สวนผีสิง


สวนผีสิง

"เด็กสวน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสวนส้มโอแม่กลอง



ผมเป็นเด็ก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ที่ส่วนมากรู้จักกันในนาม "แม่กลอง" นั่นแหละครับ บ้านผมมีคนดังๆ เยอะ เช่น อภิเดช ศิษย์หิรัญ ฉายา

"จอมเตะบางนาแขวก" หรืออย่างอาจารย์ช่วง มูลพินิจ ศิลปินเอกในทางวาดรูปสวยงามเหมือนมือเทวดา น่าจะได้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาจิตรกรรมตั้งปีมะโว้มาแล้ว



เมืองไทยก็อย่างว่า ต่อให้เก่งกาจแค่ไหนก็เถอะ


ถ้า "ไร้เส้น" ซะอย่าง มีหวังถูกเมิน หรือมองข้ามหัวไปหมด เศร้านะครับ

อย่ากระนั้นเลย วันนี้ผมจะเล่าเรื่องผีดุสุดขีดให้ฟัง!

สมัยผมเด็กๆ แก้ผ้าโดดน้ำตูมๆ กับเพื่อนฝูงทโมนไพรด้วยกัน หรือไม่ก็วิ่งซ่อกๆ ไปตามสวนนั้นสวนนี้ ส่วนมากเป็นสวนลิ้มจี่



สวนส้มโอกับสวนมะพร้าว ดักยิงนกหนูไปตามเรื่อง



ยิ่งพวกกระรอกเจาะมะพร้าวน่ะหายห่วง...พวกเราส่องด้วยหนังสติ๊กจนร่วงนับไม่ถ้วน เอาไปให้แก่แกงใส่กะทิ แหม! นึกถึงแล้วน้ำลายสออย่าบอกใคร

ช่วงนั้นเอง เกิดมีสาวสวยประจำตำบลชื่อเพ็ญ ผูกคอตายที่ต้นลิ้นจี่กิ่งเตี้ยๆ ขนาดเท้าแตะพื้นได้ แทบจะเรียกว่านั่งคุกเข่าก็ไม่ผิด ทำไมถึงตายได้ก็ไม่รู้เหมือนกัน



อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับผีพี่เพ็ญดุร้ายสาหัส เที่ยวหลอกหลอน


จนชาวบ้านขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน

รายแรกคือพี่ชาญ-คู่รักของพี่เพ็ญที่ลือกันว่าเป็นต้นเหตุให้พี่เพ็ญฆ่าตัวตายเพราะอกหัก ตกค่ำๆ เป็นมาส่งเสียงเยือกเย็นเรียกพี่ชาญ...พี่ชาญจ๋า...

หมูหมางี้เห่าหอนขรมไปหมด พี่ชาญอุตส่าห์ไปขอน้ำมนต์ถึงวัดบางแคน้อยมาดื่มมารด แต่ปีศาจพี่เพ็ญก็หาหวั่นหวาดไม่ กลับดุร้ายหนักกว่าเก่าซะอีกแน่ะ



"พี่ชาญจ๋า...ไปอยู่ด้วยกันเถอะ...ไปอยู่กับเพ็ญนะพี่ชาญจ๋า.."



เป็นใครก็สติแตกครับ อย่างเบาะๆ ก็จับไข้หัวโกร๋น พี่ชาญเลยต้องเผ่นหนีไปอยู่ในจังหวัดกับญาติ เพราะกลัวโดนผีพี่เพ็ญมาเอาชีวิตไปอยู่ด้วยกันจริงๆ น่ะซี

ชาวบ้านล้วนคิดว่า วิญญาณพี่เพ็ญคงจะตามไปหาชายคนรักแน่นอน!

ที่ไหนได้ล่ะ ปีศาจสาวสวยยังสิงอยู่ที่แดนตายของเธอ ไม่ยอมเคลื่อนย้ายไปไหน ต้นลิ้นจี่ที่พี่เพ็ญผูกคอตายเดือนกุมภาพันธ์



กำลังออกดอกบานสะพรั่ง จนปลายมีนาคมผลเริ่มโตเต็มต้น


ใกล้จะแดงครึ่ดหมดทุกสวนในเดือนเมษายน

อ้อ! ลิ้นจี่ต้นนั้นอยู่ใกล้ๆ กับสวนส้มโอลุงยิ่งพอดี!

