ชุมทางปีศาจ (3)
6. ผีปอบ
เดี๋ยวนี้ผีปอบกลายเป็นผียอดฮิตประจำภาคอีสาน ตกเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์และทีวีบ่อยๆ โดยถูกชาวบ้านรวมหัวกันขับไล่ด้วยวิธีต่างๆ บางหมู่บ้านมีผีปอบ 2-3 ตัว แต่บางหมู่บ้านก็มีถึงสิบกว่าตัว ส่วนมากมักจะเป็นหญิงกลางคนถึงวัยชรา
บางครั้งก็มีข่าวว่ามิจฉาชีพกุข่าวเพื่อจะได้ทำพิธีขับไล่ผีปอบที่สิงอยู่ในคนนั้นๆ ด้วยการรดน้ำมนต์ หรือเฆี่ยนตีอย่างรุนแรงจนถึงกับปางตาย โดยเรียกค่าตอบแทนพันสองพันบาทขึ้นไป บางครั้งก็มารับจ้างเป็นคนทรง ถือไม้ไล่หาผีปอบไปตามหมู่บ้าน เมื่อได้เงินทองเป็นที่พอใจแล้วก็ออกไปหากิน หรือต้มตุ๋นตามหมู่บ้านอื่นๆ ต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด
ที่เชื่อว่าเป็นปอบก็เพราะการไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนบ้าน หรือผู้คนบ้านใกล้ๆ กันล้มป่วยจนถึงล้มตายติดๆ กันบ้าง ยิ่งหมู่บ้านไหนมีคนล้มตายหลายคนด้วยโรคภัยต่างๆ ก็มักจะซัดไปที่ปอบ ซึ่งดูแล้วก็เป็นคนดีๆ เหมือนคนทั่วไป แต่ก็ถูกหาว่าเป็นปอบโดยไม่มีเหตุผล หรือมีก็เบาบางจนเกินกว่าจะรับได้
โบราณบอกว่า ปอบจะเข้าสิงคนที่ร่ำเรียนทางไสยศาสตร์ของเขมรที่กระทำอันตรายต่อผู้อื่น เรียกว่า "ไสยดำ" แต่มีข้อห้ามคือ "ขะลำ" มิให้เป็นชู้กับภรรยาท่าน หรือลักขโมย ผู้ใดฝ่าฝืนก็จะถูกปอบสิง กลายเป็นปอบไปจนกว่าจะสิ้นเวร!
"ปอบผีฟ้า" มีมากในภาคอีสานตอนล่าง จนกลายเป็นประเพณีเซ่นสังเวย "ผีฟ้า" หรือ "ผีแถน" "แถนหลวง" ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเจ้าใหญ่นายโตแห่งภูตผีทั้งหลาย
ถ้าผีปอบคือผู้ที่คอยเข้าสิงผู้อื่น กินตับไตไส้พุงจนกว่าจะตาย ก่อนจะไปสิงสู่ผู้อื่นต่อไป ผู้คนที่เรารู้จักอีกมากมายก็เห็นจะมีลักษณะนิสัยไม่แตกต่างกว่าปอบเท่าไรนัก แต่กลับได้รับความเคารพนับถือ กราบไหว้ยำเกรงในอำนาจวาสนา แถมเต็มอกเต็มใจให้สูบเลือดสูบเนื้อแทบจะแห้งตายอีกต่างหาก!
7. ผีโขมด
เป็นผีที่สิงสู่อยู่ตามป่าดงพงพีทั้งหลาย บางทีแยกประเภทว่าเป็น "โขมดป่า" กับ "โขมดดง" แต่มีความหมายคล้ายคลึงกัน ตรงที่ล้มตายในป่าด้วยสาเหตุต่างๆ เช่นเป็นไข้ป่า โดนงูกัด เสือขบ หรือช้างเหยียบตาย พลาดพลั้งหลงทางจนอดตายบ้าง ตกเขาตกเหวตายบ้าง
สมัยก่อน คนพวกนี้มักจะเป็นพรานเที่ยวล่าสัตว์ หรือไม่ก็หาของป่า เช่น น้ำมันยาง สมุนไพร รังผึ้ง แม้แต่เข้าไปหาขี้ค้างคาวในถ้ำ แต่ชะตาขาดต้องสิ้นชีวิตด้วยสาเหตุดังกล่าว โดยที่พ่อแม่หรือลูกเมียทางบ้านไม่ได้ข่าวคราว หรือแม้แต่ไม่พบศพก็มี
เชื่อกันว่าผีโขมดพวกนี้จะดุร้ายนักหนา เที่ยวหลอกหลอนคนเดินป่าจนต้องวิ่งกันป่าราบมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่ผู้รู้บอกว่าที่ปรากฏตัวก็เพื่อจะขอส่วนบุญเท่านั้นเอง
8. ผีพราย
