มาดู 10 อันดับ “ถ้ำสุดลึก!” แถมประวัติสุดลี้ลับ! ในเมืองไทย
หน้าแรกTeeNee เรื่องลึกลับ Xfile ตำนาน เรื่องเล่าจากโบราณ มาดู 10 อันดับ “ถ้ำสุดลึก!” แถมประวัติสุดลี้ลับ! ในเมืองไทย
ถ้ำเกิดจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของชั้นหิน เช่น เกิดการยกตัวและรอยแตกของชั้นหิน หรือบางส่วนจะเกิดเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้หินแตกหักเกิดเป็นช่องว่าง หรือ ที่เรียกว่า ถ้ำ สำหรับถ้ำในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นถ้ำหินปูน เมื่อมีน้ำฝนซึมผ่านชั้นดิน ซากพืช ซากสัตว์ ประกอบกับมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้น้ำมีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ เมื่อซึมมาจนถึงชั้นหินปูนหรือซึมผ่านรอยแตกในหินปูน น้ำกรดจะลายเนื้อหินปูนออกเรื่อยๆ จนกลายเป็นโพรงถ้ำ
สำหรับถ้ำในประเทศไทยที่มีความยาว 10 อันดับ ได้แก่
สำหรับถ้ำที่1 คือ ถ้ำพระวังแดงเป็นถ้ำที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทยยาวประมาณ 13.761 กิโลเมตร โดยทั่วไปช่วงหน้าฝนจะห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเนื่องจากสภาพถ้ำมืด และมีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา โดยที่ผ่านมาที่ถ้ำพระวังแดง แห่งนี้เคยมีคนหลง2ครั้ง ครั้งแรก พระภิกษุหลงแล้วออกมาได้ ส่วนครั้งที่ 2 เมื่อ 4-5 ปี ที่แล้วสามเณร 2 รูป จากทับคล้อ ก็หลงในถ้ำพระวังแดงอยู่ 3 วัน 3 คืน จึงช่วยออกมาได้
ส่วนถ้ำหลวงนั้น นับว่าเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดเป็นอันดับ4ของเมืองไทย โดยมีหลายตำนานที่เล่าขานประวัติของถ้ำนี้ ว่า ณ เมืองเชียงรุ้งสิบสองปันนา มีราชธิดาองค์หนึ่ง แอบรักกับชายเลี้ยงม้า ซึ่งผิดกฏตามโบราณราชประเพณี ทั้งสองได้แอบรักกันมาจนกระทั่ง พระราชธิดาเกิดตั้งครรภ์ เห็นจะปิดความไว้ไม่ได้อีกต่อไป จึงหลบหนีตามกันมา พระราชบิดารู้ก็ส่งทหารไล่ติดตาม
กองทหารตามทัน เห็นชายเลี้ยงม้าในป่า ก็รุมฆ่าตายอยู่กับที่ ฝ่ายพระราชธิดาเห็นกองทหารของพระราชบิดาออกมาจากชายป่า เข้าล้อมพระราชธิดาไว้ แล้วทูลเชิญกลับไปยังนครเชียงรุ้ง พระราชธิดาตระหนกตกใจสังหรณ์ว่าชายคนรักจะเป็นอันตรายเสียแล้ว แต่ก็ยังแข็งใจตรัสถามทหารว่าเห็นชายหนุ่มหรือไม่ ทหารก็ทูลตอบว่า ได้ฆ่าตายแล้ว
เมื่อทรงทราบดังนั้น พระราชธิดาทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ได้สติจึงอธิษฐาน เอาความรักอันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง ดึงปิ่นที่ปักผมออกมา แทงพระขมับของพระองค์เองจนโลหิตไหลออกมาเป็นสาย สิ้นพระชนม์อยู่ตรงนั้น สายพระโลหิตที่ได้หลั่งไหลออกมา ได้กลายมาเป็นต้นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้ ส่วนพระวรกายของพระราชธิดาที่นอนเหยียดยาวจากใต้จรดเหนือ ก็กลายเป็นดอยนางนอนจวบจนทุกวันนี้ อิตถีเพศของพระนางกลายเป็นถ้ำหลวง และส่วนของพระอุทรที่ทรงครรภ์ก็เป็นดอยตุง
