ผู้นำทาง!?


ผู้นำทาง!?

"เมืองชัย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากซอยเปลี่ยว



ผมเคยฟังคนเล่าเรื่องผีมานับไม่ถ้วน ประเภทที่บอกว่าเคยได้ยินมายังงั้นยังงี้น่ะ จัดอยู่ในประเภท

"เขาเล่าว่า" จะจริงหรือเท็จก็ไม่รู้ละ แต่พวกที่บอกว่าเคยโดนผีหลอกมากับตัวเองนี่ซี บอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่หรอกครับ



จนกระทั่งมาเจอะเจอเข้ากับตัวเองเข้าจังๆ พูดไม่ออก บอกไม่ถูกจริงๆ



จะว่าประสาทหลอนก็ได้ จินตนาการไปเองเพราะความกลัวชนิดขนหัวลุกก็ได้...แหละหรือว่าจะเกิดจากความเมามายเป็นสาเหตุสำคัญ?

บ้านผมอยู่แถวคลองประปาบางซื่อนี่เอง ค่อนข้างลึกเอาการ แถมลดเลี้ยวตามซอยเล็กซอยน้อยอีกต่างหาก


อาศัยว่าผมอยู่มาแต่เด็กจนเป็นหนุ่มเลยคุ้นเคย



ไม่ต้องกลัวคนกลัวผีให้ประสาทกินเปล่าๆ

ถ้าจะมีอะไรน่าวังเวงใจก็คือตรงข้ามคลองประปา ริมถนนใหญ่นั่นแหละครับ เพราะมีต้นไทรขนาดใหญ่ปะปนอยู่กับต้นไม้อื่นๆ เช่น ประดู่, สัก, ก้ามปู, อินทนิล กับ


อะไรต่อมิอะไรอีกเยอแยะ ร่มครึ้มดีในเวลากลางวัน



แต่ตอนกลางคืนมีรถราน้อย ผู้คนไม่ค่อยมี แหม...มันดูเยือกเย็นเอาการ

ต้นไทรที่ว่าก็เกิดมี 2 ต้นขึ้นประชันกันซะด้วย!

ไม่มีต้นอะไรมาคั่นกลางซักต้นเดียว ยามค่ำคืนฝนตกพรำๆ ผมเคยเดินผ่านเพื่อข้ามสะพานเข้าซอยบ้าน


ได้ยินเสียงซู่ซ่าก็เงยหน้าขึ้นมองโดยไม่ได้ตั้งใจ...



มันมืดมนอนธกานเหมือนมองเข้าไปในเหวลึกที่ไม่จบสิ้นยังไงยังงั้น...

จู่ๆ คืนหนึ่งก็เกิดเรื่องสยองขวัญขึ้นมา!

"ลุงวับ" คนในซอยเป็นโรคไหลตายครับ คืนนอนหลับแล้วเลยไม่ยอมตื่นซะดื้อๆ ลูกหลานคงจะทำใจได้เพราะแกอายุ 70 กว่าเข้าไปแล้ว


แถมมีโรครุมเร้าสารพัด...ดูเหมือนแกจะเป็นเกือบ 10 โรคได้มั้ง



ขนาดโรคเกาต์ยังเป็นกับเขานี่นา

พวกเราไปช่วยงานศพที่วัดเซิงหวายกันคับคั่ง จนกระทั่งถึงพิธีสวดศพคืนสุดท้าย...ออกจากวัดราวทุ่มเศษ

พรรคพวกผมก็ชวนกันแวะกินข้าวต้มแถวเตาปูน...ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับ ว่าย่อมจะมีการสั่งเหล้าโซดามาแก้เหนื่อยกันตามระเบียบ



ฝนเจ้ากรรมก็ซัดลงมาแทบไม่ลืมหูลืมตา



ไม่เป็นไร...พี่เมฆมีรถปิกอัพทั้งคันนี่นา เราเฉิ่มเหล้ากันเพลิดเพลินจนสี่ทุ่มกว่าๆ ฝนถึงได้ซาเม็ด

พี่บังหลานลุงวับบอกว่าได้เงินช่วยงานมาหนักกระเป๋า จัดการเป็นเจ้ามือแล้วเราก็ยกโขยงกันกลับบ้าน



อ้าว? ข้ามสะพานเลี้ยวเข้าซอยได้หน่อยเดียว รถเกิดเสียดื้อๆ



ตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกเหมือนตกอยู่ในโลกร้าง...รอบๆ ตัวมีแต่ความเปล่าเปลี่ยว เยือกเย็น ฝนบางๆ พรมพรำอยู่ในแสงไฟข้างถนน

ต้นไม้ต้นไร่ยืนทะมึนเหมือนเงียบเชียบ คล้ายจะจ้องมองเราอย่างมุ่งร้ายหมายขวัญ...จู่ๆ ก็สะบัดใบเกรียวกราวซู่ซ่า เล่นเอาหวิดสะดุ้ง ปากคอแห้งผากไปหมด