คือผีที่ผู้มีคาถาอาคมเลี้ยงไว้ใช้สอย เช่นในเรื่อง "ขุนช้างขุนแผน" ก็มีผีพรายที่ขุนแผนเลี้ยงไว้ใช้ ทั้งช่วยดูแลบ้านช่อง คุ้มครองลูกเมียยามที่ตนต้องพลัดบ้านพลัดเมือง ไม่ว่าเข้าป่าเข้าดงหรือติดคุกก็ตาม แล้วยังสั่งสอนวิชาเลี้ยงผีพรายให้แก่ลูกหลานสืบต่อกันมา เช่น พลายชุมพล เป็นต้น
โดยทั่วไปแล้ว ผีพรายแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ "พรายน้ำ" กับ "พรายทะเล"
"พรายน้ำ" คือผีตกน้ำตายในแม่น้ำลำคลอง หรือตายในน้ำจืด ส่วน "พรายทะเล" ก็คือผีที่ตกน้ำตายในทะเล เช่น เกิดเรือล่ม หรือโดนโจรสลัดฆ่าทิ้งเพื่อชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เมื่อญวนแตก ผู้คนในละแวกนั้นอพยพหลบหนีภัยแดงไปตายเอาดาบหน้า หรือผืนแผ่นดินใหม่ แต่ก็ต้องมาล้มตายในทะเลด้วยสาเหตุต่างๆ ดังกล่าว
9. ผีกระหัง, ผีก็องกอย, ผีโพง ฯลฯ
พวกนี้ถือว่าเป็นผีเบ็ดเตล็ด ไม่สู้สลักสำคัญนัก เช่นผีโพงมักปรากฏกายในป่า รูปร่างคล้ายคบไฟล่องลอยมา พอใกล้จะถึงผู้คนก็หายวับไป! หลอกแก้เหงา...ว่างั้น!
นอกจากภูตผีที่มาจากคนแล้ว ยังมีผีที่มาจากสัตว์และต้นไม้ใหญ่น้อยอีกมากมาย ขอนำมาเล่าสู่กันฟังคร่าวๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าผีไทยมีอื้อซ่าแทบไม่น่าเชื่อ ถ้าคนไทยไม่ใจแข็งจริงๆ มีหวังถูกผีหลอกตายไปครึ่งค่อนประเทศแล้ว
ที่เหลืออยู่ก็คงกลุ้มอกกลุ้มใจเต็มที พาลฆ่าตัวตายไปซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราวดีกว่าจะมาทู่ซี้อกสั่นขวัญแขวน กลัวถูกผีหลอกตายจนประสาทกินเปล่าๆ จริงมั้ยครับ?
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เดี๋ยวนี้ผีปอบกลายเป็นผียอดฮิตประจำภาคอีสาน ตกเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์และทีวีบ่อยๆ โดยถูกชาวบ้านรวมหัวกันขับไล่ด้วยวิธีต่างๆ บางหมู่บ้านมีผีปอบ 2-3 ตัว แต่บางหมู่บ้านก็มีถึงสิบกว่าตัว ส่วนมากมักจะเป็นหญิงกลางคนถึงวัยชรา
บางครั้งก็มีข่าวว่ามิจฉาชีพกุข่าวเพื่อจะได้ทำพิธีขับไล่ผีปอบที่สิงอยู่ในคนนั้นๆ ด้วยการรดน้ำมนต์ หรือเฆี่ยนตีอย่างรุนแรงจนถึงกับปางตาย โดยเรียกค่าตอบแทนพันสองพันบาทขึ้นไป บางครั้งก็มารับจ้างเป็นคนทรง ถือไม้ไล่หาผีปอบไปตามหมู่บ้าน เมื่อได้เงินทองเป็นที่พอใจแล้วก็ออกไปหากิน หรือต้มตุ๋นตามหมู่บ้านอื่นๆ ต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด
ที่เชื่อว่าเป็นปอบก็เพราะการไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนบ้าน หรือผู้คนบ้านใกล้ๆ กันล้มป่วยจนถึงล้มตายติดๆ กันบ้าง ยิ่งหมู่บ้านไหนมีคนล้มตายหลายคนด้วยโรคภัยต่างๆ ก็มักจะซัดไปที่ปอบ ซึ่งดูแล้วก็เป็นคนดีๆ เหมือนคนทั่วไป แต่ก็ถูกหาว่าเป็นปอบโดยไม่มีเหตุผล หรือมีก็เบาบางจนเกินกว่าจะรับได้
โบราณบอกว่า ปอบจะเข้าสิงคนที่ร่ำเรียนทางไสยศาสตร์ของเขมรที่กระทำอันตรายต่อผู้อื่น เรียกว่า "ไสยดำ" แต่มีข้อห้ามคือ "ขะลำ" มิให้เป็นชู้กับภรรยาท่าน หรือลักขโมย ผู้ใดฝ่าฝืนก็จะถูกปอบสิง กลายเป็นปอบไปจนกว่าจะสิ้นเวร!
