ทำให้หลังคลอด อาจมีอาการปวดเมื่อย หรืออักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณสันหลัง หรือขา ที่เกิดจากการกดทับระหว่างตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นจึงได้คิดค้นวิธีดังกล่าว โดยใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอด เพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ การอยู่ไฟ ยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ทำให้อาการหนาวสะท้าน ที่เกิดจากการเสียเลือด และน้ำหลังคลอด มีอาการดีขึ้น ช่วยปรับสมดุลร่างกายในตัวคุณแม่ให้เข้าที่ และที่สำคัญ ช่วยให้มดลูกที่ขยายตัว หดตัว หรือเข้าอู่ได้เร็ว พร้อมกับช่วยให้ปากมดลูกปิดได้ดี ป้องกันการติดเชื้อในโพรงมดลูกหลังคลอด ทำให้น้ำคาวปลาแห้งเร็ว ลดการไหลย้อนกลับ จนนำไปสู่ภาวะเป็นพิษได้
"การอยู่ไฟสมัยก่อน มี 2 แบบคือ ไฟข้าง (ก่อไฟอยู่ข้างตัวบริเวณท้อง) และไฟแคร่ (คุณแม่นอนบนไม้กระดาน ส่วนเตาไฟอยู่ใต้แคร่ มีแผ่นสังกะสีรองทับอีกที เหมือนการนอนปิ้งบนไฟดี ๆ นี่เอง) ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แบบแรกมากกว่า โดยจะมีสามี หรือญาติ คอยดูเรื่องฟืนไฟให้ เพราะคุณแม่จะต้องอยู่ในเรือนไฟ 7 - 15 วัน หลังจากคลอด และห้ามออกจากเรือนไฟเด็ดขาด เพราะจะทำให้ตัวคุณแม่ปรับอุณหภูมิของร่างกายไม่ทัน ทำให้เกิดการเจ็บป่วย และไม่สบายได้"
สำหรับคุณแม่ท่านใด สนใจที่จะอยู่ไฟตามโรงพยาบาลต่างๆ ปัจจุบันเริ่มมีการส่งเสริมในเรื่องดูแลหญิงหลังคลอด ซึ่งจะมีการดูแลคุณแม่หลังคลอด ในงานแพทย์แผนไทย นอกจากนี้ ยังมีศูนย์สุขภาพต่างๆ สปาสุขภาพ คลินิกแพทย์แผนไทย ที่จะเปิดบริการดูแลหลังคลอดด้วย ส่วนใหญ่ จะจัดเป็นระยะตั้งแต่ 3-10 วัน โดยจะเน้นในเรื่องความสวยความงามเป็นหลัก ซึ่งไม่เหมือนสมัยโบราณ เช่น ลดไขมันหน้าท้อง ทำให้ผิวพรรณผ่องใส
อย่างไรก็ดี การเลือกใช้บริการแต่ละอย่างนั้น ต้องพิจารณาถึงความปลอดภัย และชำนาญการของผู้ให้บริการด้วย และที่สำคัญการใช้บริการในแต่ละคอร์ส มีราคาที่สูงพอสมควร ทางที่ดี วิธีที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ คือ อาบน้ำอุ่นที่บ้าน ซึ่งบางบ้านอาจใช้สมุนไพร เช่น ตะไคร้ หรือมะกรูด ผสมอาบเพื่อสุขภาพด้วยก็ได้