เคยสงสัยไหม มนุษย์เกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาทำไม ทำไมถึงต้องเกิด หลายคนเกิดมามีความฝันอยากเรียนที่ดีดี อยากทำงานดีดี อยากมีเงินเยอะๆ มีรถขับ มีบ้านหลังใหญ่ๆ มีแฟนสวยหล่อ มีครอบครัวที่้อบอุ่น มีลูกที่น่ารัก ร้อยแปดพันเก้าความฝัน ที่เราอยากมีในอนาคต แต่หลายคนลืมคิดไปว่า อนาคตของเราทุกคนก็คือความตายมิใช่เหรอ ต่อให้เรามีความฝันหรือไปถึงฝันแล้ว สุดท้ายเราก็ต้องทิ้งสิ่งเหล่านั้นไว้กลางทางและจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ต่อให้มีแฟน มีลูก มีบ้าน มีรถ มีทรัพย์สมบัติมากมายขนาดไหน สุดท้ายเราก็ต้องพลัดพรากจากของรักเหล่านั้น และเมื่อรู้ว่าอนาคตคือความตาย แล้วเราเตรียมพร้อมหรือยังหากความตายมาถึง เราทำใจไว้หรือยัง หากต้องพลัดพรากจากของรักทุกสิ่งบนโลกใบนี้ และเตรียมพร้อมหรือยังที่จะใช้ชีวิตหลังความตาย
คนเราทุกคนประกอบกายและจิตที่ทำให้เราสามารถพูดได้ หัวเราะได้ ร้องไห้ได้ เหตุที่คนตายไม่สามารถทำสิ่้งเหล่านี้ได้ก็เพราะว่า มีแต่กายแต่ไม่มีจิตแล้ว พลังงานของจิตมีพลังงานมหาศาลมาก มีความเร็วกว่าพลังงานเสียงและแสงใดๆในโลกใบนี้ และมีลักษณะเฉพาะตัวคือสามารถเกิดดับอยู่ตลอดเวลาที่ความเร็วสูงมาก จิตของเราเกิดดับที่ความเร็วประมาณ 4ล้านล้านครั้งต่อวินาที นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนเราเมื่อตายปุ๊บจะต้องไปเกิดทันที
12 นาทีแรกหลังเสียชีวิตสำคัญมาก เพราะจิตจะย้อนอดีตเราทั้งชีวิตตั้งแต่ตอนเกิดจนถึงตอนตาย ขณะกำลังย้อนภาพอดีตหากจิตเราไปสดุดที่ภาพไม่ดี เหตุการณ์ไม่ดีที่เป็นอกุศลเราก็จะไปในที่ไม่ดีทันที ดังนั้นก่อนตายควรจะต้องมีญาติพี่น้องคอยสวดมนต์ให้ฟังใกล้ๆ เพื่อเสียงสวดมนต์จะทำให้เราระลึกถึงกรรมดีได้ และไปเกิดในที่ดีดีนั่นเอง
ดังนั้นเวลาคนตายปุ๊บจึงไปเกิดได้ทันที ถ้าจิตสุดท้ายตายด้วยความโลภ ก็จะไปเกิดเป็นเปรตทันที ถ้าตายด้วยความโกรธจะไปเกิดเป็นสัตว์นรก ถ้าตายด้วยความหลง หรือเมาตาย ก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือตายแล้วไปไหนไม่ได้ ก็คือไปเกิดเป็นสัมพเวสี โลกนี้ไม่มีคำว่าเหตุบังเอิญ ทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้วจากตัวเราเอง ตราบใดที่ไม่หมดกิเลส เราก็ต้องเวียน ว่ายตายเกิดอยู่ร่ำไป