สมัยก่อน ชาวสวนบ้านผมปลูกส้มโอแต่พันธุ์ขาวพวง ขาวทองดี ต่อมา น้าสมทรงริเริ่มปลูกพันธุ์ขาวใหญ่ แถมไม่ใช่สารเคมีอีกต่างหาก อ๊ะ! ได้ผลดีเหลือเชื่อแฮะ



แกบอกว่า พวกขาวพวง, ขาวทองดีน่ะ ให้คนนครปฐมเขาปลูกกันเถอะ


ดินบ้านเราเหมาะกับขาวพวงมากกว่า...ถ้าใช้สารเคมีก็มีอายุไม่เกิน 7 วัน แต่ใช้ปุ๋ยธรรมชาติจะอยู่ได้เป็นเดือน เนื้อขาวแน่น ไม่ติดเปลือก

กินแล้วไม่มีพิษมีภัยอีกด้วย เอา "ขี้แดดนาเกลือ" แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า "ดินหนังหมา" มาโรยโคนต้นก่อนเก็บผล



ยิ่งทำให้ส้มโอขาวใหญ่หอมหวานเหลือเชื่อ ใครได้กินเป็นติดอกติดใจทั้งนั้น



น้าสมทรงชักชวนเพื่อนบ้านให้ปลูกส้มโอขาวใหญ่กัน จนลืมขาวพวง, ขาวทองดี จนหมดสิ้น

แต่ผีพี่เพ็ญก็ชอบป้วนเปี้ยนอยู่ในสวนส้มโอใกล้ๆ ต้นลิ้นจี่ที่เธอผูกคอตายน่ะแหละครับ...พวกบ้านผมปลูกลิ้นจี่กันทุกบ้านอย่างน้อยก็ต้นสองต้น



เก็บกินได้เหลือเฟือพอๆ กับชาวเชียงใหม่ปลูกต้นลำไยไว้หน้าบ้านนั่นล่ะคุณ



...ตอนเย็นๆ ใกล้ค่ำ ใครเดินผ่านสวนนั้นมักจะเห็นพี่เพ็ญเดินสวนมาบ้างเดินนำหน้าบ้าง ส่วนมากร้องจ๊าก...วิ่งหนีชนิดแหกป่าแหกสวนกันทุกคนไป!

ครั้นถึงตอนค่ำคืน มักได้ยินเสียงร้องไห้ล่องลอยมากับสายลม บางทีก็เป็นเสียงสะอึกสะอื้นคร่ำครวญ หมาเจ้ากรรมก็หอนได้หอนดี

ชาวบ้านร้านช่องลนลานปิดประตูหน้าต่าง สวดมนต์ปากคอสั่นไปตามๆ กัน



วันหนึ่งพวกผมก็เจอดีเข้าเต็มเปา!



จำได้ว่าเป็นวันอาทิตย์ ผมกับเจ้าเขียด เจ้าอ๋อง พากันลุยสวนไปหายิงนกหนู กระรอกระแตตามความเคยชิน เจ้าเขียดบอกว่ามันไม่กลัวผี

ข้างเจ้าอ๋องก็บอกว่ากลางวันแสกๆ แบบนี้กูก็ไม่กลัว มากันตั้งสามคนจะไปหวั่นอะไรวะ? ปะเหมาะจะได้เห็นผีพี่เพ็ญว่าตายแล้วจะเป็นยังไง?



ผมเองครึ่งกล้าครึ่งกลัวชอบกล พอกระโดดข้ามท้องร่อง


เข้าไปในสวนส้มโอลุงยิ่ง สรรพสิ่งพลันเงียบกริบลงกะทันหัน!

ลมไม่พัด ใบไม้ไม่ไหว เงียบเชียบเหมือนโลกนี้กลายเป็นโลกร้างโดยสิ้นเชิง...แสงแดดที่ส่องอยู่เหนือหัวก็พลันเลือนหาย

กลายเป็นความครึ้มสลัวเหมือนยามใกล้ค่ำเจ้าคนเก่งทั้งสองก็ชะงักกึก เหลียวซ้ายแลขวา ผมเองรู้สึกขนลุกซ่าไปทั้งตัว



ทันใดนั้นเอง เสียงเยือกเย็นก็ดังแว่วมาเข้าหู!



"อยากเห็นพี่เหรอ อ๋อง...เขียดล่ะ? อยากเห็นพี่มั้ย..."

พวกเรายืนตะลึงงันเหมือนถูกสาปให้กลายเป็นหิน ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปก็เห็นภาพนั้น...ภาพที่จะไม่มีวันลืมเลือนได้เลยจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ

พี่เพ็ญคนสวยนั่งห้อยขาอยู่บนกิ่งส้มโอ ใบหน้ายิ้มละไม นัยน์ตาดำขลับจ้องมองพวกเราเขม็ง...แม้ว่าจะไม่มีอะไรน่าเกลียดน่ากลัว



แต่สำนึกที่บอกว่า...เธอตายไปแล้ว! ก็ทำให้ขนหัวลุกตั้ง



หน้าชาเห่อ ตัวสั่นเทา อยากจะออกวิ่งไปให้ไกลลิบแต่ขาทั้งสองข้างดันหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยก้อนหิน

ปีศาจแสนสวยกระโดดตุ๊บลงมายืนหัวเราะร่วน ไม่รู้ใครร้องเอิ๊บ! แล้วพวกเราก็วิ่งกระจายไม่คิดชีวิต...ผมเข็ดหลาบจนไม่กล้าเข้าสวนลุงยิ่งมาถึงทุกวันนี้!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์