และเรื่องจีนมีชื่อเสียงมากเป็นเพราะอะไร?

ที่มีแตกต่างกันบ้าง คือตรงไหน?

ไม่ว่าเรื่องปีศาจสุนัขจิ้งจอก ภูตผี วิญญาณสัตว์ วิญญาณดอกไม้ ล้วนสามารถแปลงกายเป็นคนได้ตามใจชอบ ใครรู้ไม่ทันก็ตกเป็นเหยื่อ จนกว่าจะมีผู้เรืองอาคมมาช่วยปราบปรามได้สำเร็จ

เชื่อกันว่า นักเขียนเรื่องผีจีนมักหมั่นไส้นักบวชลัทธิต๋าว คงเห็นว่าชอบอวดวิเศษให้คนเลื่อมใส เก่งกล้าทางไสยศาสตร์ตัวยง มียันต์วิเศษ คาถาศักดิ์สิทธิ์กันผี ฯลฯ เลยเอามาเขียนให้เป็นตัวตลก ด้วยการถูกผีเขกหัวบ้าง กลั่นแกล้งต่างๆ นานา หรือทำให้ต้องอับอายผู้คนบ้าง...กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันไปตลอดกาล!

บางตำราก็ว่า ผู่ซ่งหลิงจ้างให้ชาวบ้านมาเล่าเรื่องเก่าๆ เกี่ยวกับภูตผีและเรื่องแปลกประหลาดให้ฟัง เสร็จสรรพก็จัดการปรุงแต่ง หรือเขียนให้สละสลวยชวนอ่าน โดยใช้เรื่องราวเกี่ยวกับภูตผีปีศาจมาเป็นโครง แต่งเติมเกร็ดฝอยกับใส่ความคิดเห็นของตนลงไปให้กลมกลืนแนบเนียน

ผู่ซ่งหลิงชอบวิพากษ์วิจารณ์ เสียดสีเยาะเย้ยบรรดาขุนนาง ข้าราชการกังฉินทั้งปวง คัดค้านระบบการสอบจอ หงวน แสดงความเห็นอกเห็นใจคนยากจน โดยเฉพาะเข้าข้างผู้หญิงที่โดนกดขี่ เหยียดหยามว่าต่ำต้อยกว่าผู้ชาย

ยกย่องความรักแท้ และปฏิเสธประเพณีคลุมถุงชน!

นักเขียนเอกผู้นี้แม้จะเขียนเรื่องผีๆ สางๆ แต่ได้รับการยกย่องว่าใช้ภาษาได้ยอดเยี่ยม ถือเป็นวรรณกรรมอมตะของจีน โดยเฉพาะความสนุกสนานสุดๆ อ่านแล้วตื่นเต้นเร้าใจจนวางไม่ลง

สิ่งที่ยืนยันว่าเรื่องผีของผู่ซ่งหลิงยอดเยี่ยมทั้งภาษาและเรื่องราวแสนสนุก ก็คือมีผู้นำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษมากมาย เช่น เฮอร์เบิร์ด เอ. ไกล์ แปลไว้ราว 70 เรื่อง นักศึกษาจีน 4 คนร่วมกันแปลไว้อีก 84 เรื่อง

ปัจจุบันยังไม่มีผู้ใดแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด...ใครชอบเรื่องไหนก็แปลเรื่องนั้นนั่นแล!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์