ผู้มาจากอดีต
"ปริศนา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบ้านเกิด
บ้านดิฉันสร้างขึ้นเมื่อห้าสิบกว่าปีก่อน บนเนื้อที่เกือบสามไร่ย่านบางกะปิ ตอนนั้นดิฉันเพิ่ง 2 - 3 ขวบเท่านั้นเอง
คุณพ่อเจตนาจะให้อยู่กันชั่วลูกชั่วหลาน ท่านมีลูก 4 คน ดิฉันเป็นคนที่สอง มีพี่ชายหนึ่ง น้องสาวอีก 2 คน
ระยะเวลาห้าสิบกว่าปีที่บ้านนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย
ส่วนใหญ่เป็นความสุขและความผูกพัน ดิฉันจึงใจหายเมื่อคิดทบทวนถึงผู้คนที่เคยอยู่รวมกับเราในบ้านหลังนี้มาก่อน
ไม่น่าเชื่อเลย ผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็คือคุณพ่อคุณแม่ ดิฉัน พี่ชายและน้องสาวทั้งสอง เรียกว่าอยู่ครบหกคนพ่อแม่ลูก แต่นอกนั้น
ไม่ว่าจะเป็นคนรับใช้ คนรถ คนสวน แม่บ้าน ที่คอยดูแลเรามา
ต่างล้มหายตายจากกันไปทุกคน
ดิฉันหมายถึงคนรุ่นแรกๆ ที่อยู่กับเรามาตั้งแต่สร้างบ้านใหม่ๆ นะคะ!
คนรับใช้และบริวารสมัยโน้น ซื่อตรงจงรักและไม่จากเราไปไหน ไม่เปลี่ยนงานบ่อยอย่างคนรับใช้สมัยนี้ เรารักเขาเหมือนญาติ
เขาเองก็ผูกพันกับเรา! คิดดูสิคะ พวกเขาอยู่กับเรา 24 ชั่วโมงทุกวัน
ติดต่อกันนับสิบปี ในที่สุดบางคนก็ไปแต่งงาน บางคนไม่สบายขอกลับไปรักษาสุขภาพที่บ้านเดิมต่างจังหวัด
คนรุ่นเก่าจากไป คนรุ่นใหม่ก็เข้ามา....
เรือนคนใช้และห้องหับต่างๆ ยังอยู่เหมือนเดิม พลังชีวิตของคนรุ่นเก่าก็ยังอยู่ ดิฉันมองไปยังห้องเหล่านี้แล้วอดนึกถึงพวกเขาไม่ได้
คิดถึงก็ไม่รู้จะติดต่อกันอย่างไร...เพราะพวกเขาจากโลกนี้ไปหมดแล้ว!
บ้านดิฉันไม่มีผีสิง ไม่มีคนตายที่นี่ แต่มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นประจำจนพวกเราชิน มันอาจจะเพราะบ้านของเราอยู่ตรงทางสามแพร่งก็ได้ค่ะ
เมื่อก่อนที่นี่มีชีวิตชีวา สว่างไสว แต่ทุกวันนี้เหลือแต่ดิฉัน คุณพ่อคุณแม่น้องสาวคนหนึ่งกับสามี และลูกชายทั้งสองของเธอ
พวกพี่ชายกับน้องอีกคนหนึ่งแต่งงานแยกบ้านไป
ทำให้บ้านที่กว้างขวางดูวังเวง ตอนกลางคืนน่ะมืดสนิทเชียว
ลองนึกถึงสภาพตึกใหญ่ทรงยาว มีต้นไม้ร่มครึ้ม ตอนกลางวันเขียวขจี แต่พอสิ้นแสงตะวันมันค่อนข้างเหงาหงอยจนน่าวังเวงใจเลยค่ะ
น้องสาวกับครอบครัวเธอ ปลูกบ้านหลังเล็กแยกไปต่างหากในพื้นที่เดียวกัน บนตึกใหญ่เหลือแต่ดิฉันกับคุณพ่อคุณแม่เท่านั้นเอง!
ตรงกลางระหว่างตึกใหญ่กับเรือนคนใช้ซึ่งติดกับโรงครัว
เป็นลานโล่งกว้างขนาดสนามบาสเกตบอลแน่ะค่ะ ตอนเล็กๆ ดิฉันกับน้องๆ วิ่งเล่น หัดขี่จักรยาน
เล่นแบดมินตันกันก็ตรงนี้ มันกว้างดี! เวลามีงานเลี้ยงอย่างวันเกิด วันปีใหม่ ก็จะตั้งโต๊ะเลี้ยงดูแขกเหรื่อได้สบาย
ทุกวันนี้ ตอนกลางคืน ดิฉันกับน้องสาวและหลานๆ
ยังชอบมานั่งดูพระจันทร์ ดูดาว แสงจันทร์ส่องลงมาเจิดจ้าสวยมาก แต่บางคืนจะดูมลังเมลืองเหมือนแดนมหัศจรรย์!