และการที่จะเข้าไปในถ้ำแห่งนี้ (ตามความเชื่อ) ต้องขออนุญาต จากผู้ที่ดูแลถ้ำ และเข้าไปชมด้วยความสงบ ห้ามส่งเสียงดัง และพูดจาในสิ่งที่ไม่ควร ถ้ำนี้จะแตกต่างจากทุกถ้ำที่ไปมาเพราะทุกอณูของถ้ำ เหมือนมีชีวิต และเหมือนกำลังจับตามองผู้ที่เข้ามาทุกฝีก้าว แม้แต่ในตอกลางวันก็ตาม
ส่วนประวัติของอีกถ้ำ ที่เราอยากจะนำเสนอ นั่นคือ "ถ้ำเชียงดาว" อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งถ้ำนี้เป็นถ้ำชื่อดัง และมีประวัติที่ลี้ลับ ไม่แพ้กัน
ประวัติโดยย่อของถ้ำเชียงดาว มีอยู่ว่า สมัยก่อนถ้ำเชียงดาวไม่ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยยังเป็นสถานที่วิปัสสนากรรมฐานของพระสงฆ์ ภายในถ้ำประดิษฐานหลวงพ่อทันใจที่สร้างโดยฤาษีอุคันธะ เป็นฤาษีชาวไทใหญ่ที่เดินทางมาจาริกแสวงบุญ ณ อำเภอเชียงดาว และก็ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างพระเจดีย์ 25 ยอด (เจดีย์ซาวห้ายอด) ขึ้นในปี พ.ศ. 2456 ต่อมา ครูบาศรีวิชัย มาสร้างและบูรณะเป็นวัดถ้ำเชียงดาว จวบจนถึงปัจจุบัน
ประวัติโดยย่อของถ้ำเชียงดาว มีอยู่ว่า สมัยก่อนถ้ำเชียงดาวไม่ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยยังเป็นสถานที่วิปัสสนากรรมฐานของพระสงฆ์ ภายในถ้ำประดิษฐานหลวงพ่อทันใจที่สร้างโดยฤาษีอุคันธะ เป็นฤาษีชาวไทใหญ่ที่เดินทางมาจาริกแสวงบุญ ณ อำเภอเชียงดาว และก็ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างพระเจดีย์ 25 ยอด (เจดีย์ซาวห้ายอด) ขึ้นในปี พ.ศ. 2456 ต่อมา ครูบาศรีวิชัย มาสร้างและบูรณะเป็นวัดถ้ำเชียงดาว จวบจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้นยังมีตำนานของถ้ำเชียงดาวว่า ในอดีตมีเจ้าหลวงคำแดงซึ่งเป็นบุตรชายของเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ได้ออกเดินทางตามหาหญิงสาวที่แปลงร่างเป็นกวางทองซึ่งหายลับเข้าไปในถ้ำหลวงเชียงดาว เมื่อเจ้าหลวงคำแดงจึงได้ตามเข้าไปในถ้ำก็ไม่ได้กลับออกมาแต่ได้กลายเป็นเทวดาปกปักรักษาถ้ำหลวงเชียงดาว ชาวบ้านได้สร้างศาลถวายท่านและตั้งชื่อว่า "ศาลพ่อหลวงคำแดง" ตามตำนานกล่าวไว้ว่าในคืนที่มีนิมิตหมายอันดี ท้องฟ้าแจ่มใสจะปรากฏลูกกลมๆ มีแสงสว่างคล้ายพระธาตุลอยออกมาจากหลังดอยเชียงดาว ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของเจ้าหลวงคำแดง ไปเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนที่เมืองพะเยา
โดยบ้างก็เล่าลือกันถึงขนาดว่า ถ้ำเชียงดาวนี้ สามารทะลุไปออกถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงรายโน่นทีเดียว ซึ่งยังไม่สามรถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงแต่อย่างใด
โดยบ้างก็เล่าลือกันถึงขนาดว่า ถ้ำเชียงดาวนี้ สามารทะลุไปออกถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงรายโน่นทีเดียว ซึ่งยังไม่สามรถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงแต่อย่างใด
ที่มาkhaosod
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น