"ปอบผีฟ้า" มีมากในภาคอีสานตอนล่าง จนกลายเป็นประเพณีเซ่นสังเวย "ผีฟ้า" หรือ "ผีแถน" "แถนหลวง" ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเจ้าใหญ่นายโตแห่งภูตผีทั้งหลาย
ถ้าผีปอบคือผู้ที่คอยเข้าสิงผู้อื่น กินตับไตไส้พุงจนกว่าจะตาย ก่อนจะไปสิงสู่ผู้อื่นต่อไป ผู้คนที่เรารู้จักอีกมากมายก็เห็นจะมีลักษณะนิสัยไม่แตกต่างกว่าปอบเท่าไรนัก แต่กลับได้รับความเคารพนับถือ กราบไหว้ยำเกรงในอำนาจวาสนา แถมเต็มอกเต็มใจให้สูบเลือดสูบเนื้อแทบจะแห้งตายอีกต่างหาก!
7. ผีโขมด
เป็นผีที่สิงสู่อยู่ตามป่าดงพงพีทั้งหลาย บางทีแยกประเภทว่าเป็น "โขมดป่า" กับ "โขมดดง" แต่มีความหมายคล้ายคลึงกัน ตรงที่ล้มตายในป่าด้วยสาเหตุต่างๆ เช่นเป็นไข้ป่า โดนงูกัด เสือขบ หรือช้างเหยียบตาย พลาดพลั้งหลงทางจนอดตายบ้าง ตกเขาตกเหวตายบ้าง
สมัยก่อน คนพวกนี้มักจะเป็นพรานเที่ยวล่าสัตว์ หรือไม่ก็หาของป่า เช่น น้ำมันยาง สมุนไพร รังผึ้ง แม้แต่เข้าไปหาขี้ค้างคาวในถ้ำ แต่ชะตาขาดต้องสิ้นชีวิตด้วยสาเหตุดังกล่าว โดยที่พ่อแม่หรือลูกเมียทางบ้านไม่ได้ข่าวคราว หรือแม้แต่ไม่พบศพก็มี
เชื่อกันว่าผีโขมดพวกนี้จะดุร้ายนักหนา เที่ยวหลอกหลอนคนเดินป่าจนต้องวิ่งกันป่าราบมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่ผู้รู้บอกว่าที่ปรากฏตัวก็เพื่อจะขอส่วนบุญเท่านั้นเอง
8. ผีพราย
คือผีที่ผู้มีคาถาอาคมเลี้ยงไว้ใช้สอย เช่นในเรื่อง "ขุนช้างขุนแผน" ก็มีผีพรายที่ขุนแผนเลี้ยงไว้ใช้ ทั้งช่วยดูแลบ้านช่อง คุ้มครองลูกเมียยามที่ตนต้องพลัดบ้านพลัดเมือง ไม่ว่าเข้าป่าเข้าดงหรือติดคุกก็ตาม แล้วยังสั่งสอนวิชาเลี้ยงผีพรายให้แก่ลูกหลานสืบต่อกันมา เช่น พลายชุมพล เป็นต้น
โดยทั่วไปแล้ว ผีพรายแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ "พรายน้ำ" กับ "พรายทะเล"
"พรายน้ำ" คือผีตกน้ำตายในแม่น้ำลำคลอง หรือตายในน้ำจืด ส่วน "พรายทะเล" ก็คือผีที่ตกน้ำตายในทะเล เช่น เกิดเรือล่ม หรือโดนโจรสลัดฆ่าทิ้งเพื่อชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เมื่อญวนแตก ผู้คนในละแวกนั้นอพยพหลบหนีภัยแดงไปตายเอาดาบหน้า หรือผืนแผ่นดินใหม่ แต่ก็ต้องมาล้มตายในทะเลด้วยสาเหตุต่างๆ ดังกล่าว
9. ผีกระหัง, ผีก็องกอย, ผีโพง ฯลฯ
พวกนี้ถือว่าเป็นผีเบ็ดเตล็ด ไม่สู้สลักสำคัญนัก เช่นผีโพงมักปรากฏกายในป่า รูปร่างคล้ายคบไฟล่องลอยมา พอใกล้จะถึงผู้คนก็หายวับไป! หลอกแก้เหงา...ว่างั้น!
นอกจากภูตผีที่มาจากคนแล้ว ยังมีผีที่มาจากสัตว์และต้นไม้ใหญ่น้อยอีกมากมาย ขอนำมาเล่าสู่กันฟังคร่าวๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าผีไทยมีอื้อซ่าแทบไม่น่าเชื่อ ถ้าคนไทยไม่ใจแข็งจริงๆ มีหวังถูกผีหลอกตายไปครึ่งค่อนประเทศแล้ว
ที่เหลืออยู่ก็คงกลุ้มอกกลุ้มใจเต็มที พาลฆ่าตัวตายไปซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราวดีกว่าจะมาทู่ซี้อกสั่นขวัญแขวน กลัวถูกผีหลอกตายจนประสาทกินเปล่าๆ จริงมั้ยครับ?
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!