จากการตรวจสอบพบว่าเป็น ถนนสายนี้ลาดยางอย่างดี ตรงบริเวณสี่แยกในหมู่บ้าน พบมีเสาหลักบ้านปูน ตั้งคู่กับศาลพระภูมิสีน้ำเงิน บริเวณรอบข้างพบดอกไม้ ธูปเทียน รูปปั้นช้าง ม้า น้ำแดง ที่ชาวบ้านนำมากราบไหว้ โดยเส้นแบ่งถนน ได้ตีเส้นอ้อมตัวศาลพระภูมิ กว้างประมาณ 1.5 เมตร เมื่อเลยศาลพระภูมิไป เส้นถนนจึงตีเข้ามาบรรจบกัน เหมือนเส้นแบ่งช่องทางจราจรทั่วไป หรือมีสภาพเป็น “เกาะกลางถนน” บนถนนก่อนถึงทั้งสองด้านมีป้ายเตือน “หลักกลางบ้างข้างหน้า”
ต่อมาคนรุ่นหลังได้นำศาลพระภูมิมาตั้งเพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านในหมู่บ้าน มาบนบานศาลกล่าว กับเสาหลักบ้านแห่งนี้ โดยจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องสอบ และการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ก่อนไปก็จะมาขอพรอธิฐานให้เดินทางปลอดภัย และประสบความสำเร็จ เมื่อได้สมหวังก็มาแก้บนนำช้าง ม้า เครื่องเซ่น น้ำแดง มาแก้บน ส่วนผู้ที่ขับรถสัญจรผ่านถนนเส้นนี้ก็จะบีบแตรบอกผ่าน เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทาง เวลากลางคืนมีไฟถนนส่องสว่างทำให้มองเห็นศาลได้ชัดเจน และตั้งแต่มีการสร้างถนนขึ้น ยังไม่เคยมีอุบัติเหตุบนถนนเส้นนี้เลย
ชาวบ้านในหมู่บ้านได้มีการตั้งกฎระเบียบ ข้อบังคับของหมู่บ้าน ที่คนในหมู่บ้านต้องถือเป็นแนวปฏิบัติร่วมกัน คือ ในวันพระ ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามใช้แรงงานสัตว์ทุกชนิด ห้ามสีข้าว ห้ามขนฟืน ขนไม้ วันอื่นก็ห้ามนำศพคนตายเข้าหมู่บ้าน , ห้ามทำงานในหมู่บ้านเมื่อมีคนตายในหมู่บ้าน , ห้ามยิงปืน จุดพลุ จุดประทัดในหมู่บ้าน (ยกเว้นมีเหตุจำเป็น) , ห้ามทำงานก่อนบุญเบิกบ้าน ผู้ใดฝ่าฝืนต้องนำเหล้าไห และไก่ 3 ตัว มาขอขมากับศาลปู่ตา
โดยได้สร้างศาลากลางบ้าน ไว้ใกล้ศาลหลักบ้าน เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธี