เจ้าของเขาหวง


เจ้าของเขาหวง

"กรรณิการ์" เล่าเรื่องขนหัวลุกเมื่อวิญญาณหวงสมบัติ



ป้าต้อเป็นคนดุมาก พอๆ กับความเจ้าระเบียบและความซื่อตรง

จงรักภักดี...แกเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของคุณแม่ดิฉันเอง อยู่กันมาตั้งแต่คุณแม่อายุสิบกว่าขวบจนตอนนี้คุณแม่แปดสิบแล้วค่ะ


ส่วนป้าต้อก็แปดสิบห้า ทำงานรับใช้ไม่ไหว



แต่เรานับถือแกเป็นญาติคนหนึ่งเลยทีเดียว

แล้วในที่สุด แกก็มาตายจากไปเมื่อเดือนก่อนนี่เอง!

ห้องป้าต้ออยู่ชั้นล่าง ข้างบันไดของตึกใหญ่บ้านเรา ไม่ได้อยู่ในเรือนคนใช้เหมือนคนรับใช้อื่นๆ ที่คุณแม่รับมารุ่นแรกๆ



คนรับใช้สมัยนี้น่าปวดหัวมากค่ะ



ถ้าเป็นคนไทยก็มักจะชวนกันเปลี่ยนงานบ่อยๆ หรือไม่ก็ไปทำงานโรงงานเลย เหลือแต่พวกที่มาทำงานในกรุงเทพฯ

เพื่อรอเกี่ยวข้าวดำนา เวลาขอลากลับบ้านแต่ละทีก็เป็นเดือนสองเดือน แถมยังขอหยุดทุกเทศกาลงานประเพณีอีกด้วย



เผลอๆ จะออกจากบ้านเราก็บอกซะกะทันหัน หรือไม่ก็ไปเลย



ไม่บอกไม่กล่าว เรื่องน้ำใจ หรือความผูกพันกับเรานั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่เหมือนคนสมัยเมื่อ 30-40 ปีที่แล้วเลย

คนรุ่นนั้นส่วนใหญ่ไว้ใจได้ ทำงานดีมากด้วย ยิ่งเรากับป้าต้อน่ะรักกันมากเชียวค่ะ

นับว่าป้าต้ออยู่ในบ้านเรามาครบสามรุ่น คือคุณแม่ ตัวดิฉันและลูกๆของดิฉันซึ่งตอนนี้อยู่มหาวิทยาลัยกันแล้ว



แม้ว่าจะแก่มาก แต่ป้าต้อจะคอยดูแลคนรับใช้รุ่นใหม่ให้เป็นระเบียบ



ซึ่งมีทั้งไทย ลาว และพม่า ทุกคนกลัวป้าต้อมากเพราะแกดุและเด็ดขาดจริงๆ แกเข้มงวดมาก

ถ้าใครทำผิดแกจะดุด่าจนคนนั้นหงอไปเลย และถ้าจับได้ว่าไม่ซื่อแกจะไล่เลียงซะจนคนนั้นจนมุมทุกราย



อย่างเช่นนายชอบ คนรถของดิฉันมาขอเงินไปห้าร้อยเพื่อเติมน้ำมัน



พอลับหลังดิฉันก็ไปขอจากคุณแม่อีกห้าร้อย โดยคุณแม่ไม่ทราบว่าดิฉันให้ไปแล้ว มาทราบเอาหลังจากนั้นวันเดียว

เพราะดิฉันบอกคุณแม่ว่าถ้าใช้นายชอบขับรถไปธุระละก็ไม่ต้องเติมน้ำมันเพราะดิฉันให้เงินไปเติมแล้ว



พอป้าต้อได้ยินเท่านั้นเอง แกออกคำสั่งให้คนใช้สาวๆ



ไปตามนายชอบมาแล้วแกก็ว่าความมันเดี๋ยวนั้น นายชอบหน้าซีดแก้ตัวว่าลืมไป เผลอไป แล้วหยิบเงินคืนคุณแม่ห้าร้อยบาท

ดิฉันทั้งสงสารทั้งสะใจซะไม่มี!

ฝ่ายนายชอบแทนที่จะโกรธเคืองป้าต้อ เขากลับนับถือและกลัวเกรงกว่าแต่ก่อนเยอะเลย สังเกตได้จากการพินอบพิเทา



ไม่พูดยั่วพูดหยอกไม่มีสัมมาคารวะอย่างที่เคยทำ...



ไปไหนกลับมาก็ซื้อขนมฝากป้าต้อเป็นประจำ

ตอนป้าต้อไม่สบายดิฉันก็คอยดูแล แกลุกไม่ไหวค่ะ อยู่ๆ ก็เพลีย เวียนศีรษะ เป็นไข้สูง หนาวสั่น ดิฉันพาขึ้นรถไปหาหมอ

นายชอบขับไป...ปรากฏว่าแกเป็นกรวยไตอักเสบ รักษาอยู่เป็นนานจึงทุเลา แต่ไม่ทันไรก็เป็นไข้หวัดและปอดบวม



ความอ่อนแอบวกกับอายุมากขนาดนี้ ป้าต้อจึงต้องจากไป!



