แม่นาค.......กล่าวถึงหนุ่มสาวผัวเมียคู่หนึ่งอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาอยู่ ณ บริเวณพระโขนง ฝ่ายสามีมีชื่อว่า นายมาก ส่วนภรรยามีชื่อว่า นางนาค ทั้งสองอยู่กินกันจนในที่สุดฝ่ายหญิงก็ตั้งครรภ์อ่อน แต่ยังไม่ทันจะได้คลอดลูก นายมากก็มีเหตุจำเป็นต้องไปรับใช้ชาติเป็นทหารประจำการณ์ที่กรุงบางกอก ทำให้ทั้งคู่ต้องพรากจากกัน และปล่อยให้นางนาคอยู่เพียงลำพังกับลูกน้อยในครรภ์
เวลาผ่านไป ท้องของนางนากก็ใหญโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งครบกำหนดวันคลอด หมอตำแยก็มาทำคลอดให้ แต่ทว่าเกิดเหตุอันแสนโชคร้ายเนื่องจากลูกของนางนากไม่ยอมกลับหัว และคลอดออกมาตามวิธีธรรมชาติ ส่งผลให้นางนากต้องทุกข์ทรมาน และต้านทานความเจ็บปวดไว้ไม่ไหว จนสิ้นใจตายไปพร้อมกับลูกในท้อง และต้องกลายเป็นผีตายทั้งกลมในที่สุด และศพของนางนาคถูกนำไปฝังไว้ที่ป่าช้าท้ายวัดมหาบุศย์
เมื่อนายมากปลดประจำการจากบางกอก ก็รีบกลับมาหาเมียของตนที่พระโขนงโดยที่ไม่ทราบเรื่องเลยว่าเมียของตนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อนายมากกลับมาถึงในเวลาเข้าไต้เข้าไฟพอดี จึงไม่ได้พบเจอกับชาวบ้านคนไหนเลย อีกทั้งบริเวณบ้านของนางนากหลังจากที่นางตายไป ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ด้วยเพราะความกลัวว่าผีนางนากจะมาหลอกหลอน ชาวบ้านต่างก็เชื่อกันว่า วิญญาณของผีตายทั้งกลมนั้นมีความดุร้ายและเฮี้ยนกว่าผีชนิดไหนยิ่งนัก
เมื่อนายมากกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว ผีนางนากก็คอยรั้งนายมากให้อยู่กับบ้านตลอดเวลา จะได้ไม่ต้องออกไปพบเจอใคร เพราะเกรงว่าความจริงเรื่องตนตายจะถูกเปิดเผย ด้วยความรักและเชื่อใจเมีย นายมากจึงไม่เชื่อชาวบ้านคนไหนเลยว่าเมียตัวเองตายไปแล้ว จนวันหนึ่งขณะที่นางนากกำลังตำน้ำพริกอยู่บนบ้าน นางนากได้เผลอทำมะนาวตกลงไปใต้ถุนบ้าน แต่ด้วยความรีบร้อน นางนากจึงยืดมือยาวเพื่อเอื้อมลงมาหยิบลูกมะนาวที่ใต้ถุนเรือน บังเอิญว่านายมากผ่านมาเห็นพอดี จึงปักใจเชื่อตามคำที่ชาวบ้านบอกว่าเมียตัวเองนั้นเป็นผีตามที่ใครเขาว่ากัน
หลังจากที่รู้ความจริง นายมากก็วางแผนเพื่อหลบหนีออกห่างจากผีนางนาก โดยแอบเจาะตุ่มใส่น้ำให้รั่วแล้วเอาก้อนดินมาอุดไว้ เมื่อตกกลางคืนก็ทำทีว่าจะไปปลดทุกข์เบา แล้วแกะเอาก้อนดินออกจากตุ่มที่อุดน้ำไว้ น้ำจึงไหลออกเหมือนเสียงของคนที่กำลังปลดทุกข์เบา หลังจากนั้นนายมากจึงแอบหนีไป
นางนาคเริ่มเห็นว่าผิดสังเกต จึงออกมาดูก็รู้ความจริงว่าตัวเองโดนผัวหลอก นางนากจึงตามนายมากออกไปทันที เมื่อนายมากเมื่อเห็นผีนางนาคตามมา จึงหนีเข้าไปหลบอยู่ในดงหนาด ทำให้นางนากไม่สามารถทำร้ายนายมากได้ เหตุเพราะผีกลัวใบหนาด จากนั้นนายมากก็หนีไปพึ่งบารมีของหลวงพ่อที่วัด แต่นางนากก็ยังไม่ลดละความพยายาม และตามนายมากต่อไป
ด้วยความเจ็บใจที่ชาวบ้านคอยยุแยงตะแคงรั่วผัวของตนให้เอาใจออกห่าง ทำให้นางนากเที่ยวออกอาละวาดหลอกหลอนชาวบ้านจนอกสั่นขวัญหายไปกันทั้งบาง ความเฮี้ยนของนางนากเป็นที่รู้กันไปทั่วส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากการถูกฝังไว้ระหว่างต้นตะเคียนคู่นั่นเอง แต่ในที่สุด นางนากก็ถูกหมอผีฝีมือดีจับถ่วงหม้อลอยไปตามน้ำ จึงทำให้ไม่สามารถแผลงฤทธิ์ต่อไปได้
เวลาผ่านไป จนมีตายายคู่หนึ่งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวและเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เก็บหม้อที่ถ่วงนางนากขึ้นมาได้ขณะที่ออกไปทอดแหจับปลากลางแม่น้ำ ทำให้นางนากถูกปลดปล่อยและออกมาอาละวาดได้อีกครั้ง
แต่ในที่สุด นางนากก็ถูกสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สยบลงได้ ส่วนกะโหลกศีรษะส่วนหน้าผากของนางนากถูกนำไปเคาะออกเพื่อทำปั้นเหน่งหรือหัวเข็มขัดโบราณ เพื่อสะกดวิญญาณ และนำนางนากไปสู่สุคติ
ปั้นเหน่งที่ทำจากกระโหลกนางนากถือเป็นมรดกตกทอดสืบต่อไปยังเจ้าของหลายมือ พร้อมไปกับตำนานความรักของนางนากที่ได้รับการกล่าวขานและเป็นเรื่องราวความรักอันแสนมั่นคงที่ฟังแล้วประทับใจมิรู้คลาย เพราะแม้แต่ความตายก็มิอาจพรากหัวใจรักของนางนากจากนายมากไปได้เลย