บางคืน ดิฉันเดินเข้าครัวคนเดียว ทำข้าวต้มให้คุณพ่อคุณแม่ หรือต้มบะหมี่ให้หลานๆ ตามลำพัง ดิฉันเคยได้ยินเสียงลากรองเท้าแตะมากระทบหู...
เสียงแชะ...แชะ...ที่ลานนี้ชัดเจนเชียวค่ะ!
เอ...สาวใช้คนใหม่ก็ดูทีวีอยู่ในห้องของเธอ ปิดประตูสนิท...
ดิฉันไม่ได้คิดอะไรมาก หวาดๆ เหมือนกัน แต่ไม่ถึงกับกลัว มีบางทีถ้าเสียวไส้ก็จะชวนหลาน หรือเรียกสาวใช้มาอยู่เป็นเพื่อน
เมื่อเดือนก่อน ลูกหลานของคนสวนเก่าแก่แวะมาเยี่ยมเรา พวกเขามาไกลค่ะ จากเชียงรายโน่น
คุณแม่ดิฉันชักชวนให้ค้างที่เรือนคนใช้...
ห้องที่พ่อของเขาเคยอยู่มานานสมัยอดีต...
ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งเช้ามืด เขาตื่นขึ้นมาช่วยเช็ดรถดิฉันอย่างมีน้ำใจ เหตุการณ์น่าขนลุกก็ถูกถ่ายทอดออกมา...
เขาบอกว่าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นความจริงหรือฝัน? เขาเห็นพี่เลี้ยงของดิฉันซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว
เดินออกมาจากโรงครัวแล้วชวนเขาคุย
ซึ่งเขาก็คุยด้วยอาการคล้ายละเมอเหมือนหลับในแล้วฝันไป มือก็เช็ดรถไปด้วยค่ะ!
พอเขาเล่าแบบนี้ ดิฉันก็เลยไม่รู้ว่าวิญญาณพี่เลี้ยงดิฉันมาจากปรโลกจริงหรือเปล่า?
ดิฉันเคยเดินเล่นรอบๆ บ้านตอนหัวค่ำ หลังมื้อเย็น
บ้านเรามีดอกราตรี ดอกแก้ว พุดซ้อน และจำปีหอมกรุ่น กำลังเดินอยู่เพลินๆ มีมือมาจับที่บ่าและโอบกอดเอว...
ทีแรกนึกว่าน้องสาว ดิฉันยังยิ้ม แต่พอหันไป...ปรากฏว่าพบแต่ความว่างเปล่า ทั้งๆ ไออุ่นของมือที่ทาบบ่ากับเอวยังอยู่เลยค่ะ...ยอมรับว่าขนลุกซู่เลย ตอนนั้นน่ะ!
สองคืนก่อน หลานชายวัยรุ่นของดิฉันเกิดหิวขึ้นมาตอนห้าทุ่ม
อ้อนให้ป้าทำบะหมี่ให้กิน ดิฉันชวนเขาเข้าครัวไปต้มบะหมี่กันสองคนป้าหลาน รอบบ้านมืดเพราะไม่ได้เปิดไฟ มีแต่แสงจันทร์ส่องลงมาบนลาน...
ทันใดนั้น เราทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงลากรองเท้าแตะ เหมือนมีคนเดินจากตึกใหญ่ลงมาหาเราที่โรงครัว พอเดินจวนจะมาถึงเรา..จู่ๆ
เสียงนั้นก็ขาดเงียบไปเฉยๆ ดิฉันเหลียวมอง ไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว!
หลานสบตาดิฉัน และถามว่าได้ยินมั้ย? ดิฉันพยักหน้า นึกเห็นภาพใครคนนั้นเดินมาแล้วหายไปกลางทาง...กลางอากาศ...
รอบบ้านเงียบสงบ ห้องต่างๆ ที่เคยมีพวกเขาอยู่ปิดสนิท แต่อะไรก็ไม่รู้ทำให้ดิฉันจินตนาการว่า พวกเขายังอยู่ในห้องเหล่านั้น
ด้วยความผูกพัน ใครบางคนอาจคิดถึงและกลับมาหาอีกครั้ง...จากโลกวิญญาณ!
แหล่งที่มา:
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!