ป้าต้อไม่มีญาติพี่น้อง หรือถึงจะมีก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย แกมีแต่เราเท่านั้น...ตอนที่ตายแกมีเงินเก็บซ่อนไว้เกือบสองแสนบาท ดูซิคะ!

ซุกไว้ในที่นอนอย่างดี แกบอกคุณแม่ตอนเป็นไข้ครั้งหลังนี่แหละ ว่าเงินนี้คือเงินที่เราให้แกทั้งที่แกไม่ได้ทำอะไร ดังนั้น จึงยกให้คุณแม่


เราก็เอาเงินนี้จัดการงานศพและทำบุญ ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้บัญชีหนึ่ง



เผื่อทำบุญครบรอบวันตายให้แกอีก

ระหว่างที่เราไปฟังสวดที่วัดกันอยู่ทางนี้ คนใช้สาวสวยสองคนที่เฝ้าบ้านให้เราก็เข้าไปในห้องป้าต้อ...

ห้องของป้าจัดไว้เรียบร้อยราวกับฉากละครทีวี ตู้เสื้อผ้ารุ่นเก่ายังอยู่ในสภาพดีเยี่ยม เสื้อลูกไม้ และผ้าถุงสวยๆ พับเรียงเป็นตั้ง



นอกจากนั้นก็ไม่มีสมบัติอะไรมากนัก...ป้าต้อเป็นคนประหยัด ไม่บ้าสมบัติ



เด็กสาวใช้ทั้งคู่คือดาวกับมน มายอมรับหลังจากนั้นว่า กลัวผีป้าต้อ แต่อยากค้นหาของหาสมบัติ เพราะได้ยินว่าป้าต้อซุกเงินไว้ในที่นอนตั้งสองแสนบาท

การค้นหาขุมทรัพย์ในห้องป้าต้อท่าทางจะสนุกมาก เจ้าหล่อนรื้อซะกระจุย ทั้งในตู้เสื้อผ้า ในลิ้นชัก แต่ไม่เจออะไรนอกจากของเล็กๆ น้อยๆ เช่น


หวีสับที่ใช้เสียบผมมวย ที่ติดเสื้อเพชรปลอม



สร้อยคอที่คุณแม่กับคุณยายให้ป้าต้อเป็นสร้อยทองแขวนพระเครื่องเลี่ยมทอง ป้าต้อเก็บบูชาไว้หัวเตียง

สองสาวก็หยิบไปด้วย เพราะคิดว่าไหนๆ เจ้าของก็ตายแล้ว...ถือเป็นมรดกที่ป้าต้อให้แล้วกัน



ทว่า มรดกกองนี้เจ้าของยังไม่ได้เอ่ยปากอนุญาต ฉะนั้นแกจึงตามมาทวง!



หลังจากรื้อค้นของจนพอใจ ได้เครื่องประดับและสร้อยทองของมีค่าไปแล้ว ดาวก็เข้าอาบน้ำ ส่วนมนกำลังชื่นชมสมบัติจนลืมกลัวผีอยู่ในนั้น

พลันก็มีเสียงเคาะประตู มนคิดว่าเป็นดาวก็เลยตะโกนว่า...ประตูก็เปิดอยู่ มาเคาะทำไม จะแกล้งกันเหรอ?



ทันใด ประตูก็เปิดกว้างช้าๆ ป้าต้อยืนหน้าขาวอยู่ในแสงไฟ เห็นชัดๆ



ส่วนดาวนั้นกำลังอาบน้ำอยู่ดีๆ มีมือยาวๆ ของป้าต้อลอดช่องลมมาเขกหัวดังโป๊ก ดาวเข่าอ่อน นั่งพับอยู่ข้างโอ่งน้ำตั้งแต่เห็นมือนั้นถนัดตา!

เมื่อเรากลับจากงานศพ ก็พบทั้งคู่ในสภาพดูไม่ได้เลยค่ะ...ดาวมีผ้านุ่งเปียกๆ กระโจมอกผืนเดียว ส่วนมนอยู่ในชุดเดิมแต่ผมเผ้ากระเซิง


ทั้งคู่ตัวสั่น ร้องไห้ ดิฉันต้องพาทั้งคู่จุดธูปขอขมา เอาของไปคืน



ต้องเล่าถึงนายชอบสักหน่อย เขาถูกลอตเตอรี่เป็นรางวัลที่กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี...ป้าต้อของดิฉันดุดีมั้ยล่ะคะ?




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์