พี่เมฆบอกว่าจนปัญญาแก้ไข จะรอแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง



ไปตามช่างที่ปั๊มน้ำมัน แกบอกให้ผมกับพี่บังกลับบ้านก่อนเถอะ เราอิดออดแกก็ไม่ยอมท่าเดียว

ในที่สุดผมกับพี่บังก็เดินย่ำต๊อกเข้าซอย...มันพร่าๆ มึนๆ บอกไม่ถูก อันที่จริงเราน่าจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เมฆนะครับ หรือไม่ก็ข้ามสะพานไปหารถฝั่งโน้น...


แต่ไหนๆ ก็เข้าซอยเงียบเชียบ เปล่าเปลี่ยวแล้วนี่นา



ตะละบ้านดับไฟนอนกันหมดสิ้น

เราเดินกันเงียบๆ จนได้ยินเสียงอะไรดังขึ้นเบื้องหลัง!

"ตุ้บๆๆ" ว่าจะไม่หันไปมองก็อดไม่ได้...อ้าว? พี่เมฆนี่นาที่เดินตามหลังมา พี่บังหันไปเรียก "พี่เมฆๆ แต่ไม่มีคำตอบ เรารอจนร่างนั้นใกล้เข้ามา...


ปรากฏว่าไม่ใช่แฮะ เป็นคนร่างสูงใหญ่ แสงไฟทำให้เกิดรูปเงาน่ากลัว...



ใครก็ไม่รู้ซี...

ผมรู้สึกหายเมาสนิท ล้วงกระเป๋าไปแตะมีดสปริง...เขาหนึ่งเราสองคงจะไม่กระไรนัก ปะเหมาะก็คงเชือดกันแดงเถือกไปทั้งซอยนี่แหละ!

แต่ร่างนั้นคล้ายจะหยุดหรือไม่ก็ถอยหลังไปดื้อๆ

เราถอนใจยืดยาวออกเดินต่อ เดี๋ยวๆ ก็หันกลับไปมองซักที...มองไม่เห็นร่างนั้นแล้ว แต่กลับมีเสียงตุ้บๆๆ ดังแว่วมาเข้าหูอีกครั้ง



"อะไรวะ" พี่บังร้องเบาๆ ผมมองตามไปก็เห็นร่างของชายหนึ่ง



ปรากฏอยู่ข้างหน้าเรา...ร่างสูงใหญ่คล้ายคนที่เคยเห็นเดินตามหลังเมื่อตะกี้ แต่ทำไมมาเดินอยู่ข้างหน้า? ช้าๆ บางทีก็หันมามองแล้วออกเดินนำต่อไป

"ลุงวับหรือวะ?" พี่บังหลุดปากเล่นเอาผมสะดุ้ง...ปากคอแห้งจนอยากได้เหล้าอึกโตๆ หัวใจก็เต้นตึกๆ ด้วยความหวาดระแวง


อากาศยามดึกเย็นเฉียบจนขนลุกซ่า...นึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่อยู่เป็นเพื่อนพี่เมฆ!



นี่มันเกิดนรกจกเปรตอะไรขึ้นมาล่ะ?

ทั้งเงียบ มืดและเยือกเย็น บรรยากาศน่าวังเวงใจสุดๆ ผมอยากจะหันกลับไปทางปากซอยก็สายเสียแล้ว

อยากจะวิ่งเตลิดไปข้างหน้าก็กลัวร่างที่เดินเทิ่งๆ เหมือนจะนำทาง...แถมดูสูงใหญ่ขึ้นทุกที



...เดี๋ยวมันก็คงแยกไปจนได้! ผมนึก แต่ที่ไหนได้...ร่างสูงใหญ่ดำทะมึน



นั่นเดินนำไปตามทางที่เราจะกลับบ้าน เลี้ยงขวาแล้วเลี้ยวซ้าย...ผมกับพี่บังเดินเบียดกันแจ

ใจคอเต้นตูมตามไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว หน้าเย็นหลังเย็นเหมือนเลือดมันหนีเข้าไปแอบซ่อนอยู่ข้างในจนหมด



นานเหลือเกิน...นานเกือบชั่วชีวิตกว่าจะถึงบ้าน!



ร่างกำยำชะงักกึกก่อนจะหันมามองช้าๆ แล้วยิ้ม...คุณพระช่วย เป็นยิ้มที่ผมไม่มีวันลืมลงเลยจนกว่าจะถึงวันตายก่อนที่ร่างนั้นจะเลือนรางจางหายไป...

พี่บังขออาศัยนอนกับผม แกใกล้จะเป็นลมเต็มทีแล้วครับ




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์